ปีที่ 3 ฉบับที่
983 ประจำวันจันทร์ที่ 27 เดือนมีนาคม พ.ศ. 2543 |
รายงานสัมมนาวิชาการ
โดย
ชมรมชาวพุทธสากลแห่งประเทศไทย
สถานการณ์พระพุทธศาสนาในปัจจุบัน
(ตอนจบ)
สัมมนาพระสังฆาธิการทั่วประเทศ ครั้งที่
1 ณ จิตตภาวันวิทยาลัย วันที่
24-26 มีนาคม 2543
เวลา 15.00 น. มีการลงสังฆามติใน 8
ประเด็น
1. การศึกษา
- ให้กำหนดวิชาพระพุทธศาสนาไว้ในหลักสูตร ตั้งแต่ชั้นประถม จนถึงอุดมศึกษา ให้มีการเรียนรู้เพื่อความเป็นพลเมืองดีของชาติ
- ให้ภาครัฐจัดงบประมาณสนับสนุนการศึกษาของสงฆ์ ทั้งแผนกธรรมบาลี, สามัญ จนถึงมหาวิทยาลัยสงฆ์ ในอัตราเดียวกันกับของนักเรียนนักศึกษา
- ให้ภาครัฐจัดงบประมาณในส่วนของการขบฉัน แก่สำนักเรียนต่างๆ ซึ่งมีพระเณรจำนวนมาก อาหารบิณฑบาตไม่เพียงพอ และอาคารเรียนพร้อมที่พักสงฆ์
- ให้ภาครัฐสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ประยุกต์ใช้กับการศึกษาพระพุทธศาสนา
และใช้ในการเผยแผ่พระศาสนาได้ด้วย
2. การเผยแผ่
- ให้รัฐควบคุมดูแลสื่อมวลชน มิให้กระทำย่ำยีต่อพระศาสนา จนเป็นเหตุให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาในพุทธศาสนา
- ให้สื่อวิทยุ โทรทัศน์ จัดสรรเวลาแก่คณะสงฆ์ จัดรายการปลูกฝังและส่งเสริมศีลธรรมแก่ประชาชนเป็นประจำ
- จัดงบประมาณสนับสนุน และอำนวยความสะดวกแก่โครงการเผยแผ่ธรรมะต่างๆ การสอนศีลธรรมในโรงเรียน ฯลฯ
- จัดเป็นนโยบายให้มีการบรรพชาอุปสมบท ศึกษาพระธรรมวินัยได้เต็มที่ ของกุลบุตร เพื่อเป็นการสร้างสาสนทายาท และเผยแผ่สืบทอดอายุพระศาสนา
- ให้มีนโยบายเชิงรุกในการเผยแผ่พระศาสนายังต่างประเทศ
โดยได้รับการสนับสนุน
จากสถานฑูตและกงสุลไทยในต่างประเทศเป็นอย่างดี
ให้ถือหนังสือเดินทาง
เช่นเดียวกับ ประชาชนทั่วไป
3. การปกครอง
- ให้จัดตั้งสำนักงานการคณะสงฆ์ถาวรขึ้นทั่วประเทศ พร้อมทั้งงบประมาณดำเนินงานบริหารคณะสงฆ์ทุกระดับ
- ตั้งสำนักงานการพระพุทธศาสนาขึ้น เป็นหน่วยงานระดับกรม มีความอิสระ ภายใต้การกำกับดูแลของ มส. เพื่อสนองงานการคณะสงฆ์ ในกิจการพระพุทธศาสนาต่างๆ
- ให้รัฐควบคุมดูแลเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ด้วยหลักเมตตาธรรม โดยคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล ในการปฏิบัติต่อพระสงฆ์
- การลงโทษพระสังฆาธิการ ต้องทำตามหลักเกณฑ์ โดยยึดถือหลักเมตตาธรรม
และความเคารพตามพระธรรมวินัย
4. สาธารณูปการ
