ปีที่ 3 ฉบับที่ 944 ประจำวันอาทิตย์ที่ 13 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 |
การเมืองล้ำเส้น ป่วนกิจการสงฆ์
พระสงฆ์ส่วนใหญ่ไม่พอใจมติมส. สั่งปลดพระพรหมโมลี ระบุชัด นักการเมืองเข้าแทรกแซงกิจการภายในคณะสงฆ์ อย่างชัดเจน กิตติวุฑโฒ จวกยับ
หัวดำเข้ามายุ่งกรณีธรรมกาย
มากเกินไป ย้ำเป็นฆราวาสต้องมีสติ ให้ความเคารพพระสงฆ์ตามหน้าที่ อุบาสก - อุบาสิกาที่ดี ควรยึดพระธรรมวินัย เป็นหลัก ด้านกรมการศาสนา เตรียมนมติมส.
เสนอให้สมเด็จ
พระสังฆราชลงพระนาม ในวันที่ 14 ก.พ. นี้ แน่นอน ส่วนนิคหกรรมจะเดินหน้าต่อสิ้นเดือนก.พ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้มีการอบรมพระภิกษุสงฆ์ ผู้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์รุ่นใหม่ทั่วประเทศ ที่ศาลาอบรมสงฆ์วัดสามพระยา เขตพระนคร
ระหว่างเวลา 9.00-11.00 น. สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม ได้เป็นผู้บรรยายเป็นรูปแรก ถือเป็นการเปิดปฐมนิเทศ การอบรมในครั้งนี้ โดยมีพระผู้ใหญ่ระดับสมเด็จพระราชาคณะ เจ้าคณะหน เจ้าคณะภาค และรองเจ้าคณะภาค เข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการบรรยาย ได้มีพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ ได้จับกลุ่มหารือกันที่ห้องกระจก ข้างห้องบรรยาย
โดยส่วนใหญ่มีความเห็นเหมือนกันว่า การปลดพระพรหมโมลี ออกจากเจ้าคณะภาค 1 ในครั้งนี้ มีสาเหตุมาจากแรงบีบทางการเมืองมากกว่า และส่วนใหญ่แสดงความไม่เห็นด้วย ที่ปล่อยให้นักการเมืองมาแทรกแซงกิจการคณะสงฆ์
โดยพระเทพกิตติปัญญาคุณ หรือพระกิตติวุฑโฒ ได้แสดงความเห็นว่า การปลดพระพรหมโมลี ออกจากตำแหน่งนั้น ฆราวาสไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว
ต้องตั้งสติและมีศรัทธา
ในศาสนา ให้มาก และต้องควบคู่กับการมีปัญญาด้วย สิ่งใดที่เป็นกิจการคณะสงฆ์ ฆราวาสไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว
กรณีปัญหาวัดพระธรรมกาย ฆราวาสได้เข้ามายุ่งมากเกินไป ถือเป็นการไม่เคารพสงฆ์ ควรจะต้องรู้หน้าที่ของอุบาสกอุบาสิกาว่า ควรมีหน้าที่อย่างไร สำคัญที่สุดก็คือ
ต้องเชื่อมั่น ในกฎแห่งกรรม และพระธรรมวินัย โดยส่วนตัวแล้ว ต้องการเห็นความสงบความเรียบร้อย เกิดขึ้นในคณะสงฆ์ โดยยึดหลักพระธรรมวินัย และกฎหมายเป็นหลัก
กรณีวัด พระธรรมกาย ถือว่า พระพรหมโมลีได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ที่วัดยานนาวา ตลอดทั้งวัน ได้มีทั้งฆราวาส แลพระสงฆ์ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมพระพรหมโมลี พระลูกวัดรายหนึ่งกล่าวว่า พระพรหมโมลี
ท่านเป็นพระ
ที่ไม่ยึดติดกับตำแหน่ง และไม่ได้รู้สึกอะไรกับมติของมหาเถรสมาคม ยังมีอารมณ์ดี พูดคุยเป็นปกติ อาตมาไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมจะต้องมีการเอาชนะคะคานกันเช่นนี้ ถ้าว่ากันไปตามระเบียบเชื่อว่า พระพรหมโมลีได้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎระเบียบทุกประการ
รายงานข่าวจากกรมการศาสนาแจ้งว่า ในวันที่ 14 ก.พ.นี้ นายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนา จะนำมติมส.ครั้งที่ผ่านมา ขึ้นกราบทูลสมเด็จพระสังฆราช เพื่อทรงลงพระนาม นอกจากนี้ ทางกรมการศาสนา จะเร่งให้มีการแต่งตั้งเจ้าคณะภาค 1 รูปใหม่โดยเร็ว ซึ่งอำนาจการคัดเลือกอยู่กับสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เมื่อคัดเลือกได้แล้ว
ก็จะนำเสนอต่อ
ที่ประชุมมหาเถรสมาคมอีกครั้ง
นอกจากนี้ ทางกรมการศาสนายังได้มีการหารือถึงเรื่องการเดินกฎนิคหกรรม ซึ่งจะเร่งทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร แจ้งให้พระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี โดยเร็ว เพื่อจะเรียกพระธัมมชโย และ พระทัตตชีโว มารับทราบข้อกล่าวหา คาดว่า จะดำเนินการได้ภายในสิ้นเดือนนี้ หรืออย่างช้า ก็ประมาณ ต้นเดือนมี.ค.