กำเนิดหนุมาน
จากศิวะปุราณะ(อินเดีย)
โดย- ตรีภูวน์ภาณ
จะกล่าวถึงถึงพระศิวะโพเลนาถ
ฤทธิ์ไหวหวาดไปทั่วทศทิศา
ทรงพบเห็น"โมหินี"ร่ายลีลา
พระจักราแปลงหลอกล่ออสุรี
จุดประสงค์เพื่อแบ่งน้ำอมฤต
อันศักดิ์สิทธิ์เกษียรสมุทรวารีศรี
ครานั้นเล่าราหูรู้ท่วงที
จึงแอบดื่มสายธารีมิได้ช้า
อาทิตย์เห็นก็รายงานพระเป็นเจ้า
พระวิษณุโกรธร้อนเร่าต้องเข่นฆ่า
จึงแผลงจักรตัดเศียรอสุรา
เกิดตำนาน"สุริยุปราคา"ปัจุบัน
พระศิวะเห็น"โมหินี" มีรูปโฉม
จึงเข้าไปโอ้โลมกล่อมดวงขวัญ
กำลังร้อนสำลักออกสำรอกพลัน
ฤาษีนั้นใช้ใบไม้รองไว้ดี
จะกล่าวถึงวานรปิ่นกษัตริย์
ครองสมบัติกลางป่าใหญ่ไพรสณฑ์ศรี
มีนามว่า "วานรราชเกศะรี"
ครองคู่ด้วยเทวี"อัญจนา"
ยังไม่มีโอรสสืบสมบัติ
เหล่าฤาษีเห็นแจ้งชัดจึงปรึกษา
กับเกศะรีวานเรศเหตุเกิดมา
กำลังนี้ต้องเดินหน้าเข้าสู่ครรภ์
ขอเอากำลังศิวะนี้เทใส่หู
จะบังเกิดโอรสผู้ประเสริฐสรรค์
เกศะรีวานรราชปรีดาพลัน
จึงนำสิ่งมหัศจจรย์สู่"อัญจนา"
บังเกิดร่างวานรน้อยขาวเผือกผู้
"รุทราวตาร"ลงมาอยู่บนโลกหล้า
พระพายมอบนามอำนาจไม่คลาดคลา
มีนามว่า"พัชรัมปาลี"
เอ่ยพระนาม"ชัยศรีราม"ย้ำกึกก้อง
กราบบาทสองบิดรมารดาสง่าศรี
วานน้อยปรนนิบัติด้วยภักดี
วานรราชเกศะรีผู้ปรีชา
วันหนึ่งออกไปเล่นเห็นสิ่งแปลก
เป็นครั้งแรกบนอากาศเกิดปฤจฉา
นั่นคงเป็นผลไม้ในนภา
จำต้องเด็ดลงมาเพื่อรับประทาน
เมื่อนั้น
ฝ่ายพระสุริยเทพฟังไขขาน
รู้ว่าเป็นศิวะอวตาร
กำลังเหาะทะยานขึ้นน่านฟ้า
จะกินเราเฉกเช่นเป็นอาหาร
ก็กลัวภัยลนลานเป็นหนักหนา
จึงเหาะหนีออกจากมรรคา
"พัชรัม" ตามมาไม่ช้าที
อมพระอาทิตย์ไว้อยู่ในปาก
จะกลืนแสนลำบากด้วยร้อนถี่
ครานั้นเล่าราหูอสุรี
จะมากลืนอาทิตย์นี้ตามวาจา
เห็นลิงน้อยกลืนไว้อยู่ในโอษฐ์
จึงกระโดดต่อสู้ไปไม่หนีหน้า
แต่ก็ต้องพ่ายแพ้แก่ฤทธา
อสุราจึงไปฟ้องมัฆวาน
พระอินทร์จึงมาใช้เทพอาวุธ
สัปประยุทธ์ลิงน้อยไปดังไขขาน
ลิงน้อยพ่ายตกลงมาสุธาธาร
สลบลงอลหม่านทั้งพงไพร
พระพายโกรธจึงเฝ้าเข้าแต่ถ้ำ
ไม่ออกทำหน้าที่ที่เป็นใหญ่
จักรวาลขาดอากาศจะหายใจ
ครานั้นสามพระภูวไนยปิ่นเทวา
พร้อมทวยเทพลงมาที่หน้าถ้ำ
ก็เอ่ยคำอวยพรไว้ไม่มุสา
โอรสท่านจะเป็นอมตะทรงฤทธา
จงรอคอยพระจักรารามาวตาร
พระจะถูกเนรเทศจากเมืองใหญ่
ออกเดินไพรก็จะมาพบทหาร
ตามช่วงชิงสีดายาวมาลย์
บุตรของท่านจะทรงฤทธฺเกินกว่าใคร
จะเปลี่ยนนามเป็น"หนุมาน"ทะยานกล้า
ทรงฤทธาทั้งจักรวาลไม่ต้านได้
อวยพรแล้วทุกพระองค์ทรงกลับไป
เกศะรีแสนดีใจทั้งพระพาย
หนุมานลิงน้อยซนตามประสา
เห็นเหล่าองค์พระสิทธาอยู่ทั้งหลาย
บูชาไฟขอพรมิคลาดคลาย
จึงมุ่งหมายหยอกล้อพระมุนี
พระสิทธาก็อดรนทนมิได้
จึงสาปให้ลืมกำลังทั้งถ้วนถี่
เมื่อถึงคราวจะใช้ม่รอรี
ก็จะมีผู้มาเตือนสิ่งเลือนลาง