- รัฐต้องจัดงบประมาณ การจัดสร้างอาคารสถานที่ พร้อมสาธารณูปการ ให้กับวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่เป็นสำนักเรียน
- จัดงบประมาณสนับสนุนการก่อสร้าง มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่อำเภอวังน้อย
ซึ่งใช้เป็นศูนย์กลางการศึกษาพุทธศาสนาของโลก
5. สังคมสงเคราะห์
- สงเคราะห์ต่อพระภิกษุอาพาธ ถูกทำร้าย ประสบอุบัติเหตุ และที่อยู่ในท้องถิ่นทุรกันดาร
- คุ้มครองสิทธิแก่ภิกษุสามเณรที่ถูกละเมิด และให้คำปรึกษาทางกฎหมาย เมื่อไม่ได้รับความเป็นธรรมจากทางราชการและหน่วยงาน
- สนับสนุนโครงการประชาสงเคราะห์ที่สงฆ์จัดทำขึ้น
ในหมู่ชาวเขาและท้องถิ่นทุรกันดาร
6. พ.ร.บ. กองทุนอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา
- คณะสงฆ์ขอปฏิเสธ ร่าง พ.ร.บ. อุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา ที่มีเนื้อหาให้ฆราวาสปกครองพระ ไม่ว่าจะเป็นฉบับใดก็ตาม
- แต่ให้มีการออก พ.ร.บ.กองทุนอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญมาตรา
73 ให้มีเนื้อหาที่เป็นคุณ และเอื้ออาทร
ต่อพระพุทธศาสนา และ
สถาบันสงฆ์อย่างแท้จริง
7. แก้ไข พ.ร.บ. คณะสงฆ์ ฉบับที่
2 พ.ศ. 2535
- มาตรา 29 ให้แก้ไขใหม่เป็น..
"ก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุด พระภิกษุผู้ตกเป็นจำเลยในคดีอาญา ได้กระทำความผิด หรือกรณีรอลงอาญา จะดำเนินการให้พระภิกษุนั้น สละสมณเพศมิได้"
- มาตรา 45 ให้แก้ใหม่เป็น .. "การปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ. คณะสงฆ์ ของพระภิกษุซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ในการปกครองคณะสงฆ์และไวยาวัจกร
ให้ได้รับ
ความคุ้มครองเช่นเดียวกับ เจ้าพนักงานตามความในประมวลกฎหมายอาญา"
8. จัดตั้งศูนย์ประสานงานสงฆ์แห่งประเทศไทย
- ทำสังฆาพิจารณ์
สอบถามความคิดเห็นภิกษุสามเณรทั่วประเทศ ด้วยสังฆาพิจารณ์ฉบับนี้
- จัดสัมมนาย่อยทั่วประเทศ เพื่อให้สงฆ์ได้รับทราบข้อมูลและแสดงความคิดเห็นอย่างทั่วถึง
- ประมวลความคิดเห็น จัดทำเป็นสังฆามติของสงฆ์ทั่วประเทศ
- แจ้งสังฆามติให้ประชาชนทราบ และสอบถามความเห็นจากพรรคการเมืองต่อสังฆามติดังกล่าว
- แจ้งนโยบายและจุดยืนของพรรคการเมืองต่อภิกษุสามเณรทั่วประเทศ
- ประสานงานคณะสงฆ์ เพื่อดำเนินการให้สังฆามติบังเกิดผลในทางปฏิบัติ
ประกาศมา ณ วันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ.
