ปัญหาและการตรวจสอบซีพียูปลอม

[ที่มาของ Remark CPU] [ข้อเสียจากการใช้ Remark CPU] [การตรวจสอบขั้นพื้นฐาน]
[การตรวจสอบขั้นสูง] [อุปกรณ์อื่นๆ ที่ควรตรวจสอบ]

ปัญหาของซีพียูปลอมหรือที่เรียกในภาษาทางคอมพิวเตอร์ว่า Remark CPU เริ่มเป็นที่กล่าวขานเมื่อ Intel ผลิตเพนเทียมยุคแรกๆ ที่มีความเร็ว 90 และ 100 MHz จนกระทั่งปัจจุบัน สาเหตุที่มีการปลอมซีพียูเนื่องจากซีพียูมีราคาแพงและสาเหตุสำคัญ คือ ความแตกต่างของราคาระหว่างซีพียูสองรุ่นที่ความเร็วแตกต่างกัน เช่น เพนเทียม 90 กับ เพนเทียม 100 MHz หรือ 120 MHz ราคาจะแตกต่างกันหลายพันบาททำให้ มีผู้ค้าบางรายต้องการค้ากำไร โดยนำซีพียูความเร็วต่ำมารันที่ความเร็วสูงขึ้น โดยใช้หลักการ Overclock ซึ่งเป็นที่มาของซีพียู Remark นั่นเอง

ที่มาของซีพียูปลอม
เพื่อป้องกันความสับสนเกี่ยวกับ Remark CPU หรือซีพียูปลอมจำเป็นต้องอธิบายเพิ่มเติมว่าที่จริงก็ไม่ใช่ซีพียูเลียนแบบที่ถูกผลิตออกจากโรงงานที่แอบผลิตออกมาขายทั้งหมด เนื่องจาก Intel ไม่เคยขายเทคโนโลยีการผลิตชิปให้ใครทั้งหมดมาก่อน แต่ซีพียู Remark คือซีพียู Intel จริงๆที่ออกแบบมาใช้งานที่ความเร็วระดับหนึ่ง เช่น 100 MHz แต่ถูกนำมาปรับหรือแต่งให้เสมือนเป็นซีพียูความเร็วสูงกว่าเดิม เช่น 120 หรือ 133 แล้วขายคอมพิวเตอร์ในราคาที่ใช้กับซีพียู 133 MHz เป็นต้น ซึ่งผลประโยชน์ที่ผู้ขายจะได้ คือ กำไรต่อหน่วยสูงขึ้น
ที่มาของซีพียู Remark สมัยที่ผมซื้อเพนเทียม 100 MHz นั้น ผมจำได้ว่าหาก Remark จะไม่มีกล่อง ผู้ค้าบางรายก็บอกลูกค้าตามความเป็นจริงว่าเป็นของ Remark และขายในราคาต่ำกว่าเดิมผู้ค้าบางรายก็ไม่บอกและขายในราคาเสมือนว่าเป็นซีพียูที่ความเร็วนั้นจริงๆ
แหล่งที่มาของซีพียู Remark นั้นไม่มีแหล่งข้อมูลที่แน่นอนบางรายบอกว่าทำมาจากต่างประเทศแถบจีน อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าซีพียูที่ไม่มีกล่องเป็นซีพียู Remark เสมอไปเพราะมีผู้ค้าบางรายนำเข้าเฉพาะตัวชิปไม่ได้นำวัสดุห่อหุ้ม ผลิตภัณฑ์เข้ามาด้วย

