..........กระทรวงศึกษาฯ เร่งจัดทำสมุดบันทึกความดีประกอบการสอบเอนทรานซ์ ให้เสร็จทันเดือนมีนาคม ก่อนประกาศใช้กับนักเรียนชั้นม.4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2545 นี้ ทั้งนี้ เพื่อให้ทันการสอบเอนทรานซ์แบบใหม่ในปี 2547 เผยการบันทึกความดีในเบื้องต้นจะครอบคลุมความดีทุกอย่าง เช่น นักเรียนเข้าไปบำเพ็ญประโยชน์ ช่วยทำความสะอาดโบสถ์ภายในวัด การอุทิศเวลาอ่านหนังสือให้คนตาบอดฟัง การเป็นพี่เลี้ยงสอนหนังสือเด็กด้อยโอกาส ซึ่งทั้งหมดต้องบันทึกจำนวนชั่วโมง และต้องผ่านการรับรองจากอาจารย์ใหญ่

นางสิริกร มณีรินทร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้าการจัดทำสมุดบันทึกความดีว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ ทบวงมหาวิทยาลัย หาข้อสรุปในการนำสมุดบันทึกความดี เพื่อไปประกอบพิจารณาคัดเลือกบุคคลเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยหรือการสอบเอนทรานซ์ ว่าจะให้ค่าคะแนนเท่าไร ซึ่งในส่วนของกระทรวงศึกษาฯ นั้น ได้มอบหมายให้กรมวิชาการ กรมสามัญศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ(สปช.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) กรมอาชีวศึกษา กรมการศึกษานอกโรงเรียน(กศน.) ร่วมกันศึกษารายละเอียดรูปแบบของสมุดบันทึกความดี

ทั้งนี้ ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้ จากนั่นจะจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง นักเรียน ก่อนจะประกาศใช้ในภาคเรียนที่ 1 / 2545 ในนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อให้ทันการสอบเอนทรานซ์ระบบใหม่ในปีการศึกษา 2547

นางสิริกร กล่าวต่อว่า ในเบื้องต้นการบันทึกความดีของนักเรียนแต่ละคน จะครอบคลุมการทำความดีทุกอย่าง ที่มีการทำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีการบันทึกจำนวนชั่วโมง และมีผู้รับรอง อาทิ นักเรียนเข้าไปบำเพ็ญประโยชน์ ช่วยทำความสะอาดโบสถ์ภายในวัด ก็อาจจะได้รับคำรับรองจากเจ้าอาวาส การอุทิศเวลาอ่านหนังสือให้คนตาบอดฟัง การเป็นพี่เลี้ยงสอนหนังสือเด็กด้อยโอกาส โดยจะต้องขอคำรับรองจากอาจารย์ใหญ่ เป็นต้น ทั้งนี้ การบันทึกความดีดังกล่าว หลายกรมก็ได้ดำเนินการมาแล้ว อย่าง สปช.ได้ทำโครงการยุวทูตแห่งความดี และกรมอาชีวะ ก็ได้ทำระเบียนความดี เป็นต้น

                                                                                                       แหล่งข้อมูลจาก Http://www.Entranceinfo.mua.go.th/

..........ทบวงฯได้ข้อสรุประบบกลางการรับนิสิตนักศึกษา ซึ่งจะประเดิมใช้ในปีการศึกษา 2548 แล้ว โดยจะใช้ระเบียนสะสมผลงาน และคะแนนบันทึกคุณงามความดี ประกอบการพิจารณา ส่วนจีพีเอและพีอาร์ ยังคงใช้เป็นส่วนประกอบในสัดส่วน 10% โดยจะพัฒนาสำนักทดสอบกลาง ทำหน้าที่หน่วยงานทดสอบทางวิชาการ ตามแนวปฏิรูปการศึกษา

นายสุชาติ เมืองแก้ว รองปลัดทบวงมหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า จากการประชุมสัมมนาทางวิชาการเรื่อง "การปรับปรุงระบบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาในระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษา" นั้น ที่ประชุมได้สรุปถึงระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษา (Central University Admissions System) ที่จะเริ่มใช้ในปี 2548 โดยจะให้ใช้ระเบียนสะสมผลงาน ซึ่งรวมไปถึงนำคะแนนบันทึกคุณงามความดี ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือผู้สมัครเป็นส่วนประกอบหนึ่งในการพิจารณา ส่วนผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร (GPA) และตำแหน่งลำดับที่ (PR) ยังคงใช้เป็นส่วนประกอบในสัดส่วน 10%

ทั้งนี้ จะมีการพัฒนาหน่วยงานกลาง ตามแนวปฏิรูปการศึกษา เพื่อเป็นหน่วยทดสอบมาตรฐานผู้เรียนระดับป.3 ป.6 ม.3 และม.6 พร้อมทำหน้าที่เป็นหน่วยทดสอบวิชาการ ในการรับนิสิตนักศึกษา โดยจะพัฒนายกระดับสำนักทดสอบกลาง ทบวงมหาวิทยาลัย ขึ้นเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดังกล่าว

รองปลัดทบวงฯ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม ข้อสรุปดังกล่าว จะเสนอที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) พิจารณาอีกครั้ง รวมทั้งหารือกับสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งจะเข้าร่วมโครงสร้างอุดมศึกษาใหม่ด้วย ซึ่งคณะทำงานการคัดเลือกนักศึกษาที่ตนเป็นประธาน จะนัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงศึกษาธิการ ทปอ.และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมวิชาการและกรมสามัญศึกษา เพื่อวางแผนการทำงานร่วมกันเร็วๆ นี้

โดยขณะนี้ก็มีการนำแนวทางการดำเนินการคัดเลือกนักศึกษาของประเทศอังกฤษ ที่นำองค์ประกอบหลายส่วนเป็นตัวชี้วัดมาศึกษา ซึ่งในส่วนของไทยนั้น กรมอาชีวศึกษาก็มีการนำบันทึกคุณงามความดีมาประกอบการพิจารณา แต่เป็นการดำเนินการในระดับโรงเรียน

นายสุชาติ กล่าวด้วยว่า สำหรับการนำระเบียนสะสมผลงาน ซึ่งรวมไปถึงบันทึกคุณงามความดีประกอบการพิจารณา ซึ่งหลายฝ่ายยังเป็นห่วงเรื่องความโปร่งใส ความยุติธรรมในการพิจารณา โดยที่ประชุมเห็นว่า จะต้องมีการวางหลักเกณฑ์การพิจารณา ที่มีองค์ประกอบ ตัวชี้วัด วิธีการที่สร้างระดับการวัดให้เป็นที่ยอมรับ และจะต้องมีการทดลองนำร่องก่อนดำเนินการจริง โดยระยะเริ่มแรกของการใช้จริง น่าจะต้องใช้วิธีการสอบสัมภาษณ์ คู่ขนานกับการวัดจากระเบียนสะสมผลงาน
                                                                                   
                                                                                                         แหล่งข้อมูลจาก Http://www.Entranceinfo.mua.go.th/