เกศะรีรู้ว่าพระโอรส
ผู้มียศถูกสาปด้อยฤทธิ์ต่าง
เกศะรีจึงว่าต้องหาทาง
เราจะทำอย่างไรในครั้งนี้
จึงไปฝากพระมหาสุริยาทิตย์
ให้เป็นศิษย์สอนสั่งทั้งถ้วนถี่
พระอาทิตย์ก็สอนให้ไม่รอรี
ทั้งทั้งที่เคยกลืนท่านเมื่อผ่านมา
พระอาทิตย์สอนสั่งสิบแปดศาสตร์
จนมีฤทธิ์อำนาจแรงล้วนแกร่งกล้า
หนุมานหวังแทนคุณเกื้อหนุนมา
พระสุริยาจึงให้ไปตาม"ศนี"(พระเสาร์)
ผู้มีความทะนงตนเป็นพ้นนัก
หนุมานก็หาญหักอย่างถ้วนถี่
สำนึกผิดพบบิดามิช้าที
หนุมานผู้ภักดีก็ลงมา
กราบบาทของเกศะรีปิตุเรศ
กราบบาทชนนีเนตรทั้งซ้ายขวา
หนุมานขอไปกีษกินธา
กับมหาราชาพี่"พาลี"
"เกศะรี"อวยพรชัยให้โอรส
ผู้มียศจงมีชัยใจสุขศรี
หนุมานอยู่กีษกินธ์ราชธานี
รอคอยที่วันพบหน้ากับพระราม
ไปรับใช้วาลีที่ขีดขินธ์( ฉบับสันสกฤตใช้ว่า "กีษกินธา")
ราชการงานแผ่นดินไม่เกรงขาม
เมื่อวาลีไล่สุครีวหนีออกตาม
ด้วยมิอาจทนความเผด็จการ
บำเพ็ญตบะต่อไปไม่ได้หยุด
ฤทธิรุทรเพิ่มขึ้นมามหาศาล
ไปกราบบาทแม่อัญจนาเยาวมาลย์
ขอพรท่านให้ประสบพบรามจันทรา
รอคอยท่าน ณ เขา"ฤษยมุกะ"
ไม่ลดละบำเพ็ญพรตอดจิตกล้า
วันหนึ่งทหารทูลเหตุเภทภัยมา
จึงอาสาสุครีพออกไปพลัน
คาดหมายว่าวาลีนี้ตามฆ่า
แปลงกายาเป็นพราหมณ์ทรงธรรมขันธ์
ไปสอบถามก็รู้ว่า"ศรีรามจันทร์"
กับอนุชา"ลักษมัณ"เสด็จมา
พระรามทราบเรื่องวาลีไล่สุครีวะ
จึงชำระล้างแค้นให้ไม่มุสา
สังหารวาลีชิงขีดขินธ์ถิ่นลิงรา
ได้พลมาต่อสู้ด้วย "ทศกัณฐ์"
หนุมานอาสาพระราเมศ
ผู้เรืองเดชไปทิศใต้ไม่แปรผัน
พร้อม"องคท" "ชมพูพาน"ผู้ทรงธรรม์
ทั้งพลนั้นต่างเรืองฤทธิ์วิทยา
ครั้นยกทัพมาถึงฝั่งมหาสมุทร
กองพลหยุดเดินพลพลันเกิดปัญหา
ข้ามมหาสมุทรอย่างไรไร้ปัญญา
ครานั้นนั้นเล่าพญาแร้ง"สัมปาตี"
หัวเราะร่าเพราะเห็นเป็นอาหาร
"ลิง"รสหวานมาตายให้ถึงที่
หนุมานจึงพูดไปไม่ช้าที
ตายก็ดีเป็นเกียรติแท้แด่"ศรีราม"
เหมือนกับแร้ง"ชฎายุ"ผู้เก่งกล้า
บินช่วยเหลือแม่สีดามิเกรงขาม
สุดชีวิตจนตัวตายไม่ครั่นคร้าม
"สัมปาตี"ได้ฟังความสงสัยพลัน
หนุมานจึงเล่าแต่เก่าก่อน
อุทาหรณ์เกิดมาพาโศกศัลย์
สัมพาทีจึงแค้นใจ"ทศกัณฐ์"
เพราะว่ามันสังหารอนุชา
จึงว่ากองทัพท่านนั้นกล้าหาญ
เดินทะยานมาถึงที่นี้เก่งกล้า
ท่านจงรีบข้ามไปในลงกา
แม่สีดานั้นอยู่ในเมืองนั้น
เราสงสัยอยู่แล้วที่เห็นเหตุ
คงจะเกิดอาเพศร้ายมหันต์
ถ้าเราหนุ่มเราจะฆ่าทศกัณฐ์
แต่เราแก่เกินจะสรรค์จำนรรจา
ราชาหมีชมพูพานท่านข้ามได้
ลองข้ามไปเถิดนะท่านสิ้นปัญหา
ราชาหมีตอบไปไม่รอช้า
ไม่ดีกว่าราชาแร้งสัมปาตี
เมื่อครั้งกวนเกษียรสมุทรเราข้ามได้
เรายังหนุ่มยิ่งใหญ่ไม่หน่ายหนี
เรากับท่านอายุไซร้หลายแสนปี
ในครั้งนี้ข้ามไม่ได้ใจโศกา
เห็นเพียงแต่หนุมานนั้นข้ามได้
เขานั้นลืมฤทธิ์ไปไม่มุสา