ข้อเสียจากการใช้ชีพียูปลอม
หากคอมพิวเตอร์ใช้ซีพียู Remark ก็ยังสามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม หากทดสอบประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ (Benchmark) อาจพบว่ามีระดับคะแนนต่ำกว่าคอมพิวเตอร์ที่ใช้ซีพียูของจริง และจากผลการทดสอบ หลายๆ แหล่งแสดงให้เห็นว่าอายุการใช้งานของคอมพิวเตอร์ที่ใช้ซีพียู Remark ลดลง ในขณะเดียวกันสำหรับรายที่โชคร้ายหน่อยก็อาจพบปัญหาระหว่างใช้งานคอมพิวเตอร์ เช่น เมื่อใช้เครื่องไประยะหนึ่งแล้วเครื่องแฮงค์หรือ Reset ตัวเอง บูตเอง แต่สิ่งที่ก่อปัญหาสำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์อย่างแท้จริงก็คือการถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้จำหน่าย โดยการขายของต่ำกว่าคุณภาพที่ควรจะได้รับ

หลักทั่วไปในการตรวจสอบว่าซีพียูเป็นของแท้หรือไม่
เท่าที่เคยอ่านพบในวารสารเกี่ยวกับเทคนิคการตรวจสอบว่าซีพียูนั้นเป็นของแท้หรือไม่ให้สังเกตดังรายการต่อไปนี้
1. ตัวหนังสือที่สกรีนบนตัวซีพียู ปกติหากเป็นของแท้ตัวอักษรโลโก้ของ Intel ต้องเรียบและไม่มีร่องรอยการลบขีด-ฆ่า ในขณะเดียวกันหากพลิกดูหมายเลขอ้างอิงด้านล่างของซีพียูก็ควรเป็นลักษณะของการผลิตต้นฉบับด้วยเนื่องจากเทคนิค Remrk สมัยแรกนั้นมีการสกรีนตราทับลงไปเพื่อระบุว่าเป็นรุ่นที่สูงขึ้น ปัจจุบันเข้าใจว่าเทคนิคนี้ยากแก่การตรวจสอบ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับหน้าตาของซีพียูมาก่อน
2. การรันเปรียบเทียบระหว่างคอมพิวเตอร์สองเครื่องที่ใช้ซีพียูรุ่นเดียวกันเครื่องที่ใช้ซีพียู Remark จะมีประสิทธิภาพต่ำกว่า แต่วิธีการนี้มีปัญหาที่การกำหนด Configuration ของเครื่องทั้งสองและอุปกรณ์ต่างๆ ต้องเหมือนกันทุกประการ แตกต่างกันเฉพาะซีพียู (ทางที่เป็นได้สำหรับผู้ที่ทดสอบคือใช้เครื่องเดียวกันเปลี่ยนเฉพาะซีพียู แต่ไม่ง่ายนักสำหรับผู้ที่มีคอมพิวเตอร์ใช้งานเครื่องเดียวและสงสัยว่าเป็นซีพียูปลอม
3. ตรวจสอบกล่องบรรจุภัณฑ์ที่ใส่ซีพียู สำหรับของอินเทล ทางอินเทลยืนยันว่า โฮโลแกรม (Hologram)หรือวัสดุสีรุ้งมีโลโก้ของอินเทลมองคล้ายสามมิตินั้นเป็นเครื่องหมายยืนยันว่าซีพียูนั้นถูกผลิตจากโรงงานของอินเทลอย่างแน่นอน


