ซีพีผนึก'บิล เกตส์'บุกมัลติมีเดีย
นำร่องพัฒนา เซ็ท ท็อป บ็อกซ์ ใช้ข่ายเคเบิลใยแก้วเชื่อมทีวี-อินเทอร์เนตเปิดธุรกิจใหม่

"ซีพี"ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของไทยและ "ไมโครซอฟท์" ผู้ผลิตซอฟต์แวร์อิสระอันดับ 1 ของโลกประกาศแผนการร่วมมืออันเป็นก้าวที่มีความสำคัญอย่างยิ่งเปิดโครงการนำร่องร่วมมือในการพัฒนา"เซ็ท ท็อป บ๊อกซ์" ซึ่งมีเป้าหมายจะนำเครือข่ายเคเบิลใยแก้วของทีเอ ที่มีอยู่มาพัฒนาให้เกิดบริการที่เป็นการเข้าสู่มัลติมีเดียอย่างสมบูรณ์แบบความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการพบปะกันเป็นครั้งแรกระหว่างนายบิลล์ เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น และนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นายบิล เกตส์เดินสายในประเทศเอเชีย-แปซิฟิก

นายธนินท์ ได้นำคณะผู้บริหารระดับสูง ประกอบด้วยนายสุภกิต เจียรวนนท์, นายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ นายสารสิน วีระผล เข้าร่วมประชุมกับคณะผู้บริหารระดับสูงของไมโครซอฟท์ ตามคำเชิญของ นายบิล เกตส์ โดย 1 ชั่วโมงที่ได้พบปะกันครั้งนี้ก็นำมาสู่การบรรลุข้อตกลงใน 2 ธุรกิจหลักของซีพี ในประเทศไทย

นายสารสิน วีระผล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กล่าวว่า จุดประสงค์ในการพบปะกันเป็นครั้งแรกของทั้ง 2 ฝ่ายนั้น เน้นไปที่การหาทางร่วมมือกันในเชิงธุรกิจ ซึ่งผู้บริหารระดับสูงสุดของทั้ง 2 บริษัท ก็มีวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกันหลายด้าน โดยตามแผนร่วมมือครั้งนี้ ซีพีจะนำเทคโนโลยีของบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์อันดับ 1 จากสหรัฐ 2 ประเภท มาใช้

ประการแรก จะเป็นการเปิดโครงการนำร่องในการพัฒนาเทคโนโลยีเซ็ทท็อปบ็อกซ์ (set top box)ที่จะทำให้เครือข่ายสื่อสาร ที่กลุ่มบริษัท เทเลคอมเอเซีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือทีเอ ในเครือซีพีดำเนินการอยู่ มีความสามารถให้บริการข่าวสารอื่นๆ ได้เพิ่มขึ้น อันจะทำให้โครงข่ายใยแก้วนำแสง ในโครงการโทรศัพท์ 2.6 ล้านเลขหมายของทีเอ มีมูลค่าเพิ่มขึ้นไปอีก โดยขยายไปสู่รูปแบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ มีเดีย

สำหรับเทคโนโลยีอย่างที่ 2 กลุ่มซีพี ก็จะเป็นการนำซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ มาเปิดให้บริการผ่านเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีกของซีพี ที่มีอยู่เกือบ 1,000 จุดทั่วประเทศ และยังมีแผนขยายสาขาต่อเนื่อง 1 สาขา ทุกๆ 3 วัน

"เราตกลงร่วมกันที่จะใช้ซอฟต์แวร์ หรือเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ ผ่านเซเว่นอีเลฟเว่น เพื่อให้บริการประชาชนในด้านต่างๆ" นายสารสินกล่าว

นายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ กรรมการบริษัท เทเลคอมเอเซีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือทีเอ กล่าวว่า สำหรับการเจรจาความร่วมมือกับไมโครซอฟท์นั้น ขณะนี้ยังไม่สรุปรูปแบบที่ชัดเจน ระหว่าง 2 รูปแบบ คือ 1. การเป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยี (เทคโนโลยี พาร์ทเนอร์ ชิพ) ซึ่งจะช่วยเสริมซึ่งกันและกัน หรือ 2. การเป็นพันธมิตรเต็มรูปแบบ (ฟูล พาร์ทเนอร์ชิพ) ที่จะผนึกจุดแข็ง (ซีนเนอร์ยี) ที่ทั้ง 2 ฝ่ายมีเข้าด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม เขามั่นใจว่า จะสามารถเห็นความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมได้ ภายในปีนี้อย่างแน่นอน