เพราะถูกสาปจากฤาษีมีวิชา
ด้วยเหตุว่าเธอกลั่นแกล้งพระมุนี
ชมพูพานผู้เฒ่าเว้าวอนว่า
ตื่นเถิดจอมราชาขุนกระบี่
อดีตท่านบินไปไม่รอรี
จนถึงพระสุริย์ศรีมิได้ช้า
กลืนพระองค์เล่นเป็นเช่นอาหาร
เหมือนผลไม้รสหวานอันโหยหา
พระอินทร์เห็นใช้วัชระฟาดตกมา
สิ้นสติตรงหน้าเมืองวานร
พระพายโกรธไม่พัดอึดอัดทั่ว
สามโลกกลัวขาดอากาศสยดสยอน
พระเป็นเจ้าจึงลงมาประทานพร
ให้ท่านมีฤทธิรอนเกินกว่าใคร
ฤทธิ์นั้นท่านใช้แกล้งพระฤาษี
พระมุนีจึงสาปท่านให้
ต่อเมื่อมีคนเตือนเรื่องเลือนไป
ฤทธิ์ท่านจะกลับมาใหม่ในครั้งนี้
ตื่นเถิดหนุมานผู้หาญกล้า
จงบินไปเมืองลงกาของยักษี
สืบข่าวพระแม่สีดามิช้าที
มีเพียงขุนกระบี่มีฤทธา
ท่านเท่านั้นที่จะบินข้ามได้
ร้อยโยชน์ไซร้หรือเกินนั้นสิ้นปัญหา
อวตารแห่งศิวะตื่นขึ้นมา
เร่งรีบไปลงกาเถดหนุมาน
หนุมานได้ฟังกำลังฤทธิ์
กลับคืนมาสิงสถิตมหาศาล
ขยายร่างเทียมภูผาเหาะทะยาน
บินสู่กลางคัคนานต์ไป"ลงกา"
ครานั้นภูเขา"ไมนากะ"
หวังจะให้เธอพักอย่าหรรษา
จึงขวางทางหนุมานทะยานมา
หนุมาถามภูผา"ขวางทำไม"
ภูผาตอบครั้งหนึ่งบิดาท่าน
ช่วยประสานภูผาเราให้ทนได้
เชิญท่านพักเถิดหนาสบายใจ
หนุมานตอบ"จะรีบไปในลงกา"
หนุมานเหาะไปไม่เหน็ดเหนื่อย
ไม่ช้าเฉื่อยมุ่งไปที่ข้างหน้า
ครานั้นยักษิณีหนึ่งทะลึ่งมา
หัวใหญ่ขวางมรรคาจึงถามไป
ขวางทำไมฤาท่านในวันนี้
เรานั้นมีภาระอันยิ่งใหญ่
โปรดเถิดเราจะเร่งทันใด
ขอท่านนั้นไซร้ให้ผ่านทาง
ยักษิณีจึงตอบไปไม่รอช้า
เจ้าจะต้องเข้าในปากกว้าง
พระพรหมาให้พรไว้ไม่เจือจาง
เราคือนาง"สุรสา"แม่นาคี
เทพทั้งหลายทดสอบฤทธิ์เดชท่าน
หนุมานท่านเป็นผู้เก่งกล้า
ไปเถิดช่วยศรีรามจันทรา
นำพระแม่สีดาคืนมาพลัน
หนุมานเหาะไปอีกหลายโยชน์
แสนรุ่งโรจน์ได้พรมาพาสุขสันต์
สะดุ้งเฮือกหยุดกลางน้ำดังจำนรรจ์
"อะไรกันใครมาแกล้งแสดงตน"
ครานั้นเล่ายักษิณีที่ดุร้าย
นางมุ่งหมายวานรเป็นโภชนผล
จับเงาไว้จึงหยุดฉุดสกนธ์
ความสามารถอันร้ายล้นอสุรา
นางนั้นชื่อ"สิงหิกา"รากษส
นางปรากฏกลางสมุทรฉุดภักษา
จับเงาไว้แล้วกินเป็นภัตตา
นางจึงคว้าจับเงาหนุมาน
นางจับไว้เอาเข้าเคล้าในปาก
เคี้ยวกลืนเล่นไม่ลำบากรสชาตหวาน
วานรเล่าไม่ได้ตายตามการ
เหาะทะยานฉีกท้องพองออกมา
หนุมานฝ่าฟันอันอุปสรรค
อันหน่วงหนักร้อยโยชน์หมดปัญหา
เหาะมาถึงระหว่างทางลงกา
ก็แลเห็นอสุราหน้าประตู
แปลงตนเป็นลิงน้อยค่อยค่อยย่อง
อสูรมองเห็นหนุมานหาญมาสู้
"ลังกินี"จับหนุมานนั้นมาดู
นางไม่รู้ลิงน้อยนี้เป็นใคร
หนุมายนขยายร่างอย่างภูผา
ใหญ่เกินกว่าลังกินีมิเทียบได้
ทุบด้วย"เกาโมทกี"(ลูกตุ้ม)นี้เร็วไว
นางอสูรก็บรรลัยวายชีวา
กลับกลายเป็นนางอัปสรนอนแน่อยู่
พานเรศไม่รู้ถามปัญหา
"เจ้าเป็นใครกัน?วนิดา"
นางตอบ"เป็นนางฟ้าถูกสาปไซร้