การตรวจสอบขั้นสูง
(เฉพาะไมโครโปรเซสเซอร์อินเทลเพนเทียมและอินเทลเพนเทียมพร้อม MMX)
ขั้นตอนการตรวจสอบ
1. ใช้โปรแกรมตรวจสอบ คือ CPUIDF.EXE เพื่อตรวจสอบ Identification ของซีพียู เมื่อได้โปรแกรมมาแล้วให้นำมารันที่ดอสพร้อม เมื่อรันโปรแกรมจะแสดงค่า ID ของซีพียู ให้บันทึกค่าดังต่อไปนี้ Family ,Model ,Stepping (นอกจากใช้โปรแกรมCPUIDF.EXE ซึ่งสร้างโดยอินเทลแล้วยังสามารถใช้โปรแกรมอื่นๆเพื่อดู ID ของซีพียูได้อีก เช่น Winprobe,Checkit Pro ,Config)
ตัวอย่างใช้เพนเทียมคลาสสิค P54C 100 MHz ทดสอบได้ค่าต่างๆ ดังต่อไปนี้
2. หลังจากนั้นให้ปิดสวิตช์เครื่องคอมพิวเตอร์แล้วถอดชิปซีพียูออกมา พลิกดูด้านล่างของซีพียูจะพบตัวอักษรสามแถวให้ตรวจสอบและบันทึกค่าเฉพาะแถวที่มีตัวอักษร บอกรุ่นการผลิตและบ่งการใช้งาน เช่น SU032/SSS กรณีของเพนเทียมคลาสสิค 100 MHz ตัวที่ทดสอบมีค่าเป็น SU032 / SSS ดังนั้นจึงได้ว่า
Spec = SU032
Voltage = SSS (หมายถึงซีพียูตัวนี้ใช้แรงดันไฟฟ้าปกติ 3.145 - 3.6 โวลต์V)
3. ค่าอื่นๆ ที่ควรทราบของซีพียูมีดังต่อไปนี้ (หากไม่ทราบก็ไม่ต้องบันทึกลงไป)
4. หลังจากนั้นให้เปรียบเทียบว่าเป็นข้อมูลของซีพียูโดยเข้าไปเปรียบเทียบที่http://www.sysopt.com/specform.html โดยกรอกข้อมูลทั้งหมดที่ได้จากข้อที่ 1และข้อที่ 2 (ไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลครบแต่ให้กรอกให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และหากไม่ทราบก็ไม่ต้องกรอกข้อมูลเพราะอาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดในการเปรียบเทียบได้)
5. หลังจากนั้นให้คลิ๊ก Submit เพื่อส่งค่าเข้าเปรียบเทียบกับตาราง จะได้ค่าออกมาว่าซีพียูที่ตรวจสอบนั้นเป็นประเภทใด (ตัวอย่างใช้เพนเทียมคลาสสิค 100 MHz)
SU032
Part Number
CPU Part Number
BP80502 66 100 SU032
Processor CPUID
Type
0 and 2
Family
5
Model
2
Stepping
5
Mfg. Stepping
C2
Installation Information
Operating Voltage
3.135V - 3.600V
Bus Frequency
50 or 66 MHz
Core Frequency
100 MHz
Clock Multiplier
2 or 1.5
Timing Specifications
Standard
Package Information
Pin Count
296
ZIF Socket Type
Socket 5
MMX?
No
หมายเหตุ ค่าของ Core Frequency คือค่าของซีพียูที่เรามีอยู่
ข้อมูลเพิ่มเติม
อะไรที่ควรระวังเพิ่มเติมอีกบ้างเกี่ยวกับของปลอม
นอกจากซีพียูรีมาร์กแล้ว สิ่งที่ควรระมัดระวังอีกอย่างหนึ่งก็คือแคช (Cache) หรือที่เรียกว่า SRAM (Static RAM , External SRAM) นั่นเองเมื่อสอง-สามปีที่แล้ว เฉพาะในประเทศไทยผมได้ยินข่าวและได้อ่านเอกสารแจ้งเตือนผู้ซื้อคอมพิวเตอร์ว่าให้ระวังเมนบอร์ดที่มี SRAM หรือ cache ปลอม ผมเคยสอบถามผู้ขายเมนบอร์ด บางรายและเขาก็ยอมรับว่ามีเมนบอร์ดที่ไม่มี External Cache ออกมาจำหน่ายในราคาถูกกว่าเดิม เนื่องจากต้นทุนของ External Cache นั้นค่อนข้างสูง
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Cache ปลอม
http://www.sjmercury.com/business/sram303.htm
http://sh1.ro.com/~andy/fake.html


แก้ไขครั้งล่าสุด 9 มีนาคม 2541

1