2543 คณะสงฆ์ทั้ง 4,122 รูป กล่าวสาธุการขึ้นพร้อมกัน เพื่อยืนยันในสังฆามติดังกล่าวทั้ง
8 ประเด็น
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ 93 พรรษา (11
มีนาคม) วัดสุวรรณาราม กรรมการมหาเถรสมาคม เดินทางมาถึง ประมาณ
15.25 น.กล่าวปิดพิธี
ในฐานะองค์ประธาน ในการปิด
การสัมมนาพระสังฆาธิการทั่วประเทศ ครั้งที่
1 ในหัวข้อเรื่อง สถานการณ์พระพุทธศาสนาในปัจจุบัน มีพระสังฆาธิการเข้าร่วมสัมมนาจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน
4,122 รูป ได้รับทราบสถานการณ์ที่เป็นจริงต่อพระพุทธศาสนา และตกลงกันประกาศเป็นสังฆามติใน
8 ประเด็น เพื่อเป็นข้อสรุปในการทำงานร่วมกันต่อไปในอนาคต
ประสบความ สำเร็จ
อย่างงดงามยิ่ง ทั้งๆ มีอุปสรรคต่างๆ นานา มีความพยายามขัดขวางการจัดงานครั้งนี้อย่างรุนแรง
แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือสนับสนุน
และแนะนำจาก พระสงฆ์ผู้ใหญ่
ทั้งหลาย จึงผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ มาได้ด้วยดี
โดยส่วนตัว ยินดีและเต็มใจสนับสนุนการสัมมนาครั้งนี้ ทุกประการ แต่ได้รับหนังสือจากผู้ไม่หวังดีส่งจดหมายไปที่วัด ว่ายกเลิก ได้สอบถามไปทางวัดมหาธาตุ ได้ผลเช่นเดียวกัน เลยไม่ได้มา
"สมณะ" เขาหมายถึงผู้สงบ ที่มากันถึงสี่พันเศษนับว่ายังไม่มาก แต่ก็มาก นึกถึงสมัยพระพุทธเจ้า ถูกพญามารทูลให้นิพพาน รับสั่งว่าพุทธบริษัท
4 ยังไม่บริบูรณ์ ไม่ได้
หมายว่า มีเพียงหมื่นพัน แต่มีเป็นล้าน แต่พระธรรมวินัยยังไม่ตั้งมั่น คนสามกลุ่มคือ กลุ่มบ้าน กลุ่มเมือง กลุ่มวัด แยกแตกกันไม่ได้ ถ้าแตกกันศาสนาก็ตั้งอยู่ไม่ได้ พระเป็นอุดมเพศ ต้องรู้หลายอย่าง รู้ในสิ่งที่คนอื่นไม่รู้
ทำยังไงจึงจะชอบ ก็ขอให้ไปดูคำสั่งครั้งสุดท้ายของพระพุทธเจ้า ยึดหลักความไม่ประมาทไว้ให้ดี ยังประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวมให้ถึงพร้อม ย่อรวมมาจากสาม
ละเว้นบาป ทั้งปวง ทำความดีให้ถึงพร้อม และทำจิตให้บริสุทธิ์ผ่องใส ซึ่งย่อมาจากพระสูตร
21,000 พระธรรมขันธ์ พระวินัย 21,000 และพระอภิธรรม
42,000 รวมเป็น 84,000 พระธรรมขันธ์ ก็ขอฝากไว้เพียงเท่านี้
การประชุมสัมมนายุติลงในเวลาประมาณ
16.45 น. ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ทำความตระหนักในใจของคณะพระสังฆาธิการที่เข้าร่วมประชุมเป็นอย่างดี
ถึงแม้ว่า จะได้รับ
การกลั่นแกล้งต่างๆ นานา จากผู้ไม่ปรารถนาดีต่อพระศาสนาโดยรวม ตลอดจนความไม่ใส่ใจของพรรคการเมืองต่างๆ
ต่อการเชื้อเชิญให้มาแสดงนโยบาย
และจุดยืน ของพรรคการเมือง ต่อการพระศาสนาและพระสังฆาธิการทั่วประเทศ ยกเว้นพรรคประชากรไทย พระเทพกิตติปัญญาคุณ ได้ประกาศเจตนาอย่างแน่แน่ว ร่วมกับคณะสงฆ์ ที่จะให้มีการจัดสัมมนาในครั้งต่อๆ ไป เพื่อประสานสามัคคีในหมู่สงฆ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และสามารถประสานงานกันได้สะดวกรวดเร็วในอนาคต
เป็นที่น่าสังเกตว่า
มีพระภิกษุ จำนวนหนึ่ง มีหนังสือร้องทุกข์ต่อชมรมชาวพุทธสากลแห่งประเทศไทย ให้ดำเนินการช่วยเหลือในเรื่องที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม จากเจ้าหน้าที่และหน่วยงานของรัฐ ซึ่งชมรมฯ จักได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนต่อไป