ต่อทหารศรีรามมาตามข่าว
เพื่อสืบสาวสีดาดังขานไข
ฆ่าเราตายจะพ้นสาปทันใด
เราเกิดใหม่ขอบคุณท่านในวันนี้
หนุมานประนมหัตถ์จัดรับไหว้
แล้วเดินไปในลงกานครศรี
เดินหลงทางก็ถามองค์พระระวี(พระอาทิตย์)
อาจารย์มีความเห็นเช่นใดกัน
พระอาทิตย์บอกไปอย่าได้ท้อ
จงเดินต่อไปเถิดประเสริฐสรรค์
เดี๋ยวจะมีคนบอกข่าวเข้าเร็วพลัน
ชี้ทางธรรม์แก่เจ้าจงเข้าใจ
หนุมานเดินต่อไม่ท้อแท้
วานรแลข้างทางสร้างสดใส
เห็นพวกรากษสอดหทัย
พิจารณามิเข้าไปต่อกร
เดินมาถึงปราสาทผงาดฟ้า
ต้นจุนสีปลูกตรงหน้าอนุสรณ์
แสนสงสัยในจิตนักหลักว่าวอน
"จุนสี"พระสี่กรสัญลักษณ์
อสูรใดบูชาพระวิษณุ
ฤทธิ์เอกอุดำรงทรง"สุทรรศนะจักร"
จึงเข้าไปหวังว่าจะทายทัก
ด้วยความรักต่อรากษสผู้บูชา
โอม วิษณุนมะ โอมวิษณุนมะ
ปิ่นเทวะจงคุ้มครองชีวิตข้า
หนุมานจึงถามไปไม่รอช้า
ท่านผู้สวดมนตราพระจักรี
เป็นอสูรทำไมถึงได้สวด
ยังถือบวชตระหนักเห็นเช่นฤาษี
"วิภีษณะ"ตอบไปไม่ช้าที
เรานี้เป็นน้ององค์เจ้าลงกา
เป็นอสูรก็สวดได้ให้สาเหตุ
อย่าแยกเขตแบ่งกั้นเป็นปัญหา
ทั้งนาคอสูร มนุษย์แลครุฑา
ต่างก็มีศรัทธาพระจักรี
ท่านเป็นใครฤาวานรผู้ประเสริฐ
เรานั้นเกิดศรัทธาพาสุขศรี
เมื่อเห็นท่านมาทักทายในวันนี้
ท่านนั้นมีนามกรชื่อใด
หนุมานตอบไปไม่รอช้า
เราชื่อว่าหนุมานดังขานไข
เหาะหาข่าวเรื่องสีดาอรทัย
เธอนั้นอยู่ที่ใดเล่าอสุรา
วิภีษณะยินดีเป็นที่ยิ่ง
ชี้ความจริงออกไปไม่มุสา
เธอนั้นอยู่สวนอโศกแดนพนา
เจ้าลงกาขังเธอไว้ในสวนนั้น
หนุมานได้ฟังสร้างสุขศรี
ตอบขอบคุณอสุรีที่รังสรรค์
หนุมานจึงไปในเร็วพลัน
วิภีษณะนั้นก้มกราบ"หนุมาน"
ผู้เขียน : ตรีภูวน์ภาณต๓๘๓
๑๑ ม.ค. ๒๕๕๑, ๑๗.๔๔ น.
บุตรพระพายแอบเข้าไปในสวนอโศก
ได้ยินเสียงวิปโยคน่าสงสาร
เสียงครวญคร่ำของสตรียามวิกาล
บุตรพระพายปีนทะยานยอดต้นไม้
ครานั้นเห็น"ราวณะ"เดินมาหา
สตรีนั้นยืนกล้าแสนยิ่งใหญ่
จึงแอบฟังเสียงนั้นทันใด
เขาทั้งสองพูดอะไรในยามนี้
"มาเถิดน้องสีดามาหาเถิด
มาเป็นปิ่นประเสริฐไซร้ให้ยักษี
จะรอคอย"ราม"ทำไมยอดนารี
ตัวเรานี้จักรอคอยวนิดา"
สีดาตอบท่านเป็นผู้ยิ่งใหญ่
ลักเรามาด้วยเหตุใดไอ้ยักษา
สตรีซื่อสัตย์ต่อสามีนี้โศกา
ไม่มีวันที่ยักษ์มาอยู่ในใจ
ไปเสียเถิดจงไปไม่รอช้า
หากไม่ไปเราจะฆ่าตัวตักษัย
"ราวณะ"ได้ฟังก็รีบไป
สีดาเห็นทรุดใจในทันที
คร่ำครวญว่าศรีรามนามศักดิ์สิทธิ์
อารยบุตรสถิตที่ใดนี่
ปล่อยให้สีดานั้นพลันโศกี
ให้ยักษีเหยียบย่ำชวนช้ำใจ
หนุมานได้ฟังสร้างสะท้าน
ประนมหัตถฺกราบกรานมิสงสัย
หนุมานจึงทิ้งแหวนลงไป
สีดาไซร้ได้เห็นก็สงกา
แหวนศรีรามมาได้อย่างไรนี่
ใครนำมาครั้งนี้จงมาหา
ออกมาเถิดโปรดบอกโปรดออกมา
ให้สีดาได้เห็นเป็นบุญใจ
หนุมานกระโดดลงนั่งตรงหน้า
แม่สีดาได้เห็นก็สงสัย
