คนไทยให้ความเชื่อถือแพทย์ในอันดับสูงสุด คำถามหลายๆอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำถามที่เกี่ยวกับสุขภาพ คนไทยจะเชื่อว่า คำตอบของแพทย์ เป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุด ไม่มีผู้ใดจะเถียงได้

แต่ผู้ถามก็มักจะลืมความจริงไปข้อหนึ่งว่า แพทย์ก็เป็นมนุษย์ธรรมดาสามัญคนหนึ่งเหมือนกัน ท่านเรียนอะไรมาท่านก็รู้อย่างนั้น ท่านเป็นแพทย์เฉพาะสาขาใด ท่านก็เชี่ยวชาญเฉพาะสาขานั้น จะให้ท่านรู้ไปหมดทุกอย่างย่อมเป็นไปไม่ได้ และคำตอบของท่าน จะถูกต้องไปเสียหมดทุกอย่างก็เป็นไปไม่ได้เช่นกัน

ฉะนั้น ผู้ถามต้องระวังด้วยว่า เราถามคำถามถูกต้องตามความรู้ของท่านหรือเปล่า

และลองมองลึกลงไป เราจะพบว่า คววามรู้หลายอย่างที่แพทย์ได้นำมาตอบหรืออธิบาย ไม่ใช่ความรู้ซึ่งเขาได้เรียนมา แต่เขาเอาความรู้ของผู้อื่นที่ไม่ใช่แพทย์มาใช้ด้วยซ้ำ

อย่างความรู่ในเรื่อง ยารักษาโรค ผู้ที่ให้คำตอบดีที่สุด คือเภสัชกร ไม่ใช่แพทย์

ความรู้ในเรื่องยาปฏิชีวนะ ผู้ที่ค้นพบและค้นคว้าทดลอง จนกระทั่งยาปฏิชีวนะ กลายเป็นยาที่สำคัญที่สุดในกลุ่มยาทั้งปวง ก็ไม่ใช่แพทย์ อย่างเช่นผู้ที่ค้นพบเพนนิซิลิน ( Penicillin Notatum ) เป็นนักชีววิทยาด้าน Microbiology ชื่อ Sir Alexander Fleming

หรือในด้านรังสี ผู้ค้นพบคือ มารี คูรี่ ซึ่งไม่ใช่แพทย์ แต่เป็นนักเคมี เธอได้รับความร่วมมือจากสามีคือ ปิแอร์ คูรี่ ซึ่งก็ไม่ใช่แพทย์ แต่เป็นนักฟิสิกส์ ได้ค้นพบรังสีจากเรเดียมและโพโลเทียม จนกระทั่งมาเป็นภาครังสีวิทยาที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งในวงการแพทย์ขาดไม่ได้ในบัดนี้ และที่น่าสลดใจอย่างที่สุดคือ มาดามคูรี่ ผู้ค้นพบยิ่งใหญ่ ต้องเสียชีวิตเพราะผลงานของเธอเอง จากรังสีที่เธอค้นพบนั่นเอง

บาร์บารา แม็คคลินทอค นักชีววิทยาทางด้านพืชและกลายมาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านยีน ( Gene ) ได้ค้นพบว่ายีนในโครโมโซม "กระโดด" และทำให้เกิดการกลาย ( Mutation ) ซึ่งเป็นต้นตอของการเกิดมะเร็งได้ การค้นพบของเธอในปี 1951 ไม่มีใครสนใจ แต่เธอก็ยังทำใจได้ และทำงานของเธอต่อมาเรื่อยๆ จนค้นพบการกลายในด้านยาปฏิชีวนะ เช่นเดียวกับการกลายของเซลล์มะเร็ง เป็นประโยชน์ต่อวงการแพทย์อย่างใหญ่หลวง เธอได้รับรางวัลโนเบลในปี 1983 หลังจากไม่ได้รับการแยแส และถูกหัวเราะเยาะในวงการแพทย์มากว่า 30 ปี

หรือถ้าเราอยากรู้เรื่องของอาหาร ผู้ที่จะรู้เรื่องดีที่สุดก็คือ นักวิทยาศาสตร์ทางอาหาร ( Nutritionist ) ซึ่งส่วนมากจะเป็นไบโอเคมิสต์ ด้านอาหาร ไม่ใช่แพทย์

เคยมีการถกเถียงกันเรื่องการดื่มนมวัว และผู้ที่สนับสนุนให้ดื่มนมวัวก็คือแพทย์ แต่เมื่อมีผู้ที่ได้ศึกษาเรื่องนมวัว ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ทางอาหาร มาแถลงเรื่องโทษของนมวัว ปรากฏว่าไม่มีใครฟังเลย เพราะผู้แถลงไม่ใช่แพทย์

ในหลายกรณี คำตอบต่างๆ จะไม่มีประโยชน์สำหรับผู้ถามเลย เพราะผู้ถาม ถามผิดคน และเชื่อในคำตอบเสียตั้งแต่ ผู้ตอบยังไม่ได้ตอบด้วยซ้ำ