ส่วนการลงทุนนั้น ยังไม่มีการพูดถึงตัวเลขที่แน่ชัด อย่างไรก็ตาม ในด้านการลงทุนหลักๆ คือ ด้านเครือข่ายนั้น บริษัทได้ลงไปก่อนหน้านี้อยู่แล้ว

เปิดเวบทีวีแห่งแรกในไทย

นายพีระพงษ์ เอื้อสุนทรวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไมโครซอฟท์ เล็งเห็นความสำคัญของโครงข่ายเคเบิลใยแก้วของกลุ่มซีพี ขณะเดียวกันบริษัทซอฟต์แวร์แห่งนี้ ก็พร้อมในด้านผลิตภัณฑ์ ที่จะช่วยเสริมมูลค่าให้กับโครงข่ายเหล่านี้ได้

ปัจจุบันกลุ่มซีพี มีความพร้อมของระบบเครือข่าย ทั้งด้านเครือข่ายโทรศัพท์พื้นฐาน, เครือข่ายบริการเคเบิลทีวี ผ่านใยแก้วนำแสง และผ่านสัญญาณดาวเทียม "โดยเฉพาะโครงข่ายพื้นฐาน (อินฟราสตรัคเจอร์) ของทีเอ ก็ก้าวหน้ากว่าประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ" นายพีระพงษ์กล่าว

ทั้งนี้ ในช่วงแรกของความร่วมมือระหว่าง 2 กลุ่มนี้ อาจเป็นในรูปของการพัฒนาให้ เซ็ท ท็อป บ็อกซ์ ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่เป็นตัวรับสัญญาณเคเบิลทีวี ให้มีประสิทธิภาพเทียบได้กับคอมพิวเตอร์ 1 ตัว เพียงแต่เสียบสายเคเบิลเพิ่มเข้าไป

เซตท็อปบ็อกซ์ เป็นชื่อทั่วไป สำหรับเรียกอุปกรณ์แปลงสัญญาณดิจิทัลให้เป็นสัญญาณโทรทัศน์ เพื่อผลบนเครื่องรับโทรทัศน์ตามบ้าน โดยเทคโนโลยีดังกล่าวนี้ จะทำให้เครื่องรับโทรทัศน์ตามบ้าน กลายเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งอยู่ในเครือข่ายเคเบิลใยแก้วของซีพีนั่นเอง

ดังนั้น การพัฒนาให้กล่องแปลงสัญญาณมีความสามารถแปลงสัญญาณได้มากกว่าแค่สัญญาณวิดีโอ ก็จะทำให้โครงข่ายสาย และเครื่องรับโทรทัศน์มีความสามารถเพิ่มขึ้นในเวลาเดียวกันโดยปริยาย

ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน โครงข่ายความเร็วสูงของซีพีที่ใช้รองรับบริการเสียงโทรศัพท์ และวิดีโอ ในปัจจุบัน สามารถเชื่อมต่อเข้ากับโครงข่ายอินเทอร์เนตด้วยความเร็วสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ได้รับบริการข้อมูลใหม่ๆ เพิ่มขึ้นจากอินเทอร์เนต ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลภาพเคลื่อนไหว ข้อมูลเสียง ข้อมูลตัวอักษร ข้อมูลกราฟฟิก รวมถึงเกมต่างๆ ด้วย

นายพีระพงษ์ กล่าวว่า นายบิล เกตส์ ได้เชิญคณะผู้บริหารของซีพี เดินทางไปชมงานและศึกษาการพัฒนา Interactive TV และเทคโนโลยี set top box ที่สำนักงานใหญของไมโครซอฟท์ ที่เมืองเรดมอนด์ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ในเดือนเมษายนนี้ เพื่อหาแนวทางความร่วมมือในการพัฒนา set top box โดยเฉพาะการนำซอฟต์แวร์ภาษาไทย ของไมโครซอฟท์มาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ set top box ให้สามารถทำงานได้ในรูปแบบของวินโดว์ส โดยมีคำสั่งการใช้งานเป็นภาษาไทย