คิดว่ายักษ์ปลอมตนมาดลหทัย
จึงขับไล่ไปให้พ้นสกนธ์กาล
บุตรพระพายจึงว่าโอ้พระแม่
ความจริงแท้เรามิใช่ยักษ์นะท่าน
เรานี้หนามีนามว่า"หนุมาน"
เราไขขานเป็นความสัตย์ขัตติยา
ศรีรามสวามีท่านนี้นโศกเศร้า
จึงใช้ให้ตัวเราออกตามหา
เราเป็นบุตรพระพายกับอัญจนา
ออกตามหาสีดาทั่วปฐพี
เราพบแล้วขอให้พระแม่เจ้า
โปรดกลับไปกับเราเถิดมารศรี
กลับไปพบกับองค์พระสวามี
ตัวเราก็หมดหน้าที่อันมีมา
แม่สีดาตอบไปในครั้งนี้
ขอบใจทุกท่านที่ออกตามหา
เราถูกราวณะจับตัวมา
หากกลับไปรามจันทราต้องโกรธี
เรามุ่งหมายให้พระองค์ทรงล้างแค้น
ที่อัดแน่นในจิตไม่ผิดที่
สังหารยักษ์ชีวาวายในครั้งนี้
เราจะรออยู่ที่นี่หนึ่งปีรา
ขอท่านกลับไปบอกอารยบุตร
เราดีใจเป็นที่สุดไม่มุสา
ฝากกราบบาทพระองค์อย่าสงกา
เราสีดารอพระองค์อยู่ตรงนี้
หนุมานจึงทูลว่าพระแม่เจ้า
อันตัวเรามาพบท่านพลันสุขศรี
ขอหลักฐานยืนยันว่าข้าภักดี
พบองค์พระแม่นี้ที่ลงกา
เมตตาเถิดขอพระแม่จงโปรดให้
หลักฐานเรากลับไปมอบปิ่นโลกหล้า
ครานั้นองค์พระแม่สีดา
ถอดมณีปิ่นแก่พระยาหนุมาน
หนุมานดีใจกราบเบื้องบาท
แล้วลาองค์นุชนาฏกินอาหาร
ทำลายสวนอโศกอันโอฬาร
เหล่าทหารตกใจจึงเข้าตี
หนุมานจับทุ่มยักษ์รุมเร้า
เหวี่ยงไปเข้าจนตายหลายยักษี
"อักษะกุมาร"จึงมารอเข้าต่อตี
หนุมานฆ่าอสุรีมิได้ช้า
ความล่วงรู้ไปจนทศพักตร์
โกรธอย่างหนักจึงใช้โอรสา
"อินทรชิต"มาจับไปไม่รอช้า
อินทรชิตจึงมาไม่ช้าที
หนุมานทำลายสวนชวนต่อสู้
อินทรชิตดูจึงท้าทายไม่หน่ายหนี
"หนุมาน"นั้นสุขแม้นแสนยินดี
จึงรบรอต่อตีอสุรา
หนุมานทำลายสวนชวนต่อสู้
อินทรชิตดูจึงท้าทายไม่หน่ายหนี
"หนุมาน"นั้นสุขแม้นแสนยินดี
จึงรบรอต่อตีอสุรา
เมื่อต่อสู้อินทรชิตเห็นฤทธิ์เดช
พานเรศจึงหยุดคิดพิจารณฐาน์
อสูรหยิบ"พรหมาสตร์"นั้นขึ้นมา
แล้วยิงไปตรงกายาร่างวานร
ศรพรหมาสตร์วิ่งไปไม่รอช้า
พระพรหมาที่สถิตกลางแสงศร
คารวะหนุมานฤทธิรอน
ตรัสว่าเรามัดท่านก่อนในครั้งนี้
ท่านจะทำให้หลุดก็ย่อมได้
การครั้งนี้ยิ่งใหญ่ขุนกระบี่
จะได้พบ"ราวณะ"อสุรี
ตามยักษีอินทรชิตไปในลงกา
หนุมานยอมให้พรหมาสตร์มามัดร่าง
เพื่อเปิดทางพบราวณะจอมยักษา
อินทรชิตจับเชือกไว้ไม่ได้ช้า
แสนยินดีปรีดาในครั้งนี้
หนุมานแกล้งถูกมัดหวังจัดให้
อสูรพาเข้าไปพบจอมยักษี
อินทรชิตก็ลากไปไม่รู้ที
ขุนกระบี่ก็แกล้งเดินดำเนินไป
ชิชะอุเหม่หา/วานรน้อย
เจ้าลิงถ่อยมาทำไมถิ่นยักษี
เราเป็นจอมอสูรราชแห่งเมืองนี้
เรานั้นมีนามว่า"ราวณะทศกัณฐ์"
เจ้าเป็นลิงกระจ้อยหนอยอวดรู้
มาต่อสู้ด้วยยักษากระไรนั่น
เจ้าเป็นใครตอบมามิช้าพลัน
มิเช่นนั้นเราจะฆ่าสบายใจ
หนุมานตอบไปไม่รอช้า
เรานามว่า"หนุมาน"ดังขานไข
เราเป็นทูตจากศรีรามนามลือชัย
ข้ามมาได้ร้อยโยชน์กำหนดมา
ท่านจงคืนพระแม่บัดเดี๋ยวนี้
