๓๐ ชาติในเชียงราย เป็นบันทึกเรื่องราวชีวิตของชนชาติต่างๆ
ที่อยู่ในเชียงรายและบริเวณรอยต่อเมื่อ ๕๐ ปีก่อน ได้แก่ ไทยใหญ่ เขิน ต่องสู้ อีก้อ ลื้อ
ฮ่อ ลัวะ กระเหรี่ยงหรือยาง แม้ว ข่า เย้า แข่ มูเซอ เป็นต้น การบันทึกนี้ครอบคลุม เรื่อง
การตั้งบ้านเรือน ชีวิตผู้คน ภาษา และความคิดความเชื่อ อันได้แก่ นิสัยใจคอ อาหารการ
กิน ประเพณี อันครอบคลุมตั้งแต่การเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไปจนถึงประเพณีที่เกี่ยวกับการ
ผลิตนอกจากนี้ยังครอบคลุมไปถึงพิธีกรรม ศิลปะ และบทเพลง เป็นต้น
ภาพของ "๓๐ ชนชาติในเชียงราย" ไม่ถึงกับเป็นภาพที่เป็นระบบครบถ้วน
ว่าด้วยชนชาติต่างๆ แต่ก็เป็นภาพที่พยายามบอกเล่าให้เห็นภาพในแง่มุมต่างๆ ได้ดี ผู้
เขียนเองกล่าวว่า "ถ้าจะเขียนให้ละเอียดแล้ว น่าจะมีความหนาไม่น้อยกว่าหมื่นหน้า
ต้องใช้เวลาศึกษา คลุกคลีอยู่กับชนเจ้าของชาตินั้นๆ นับเวลาหลายปี" (หน้าคำนำ)
ภาพของชนชาติต่างๆ ในเชียงรายที่ปรากฏจากการอ่าน เป็นภาพของกลุ่ม
ชนชาติต่างๆ ผู้ซึ่งมีความสงบ และขยันขันแข็ง บุคลิกภาพการแต่งกาย ท่วงทีลีลา มี
ข้อแตกต่างกัน แม้ว่าจะเป็นชาวเอเชียผิวเหลืองเหมือนๆ กันทุกๆ สิ่งที่สร้างขึ้นมา
สำหรับแต่ละชนชาติ ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางผังหมู่บ้านการออกแบบบ้านเรือน หอผี
หิ้งผี ประตูของหมู่บ้าน รูปสลักที่วางอยู่เหนือประตู วิธีแต่งกาย การสักหมึก ด้ายขาว
ที่มัดอยู่ที่ข้อมือ สีของเสื้อผ้าที่สวมใส่เพลงที่เลือกมาร้อง ทั้งหมดล้วนแต่มีเหตุผลหรือ
ปรัชญาอยู่เบื้องหลัง ความพยายามที่จะอธิบายทุกสิ่ง ทุกปรากฏการณ์ ทำให้งานของ
ผู้เขียน น่าตื่นเต้นมากๆ เท่ากับที่งานของผู้เขียนได้วางรากฐานความเข้าใจเกี่ยวกับชน
ชาติ เพื่อการศึกษาในรุ่นต่อๆ มา
เนื่องจากว่าชนชาติในเขตเชียงราย โดยมากอยู่ในเขตรอยต่อกับจีน ลาว
และพม่า ด้วยเหตุนั้น ผู้เขียนจึงเดินทางเข้าไปศึกษาเรื่องราวจากรากฐานชีวิตความ
เป็นอยู่ของชนชาติในดินแดนประเทศทั้งสามประเทศนี้
จากการได้เรียนรู้จาก ๓๐ ชนชาติในเชียงราย ชนเผ่าและชนชาติซึ่ง
กระจัดกระจายอยู่ตอนเหนือของไทย มีลักษณะเด่นๆ ที่คล้ายกันคือ
๑) การตั้งบ้านเรือนและชุมชน รวมทั้งพื้นที่กสิกรรม มีการวางผังที่แน่
นอนตายตัว โดยมีปรัชญาเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และปรัชญาเรื่องความ
เป็นจริงแห่งเพศเป็นพื้นฐาน ไม่ใช่สังคมที่สร้างกันขึ้นมาอย่างลวกๆ และป่าเถื่อน
๒) สังคมชนเผ่าไม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับศาสนาพุทธ และความเชื่อ
อื่นใดนอกจากการนับถือผีและธรรมชาติ
๓) ระบบความเชื่อเรื่องผีชนเผ่าที่จัดตั้งขึ้น สัมพันธ์กับความมั่นคงและ
การสืบทอดระบบสายเลือด อำนาจเหนือที่ดินและเหนือกลุ่มชน รวมทั้งความสัมพันธ์
ระหว่างคนกับธรรมชาติ
รายละเอียดในเนื้อหาที่ผู้เขียน นำเสนอในประเทศต่างๆ นอกจากช่วย
ให้เข้าใจชนชาติต่างๆ แล้วยังมีผลโดยอ้อมให้เรา ได้ทบทวนแบบแผนความสัมพันธ์
ระหว่างคนกับคนที่ผันแปรมาแต่อดีต ในยุควิกฤติแห่งความสัมพันธ์ของครอบ
ครัว-เครือญาติในสังคมไทยปัจจุบัน อาจได้รับข้อคิดเป็นอุทาหรณ์จากผลงาน
ค้นคว้าของผู้เขียน ซึ่งทำให้ระลึกถึงอดีตดังตัวอย่างการจัดความสัมพันธ์ระหว่าง
ผู้เฒ่าชาวก้อและเด็ก ผู้เขียนเขียนไว้ดังนี้
"เพราะมารดาเด็กต้องไปไร่ ครั้งกลับมาก็ไม่มีเวลาได้เลี้ยงดูสั่งสอน
เพราะมีงานบ้านสารพัดอย่าง ดังนั้นเด็กๆ จึงอยู่ในความเลี้ยงดูของชายชราผู้เฝ้า
บ้าน เมื่อเบื่อการเล่นกับเพื่อน ณ ลานดินในบริเวณบ้านแล้ว ก็จะมานั่งล้อมรอบ
ชายชรา เขาจะเล่านิยายปรำปราให้ฟัง นิยายมีเรื่องของปีศาจ นางยักษ์ ชายผู้กล้า
หาญ สอนคาถาอาคม สุภาษิต ขนบธรรมเนียม ประเพณีเดิม ตลอดจนบทเพลง
และการลำดับวงศ์ตระกูลเดิมของชาวก้อให้เด็กฟัง" (หน้า ๔๖๔)
๓๐ ชาติในเชียงราย จัดเป็นหนังสือที่อ่านสนุก ให้ความรู้ดีมาก ยัง
สะท้อนให้เห็นความจริงใจ และปราศจากอคติอย่างแท้จริงในการศึกษาชีวิตของ
ผู้คน
|