"ผู้บริโภคคนไทยสามารถที่จะเชื่อมโยงต่อ เข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เนต ทำธุรกรรมต่างๆ ทางธุรกิจ รวมไปถึงการจับจ่ายใช้สอย สินค้าต่างๆ โดยผ่านจอโทรทัศน์ ซึ่งเปรียบเสมือนหน้าจอคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง และเทคโนโลยี set top boxนี้ถือเป็นเทคโนโลยีหนึ่งที่ไมโครซอฟท์ ประสบความสำเร็จมาแล้วอย่างมากในสหรัฐ"

อย่างไรก็ตาม นายพีระพงษ์ กล่าวว่า รายละเอียดของแอพพลิเคชั่นที่จะนำเสนอนั้น คาดว่าต้องรอการสรุปร่วมระหว่างบริษัทกับกลุ่มซีพีก่อน

ใช้เทคโนโลยีไมโครซอฟท์ในเซเว่น

นายพีระพงษ์ กล่าวว่า ส่วนความร่วมมือใช้เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นนั้น อาจเริ่มได้เลย เพราะบริษัทสามารถนำระบบที่ไมโครซอฟท์ ร่วมพัฒนาและติดตั้งแล้วกับเซเว่นอีเลฟเว่น ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เข้ามาติดตั้งในประเทศไทยได้ทันที

สำหรับระบบที่ติดตั้งอยู่ในปัจจุบัน จะรองรับได้ทั้งการบริการ ณ จุดขาย (พีโอเอส ซิสเต็ม), ระบบค้าปลีก และบริการรับชำระค่าบริการ (เคาน์เตอร์ เซอร์วิส) ซึ่งคล้ายกับในส่วนของประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม แนวคิดเต็มรูปแบบของเทคโนโลยีนี้ จะมีลักษณะของ "พีซี เน็กซ์ ดอร์" หรือจุดให้บริการคอมพิวเตอร์ กับประชาชนทั่วไป เพื่อชดเชยกับสัดส่วนการใช้คอมพิวเตอร์ตามบ้าน (โฮมยูส) ในประเทศไทย ที่ยังมีอยู่น้อยมาก

สานฝันทีเอ สู่บริษัทมัลติมีเดียเต็มตัว

นายชัชวาลย์ กล่าวว่า ความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ที่จะเกิดขึ้นนี้ เป็นไปตามแผนของบริษัทที่ต้องการยกระดับเครือข่ายที่มีอยู่ให้ฉลาดขึ้น ซึ่งจะทำให้ประชาชนใช้บริการได้ง่ายที่สุด เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกับเทคโนโลยี

ทั้งนี้ บริษัทมองทิศทางไปที่ธุรกิจด้านหลายสื่อ (มัลติมีเดีย) มานานแล้ว โดยจัดตั้งบริษัท เอเซีย มัลติมีเดีย ขึ้นมารับผิดชอบ โดยมีแนวคิดที่จะเอาสิ่งต่างๆ เข้าไปเพิ่มมูลค่าให้โครงข่าย โดยเริ่มมาแล้วในด้านเคเบิลทีวี และจะขยายต่อไปเป็นข้อมูล และมัลติมีเดีย เต็มรูปแบบต่อไป

นายสารสิน กล่าวว่า นอกจากนั้นในระยะเวลาต่อไป บริษัทก็มีความตั้งใจที่จะเปิดบริการ "ดิจิทัอล มินิเธียเตอร์" จำนวนที่นั่งราว 50-100 ที่นั่น ในบริเวณใกล้เคียงกับร้านเซเว่นอีเลฟเว่น

โดยโรงภาพยนตร์เหล่านี้ จะเข้าไปมีส่วนส่งเสริมการศึกษาของไทย โดยในช่วงเช้า 06.00-12.00 น. จะเปิดให้โรงเรียน หรือหน่วยราชการต่างๆ มาขอใช้ได้ หลังจากนั้นก็จะเปิดฉายภาพยนตร์ตามโปรแกรมปกติ

อย่างไรก็ตาม แผนการนี้ จะเป็นก้าวต่อไป หลังจากที่ยกระดับเครือข่ายร้านค้าในเซเว่นอีเลฟเว่นให้เป็นเสร็จแล้ว