จอมยักษีผู้โฉดเขลาเจ้าปัญหา
พระแม่เป็นปิ่นหลักท่านลักมา
จงรีบคืนรามจันทราสวามี
ทศกัณฐ์ได้ฟังทั้งหัวเราะ
สิบหน้าเยาะเหวยชิชะขุนกระบี่
สีดาอยู่ในป่าพนาลี
บัดเดี๋ยวมีมนุษย์นั้นติดตามนำ
เราไม่เชื่อหรอกนะวานรน้อย
เราจะคอยมนุษย์ผู้ต้อยต่ำ
อยากได้นางก็มารบสร้างวีรกรรม
ให้สามโลกจดจำย้ำขึ้นใจ
หนุมานได้ฟังทั้งพิโรธ
จึงเอ่ยโอษฐ์อุเหม่อ้ายยักษ์ใหญ่
รามมิได้ต้อยต่ำจงจำไว้
ดูฤทธิ์สาวกนี้ไซร้บัดเดี๋ยวนี้
หนุมานยืดหางอย่างเชื่องช้า
ยาวหนักหนามาทำเป็นเก้าอี้
หมุนรอบสูงนั่งสูงกว่าจอมอสุรี
จอมยักษีเห็นแล้วยิ่งโกรธา
หนุมานจึงว่าเราสูงกว่าท่าน
อสูรพาลจงรีบคืนพระนางดีกว่า
หาไม่จักเกิดสงครามติดตามมา
อสูรเมืองลงกาจักวอดวาย
ทศกัณฐ์ฟังคำนำพิโรธ
แสนขึ้งโกรธสั่งเสนาทั้งหลาย
จงจับมันฆ่าเร็วไวเสียให้ตาย
ลิงแสนร้ายตัวนี้ต้องม้วยมรณ์
"วิภีษณะ"ลุกขึ้นยืนคัดค้าน
พระพี่ท่านโปรดเมตตาโปรดช้าก่อน
ลิงตัวนี้เป็นทูตาของวานร
ข้ามสมุทรสู่นครลงกา
ธรรมเนียมกษัตริย์ทั้งหลายไม่ฆ่าทูต
หากฆ่าเขาสามโลกพูดไม่ดีหนา
ชนทั้งหลายคงติฉินคงนินทา
ขอปิ่นเกศอสุราคิดให้ดี
ทศกัณฐ์ได้ฟังก็ยั้งคิด
ประกาศิตออกไปเหวยยักษี
เอาผ้าชุบน้ำมันมาในครานี้
พันหางขุนกระบี่แล้วจุดไฟ
หนุมานได้ฟังก็สมคิด
ในดวงจิตวางแผนการณ์ยิ่งใหญ่
เราจะเผาลงการวดเร็วไว
มันมอดไหม้สมกับบาปลักสีดา
เสนายักษ์พันผ้าหางจุดไฟลุก
หนุมานนึกสนุกเป็นหนักหนา
วิ่งไปแล้วเอาไฟเผาลงกา
สรรพสิ่งไหม้เกินกว่ารักษาทัน
หนุมานดับไฟในสมุทร
แล้วรีบรุดสู่อีกฝั่งเป็นแม่นมั่น
ไปเข้าเฝ้าศรีรามผู้ทรงธรรม์
แล้วกราบทูลเรื่องทั้งนั้นที่พบมา
ฝ่ายศรีรามยกทัพเพื่อข้ามสมุทร
แต่มาหยุดที่ริมฝั่งอย่างกังขา
จะยกทัพข้ามอย่างไรไปลงกา
ข้อสงสัยเกิดมาไม่ช้าพลัน
จึงตั้งทัพริมฝั่งอย่างเป็นสุข
เหล่าวานรไม่มีทุกข์สนุกนั่น
เวลาผ่านเลยไปในเจ็ดวัน
ศรีรามผู้ทรงธรรม์มีบัญชา
เราจะทำอย่างไรในครั้งนี้
ขอโปรดเหล่าขุนกระบี่ที่ปรึกษา
โปรดชี้แนะเราด้วยช่วยเมตตา
เราจะข้ามไปลงกาวิธีใด
ราชาหมีชมพูพานจึงบอกว่า
อดีตกาลนานมาข้ารู้ได้
วานรสองตนในทัพนี้มีฤทธิไกร
ขว้างสิ่งใดลงในน้ำก็จำลอย
คือวานร"นล"กับ"นีล"ปิ่นกระบี่
สาปของฤาษีโปรดนำไว้เพื่อใช้สอย
โอกาสมาถึงครั้งนี้ที่เฝ้าคอย
จงเขียนรอยพระนาม"ราม"ลงไว้
หินทุกก้อนจะลอยน้ำนำไปสู่
ลงกาอยู่ปลายร้อยโยชน์กำหนดได้
นลกับนีลได้ฟังจึงตั้งใจ
เขียนพระรามรามไว้แล้วโยนศิลา
หินทุกก้อนลอยน้ำนำกองทัพ
หวังรบกับทศกัณฐ์จอมยักษา
จุดมุ่งหมายชิงสตรีแม่"สีดา"
กลับคืนมาเพื่อความรักประจักษ์กัน
หินทุกก้อนลอยน้ำนำกองทัพ
หวังรบกับทศกัณฐ์จอมยักษา
จุดมุ่งหมายชิงสตรีแม่"สีดา"
กลับคืนมาเพื่อความรักประจักษ์กัน
"พระสมุทร"รับคำสั่งรากษส
ก็ปรากฏคลื่นลมโถมมานั่น
หินที่วางเอาไว้แตกแยกออกพลัน
ศรีรามผู้ทรงธรรม์แสนโกรธา
จับวางสายพระแสงศร"พรหมาสตร์"
ดึงสายเพียงเสียงไหวหวาดสิบทิศา
พระสมุทรเกรงกลัวในฤทธา
ก็ปรากฏกายาขมาพลัน
"ศรีราม"ให้อภัยพระสมุทร
ตรัสว่าโปรดอย่าหยุดถนนนั่น
เราให้เกียรติพระสมุทรผู้ทรงธรรม์
จงรับดอกไม้นั้นเราบูชา
"ศรีราม"แผลงศรไปเป็นไม้หอม
พวงพยอมโปรยปรายหลากหลายค่า
พระสมุทรก้มกราบกับบาทา
ฝ่ายวานรต่อมรรคาลงกาไป
ถ้วนร้อยโยชน์เดินทัพนับไม่ถ้วน
ทหารล้วนวานรกับหมีใหญ่
ข้ามไปสู่ลงกาพลันเร็วทันใด
ตั้งทัพไว้ริมชายหาดไม่คลาดคลา
ฝ่ายทศกัณฐ์ทราบข่าวก็เร่าร้อน
เหลาวานรกับมนุษย์ผู้ใจกล้า
จึงประชุมกับพหลพลเสนา
จะจัดการเหตุการณ์มานี้อย่างไร
ฝ่าย"วิภีษณะ"กราบทูลไปไม่รอช้า
โอพี่ยาฟังน้องเถิดจะขานไข
ขอจงเร่งส่งสีดาคืนไป
มิเช่นนั้นอสูรบรรลัยหมดพารา
ทศกัณฐ์ได้ฟังทั้งพิโรธ
แสนขึ้งโกรธวิภีษณะน้องยักษา
"เหวยไอ้น้องจัญไรอ้ายพาลา
เจ้าเกิดมาเป็นเสี้นยนหนามอสุรี
สงครามกำลังเกิดแล้วยังกลัวได้
กลัวทำไมกับอ้ายรามกับกระบี่
เราไม่คืนสีดายอดนารี
เจ้าเห็นเขาดีกว่าพี่จงรีบไป
อยู่กับเขาให้เป็นเจ้าบูชาเขา
ส่วนตัวเราขาดกันดังขานไข
ทศกัณฐ์ไม่หันมองน้องนั้นไซร้
วิภีษณะกราบบาทไท้แล้วไปพลัน
วิภีษณะกับเสนาอีกสี่ยักษ์
เหาะออกไปทายทักวานรนั่น
สุครีพจึงทายท้าอ้ายอาธรรม์
พวกมึงมาทำไมกันอสุรา
วิภีษณะประนมหัตถ์ไม่ขัดเขิน
กล่าวว่า"ท่านผู้เจริญเมตตาหนา
เรามาเฝ้าองค์ศรีรามจันทรา
เราเป็นพระอนุชาทศกัณฐ์
สุครีพขัดเคืองจิตคิดเข่นฆ่า
แต่ยั้งว่าดูท่าทีขมีขมัน
พาวิภีษณะเข้าเฝ้าโดยพลัน
องค์ศรีรามผู้ทรงธรรม์เปี่ยมปัญญา
ผู้เขียน : ตรีภูวน์ภาณ
๓๐ ม.ค. ๒๕๕๑, ๑๗.๐๖ น.
ฝ่ายศรีรามพบหน้าวิภีษณะ
รากษสคารวะปิ่นโลกหล้า
ฝ่ายศรีรามมีพระทัยใฝ่เมตตา
ทรงถามว่ามาหาเราด้วยเหตุใด
วิภีษณะบอกไปไม่ได้ช้า
โอศรีรามจันทราผุ้เป็นใหญ่
เราเป็นน้องเจ้าลงกาผู้เกรียงไกร
แต่ความเห็นนี้ไซร้ไม่ตรงกัน
เราคัดค้านพระเชษฐาว่าดังนี้
โปรดคืนสีดาให้รามประเสริฐสรรค์
ท้าวได้ฟังทรงพิโรธโกรธขึ้งพลัน
ขับไล่อันข้าไร้ที่พึ่งพา
จึงพาเสนีสี่ตนคนขยัน
บากบั่นเหาะข้ามมาหา
ขอเป็นทาสพระองค์ทรงโลกา
ขอพระองค์ทรงเมตตาโปรดปรานี
ฝ่ายศรีรามยิ้มรับไหว้ไม่มุสา
แล้วตรัสว่าผู้ประเสริฐจอมยักษี
"มหาราชวิภีษณะ"มาครั้งนี้
ให้เรามีสิทธิ์ชนะอสุรา
มหาราชรับไหว้เถิดอาวุโส
ท่านใหญ่โตสุดยอดนักปราชญ์กล้า
หนุมานเล่าให้ฟังแต่หลังมา
ท่านต้อนรับในลงกาว่าอย่างไร
เราขอคารวะแด่ตัวท่าน
มาร่วมงานกันเถิดดังขานไข
สีดาถูกทศกัณฐ์ลักตัวไป
ก็ขอให้ท่านบอกข่าวเล่าเรื่องมา
วิภีษณะได้ฟังทั้งซึ้งซาบ
ก็ก้มกราบบาทพระองค์ทรงยศถา
ก็พูดไปด้วยยินดีและปรีดา
โอศรีรามจันทราประเสริฐนัก
เราเป็นเพียงรากษสไร้ยศถา