สอดรับแผนไมโครซอฟท์

บริษัทไมโครซอฟท์ ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าตลาดด้านซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ของโลก ภายใต้การนำของบิล เกตส์ นั้น ก็ผลักดันทุกวิถีทางที่จะทำให้แนวคิด "ข่าวสารข้อมูลที่ปลายนิ้ว" (Information at finger tip) เป็นจริงให้ได้ในช่วงชีวิตของเขา

โดยปัจจุบันบริษัทเข้าไปลงทุนในธุรกิจเคเบิลทีวี และสร้างธุรกิจข่าวสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เนต รวมแล้วกว่า 5 บริการ ไม่ว่าจะเป็น สเลต (Slate), ไซด์วอล์ค (SideWalk), เอ็มเอสเอ็น (MSN), เอ็มเอสเอ็นบีซี (MSNBC), และล่าสุดไมโครซอฟท์ ก็เข้าไปซื้อ "ฮ็อตเมล์" อันเป็นเวบไซต์ที่ได้รับความนิยมในการรับฝากอี-เมล์ที่สุดบนเครือข่ายอินเทอร์เนตอีกด้วย

นอกจากนั้นตัวบิล เกตส์ เองยังร่วมทุนกับ แม็คคลอ เพื่อลงทุนบริการสื่อสารผ่านดาวเทียม ในชื่อโครงการ "เทเลเดสิก" ซึ่งจะเป็นการบริการสื่อสารข้อมูลผ่านดาวเทียมวงโคจรต่ำอีกด้วย

รวมทั้งบิล เกตส์ เอง ก็ยังเป็นผู้ที่ถือลิขสิทธิ์ภาพเขียนสำคัญๆ ของโลกในรูปแบบดิจิทัลมากที่สุดในโลกขณะนี้เช่นกัน

สำหรับกลุ่มซีพี นอกเหนือจากจะเป็นผู้ที่มีเครือข่ายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จำนวน 2.6 ล้านเลขหมาย ซึ่งเป็นรองก็แต่องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยของรัฐบาลเท่านั้น บริษัทนี้ยังเป็นนักลงทุนต่างประเทศที่เข้าไปลงทุนในจีนรายใหญ่ที่สุดของโลกขณะนี้ด้วย

โดยในปีนี้ บิล เกตส์ และไมโครซอฟท์ มีนโยบายเน้นการเผยแพร่ และทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ "ดิจิทัล เนอร์วัส ซิสเต็ม" (Digital Nervous System) ซึ่งเป็นแนวคิดในการนำเทคโนโลยี มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของหน่วยงานภาครัฐบาลไปสู่เอกชน

รวมทั้ง การสนับสนุนเทคโนโลยีแก่หน่วยงานภาคเอกชน เพื่อให้บริการในรูปแบบต่างๆ เป็นไปอย่างทั่วถึง และไปถึงมือประชาชนมากที่สุด ในยุคที่ข้อมูลข่าวสาร สามารถเชื่อมโยง แลกเปลี่ยน และสืบค้นได้สะดวก ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เนต

ขณะเดียวกันนายธนินท์ ก็มองว่าเทคโนโลยีด้านข่าวสาร (ไอที) จะเป็นสิ่งสำคัญ (big issue) และมีส่วนเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต และการเมือง รวมถึงกลายเป็นธุรกิจแห่งศตวรรษที่ 21 อย่างแน่นอน

ขณะเดียวกัน เครือซีพี ก็ให้ความสำคัญกับการมุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศไทย โดยลงทุนไปแล้วผ่านบริษัท ทีเอ ในด้านโครงข่ายพื้นฐาน และเพิ่มมูลค่าไปสู่บริการมัลติมีเดีย ภายใต้บริษัทย่อยๆ ของทีเอ

ประธานกรรมการเครือซีพี ยังได้เชิญบิล เกตส์ ให้มาเยือนประเทศไทย โดยคาดว่าหลังผลสรุปความร่วมมืออย่างเป็นทางการแล้ว ก็คงสามารถกำหนดวัน เวลา ที่แน่นอน ที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไมโครซอฟท์ จะมาเยือนไทยได้

น.ส.พ. กรุงเทพธุรกิจ 1