แต่ท่านมอบกรุงลงกาอาณาจักร
เราขอมอบชีวิตให้ด้วยใจภักดิ์
ขอพระองค์ทรงปกปักรักษากัน
ฝ่ายทศกัณฐ์ซึ่งขับไล่วิภีษณะ
ก็ลดละอารมณ์โกรธโมหันธ์
ใช้"ศุกระ" "สารณะ"ไปตามพลัน
ทั้งสองนั้นตาม"วิภีษณะ"อนุชา
แปลงเป็นวานรไปในกองทัพ
ก็ได้รับข่าวแม่นมั่นเรื่องปัญหา
วิภีษณะรู้เรื่องทั้งสองมา
ก็กราบทูลพระจักราในทันที
หนุมานจับมาให้ไม่รอช้า
องค์ศรีรามจันทราถามสองยักษี
เมื่อทราบเรื่องก็ปล่อยไปในทันที
ทั้งสองอสุรีเฝ้าเจ้าลงกา
กราบทูลเรื่องทั้งหมดปรากฏอยู่
ทศกัณฐ์รู้ทั้งรักแค้นแน่นปัญหา
โอน้องเราทำกันได้ใจโศกา
ไปเข้าข้างรามจันทราด้วยเหตุใด
คิดพลางพิโรธโกรธเคืองแค้น
สุดอัดแน่นอุเหม่น้องทำกันได้
เราจะต้องฆ่ามันอันตรธานไป
น้องจัญไรเป็นไส้ศึกรามจันทรา
ทศกัณฐ์แปลงตนเป็นฤาษี
ก็เหาะข้ามวารีไปด้วยใจกล้า
เหล่าวานรเห็นเคารพนบบูชา
นิมนต์เฝ้ารามจันทราในทันที
ฝ่ายศรีรามครั้นได้เห็นพระฤาษี
ก็กราบบาทพระมุนีตบะกล้า
ทั้งรู้เป็นทศกัณฐ์อสุรา
แปลงตนเพื่อเจรจาต่อรองความ (ให้พระรามสังหารวิภีษณะ)
"คืนตนเถิดทศกัณฐ์มหาราช
แปลงตนมาเหมือนขี้ขลาดโลกเหยียดหยาม (พระรามรู้ทัน)
เราเคารพจอมราชาพยายาม
อุตส่าห์ตามน้องยามาหาเรา (ทศกัณฐ์คืนร่าง)
ถามใจน้องของท่านในวันนี้
จะกลับไปอยู่กับพี่เรื่องของเขา
เชิญเถิดท่านตามประสงค์จงถามเอา
เรื่องก่อนเก่าอย่าได้มาเคืองหทัย
ทศกัณฐ์จึงว่าอารยบุตร
ท่านนั้นคือที่สุดผู้เป็นใหญ่
สงครามต้องเกิดขึ้นมิฝืนไว้
เราทั้งสองจักต้องได้รบกัน
เหตุที่เราแปลงตนมาครั้งนี้
เราทราบดีว่าต้องพ่ายไปสวรรค์
ชาติที่สามเราทั้งสองต้องรบพลัน
พระศิวะผู้ทรงธรรม์ทรงบันดาล
วิภีษณะไม่เกี่ยวการครั้งนี้
เขาจะเป็นจอมอสุรีดังไขขาน
ให้โลกรู้ทศกัณฐ์นั้นไม่พาล
เหตุที่ลักนงคราญแม่สีดา
เกี่ยวเนื่องด้วยคำสาปพระฤาษี
ทั้งสี่ตนมาไวกูณฐ์แจ้งปัญหา
เรามิให้เธอเข้าพบพบสาปมา
ให้เกิดเป็นอสุราทุกชาติไป
พระองค์อุตส่าห์แก้สาปแปรผัน
ต้องรบกันสามชาติมิขัดได้
ชาตินี้เราสุดท้ายหมายรบไซร้
ก็ขอให้พระองค์พิจารณา
ฝ่ายศรีรามตรัสว่ามหาราช
ท่านมิใช่คนขลาดจอมยักษา
ถึงวันนั้นอโหสิกรรมด้วยช่วยเมตตา
ที่เราฆ่าตัวท่านวันนั้นไซร้
ทศกัณฐ์คืนกลับลงกาเขต
เหล่าพานเรศจ้องจะฆ่าอสูรใหญ่
ฝ่ายศรีรามยกหัตถ์ห้ามทัพไว้
เพราะรู้แจ้งความในเพียงสองคน .. (ข้อมูลจากภาพยนตร์อินเดีย)
ฝ่ายศรีรามจัดประชุมเป็นกลุ่มสวา
วานรผู้ทรงฤทธาประสิทธิผล
ตรัสปรึกษาการสงครามช่วยคิดค้น
บอกอนุสนธ์ออกมาว่าอย่างไร
สุครีพจึงเสนอว่าศรีราเมศ
ผู้ทรงเดชขอพระองค์อย่าสงสัย
ส่ง"องคท"เข้าเป้นราชทูตไป
ก่อนสงครามครั้งใหญ่เกิดขึ้นมา
นี่เป้นโอกาสครั้งสุดท้าย
ของราพณ์ร้ายที่จะคืนแม่โลกหล้า
หากไม่คืนเกิดสงครามติดตามมา
สามโลกจะไม่นินทาการครั้งนี้
ฝ่ายศรีรามเห็นคำตอบชอบใจยิ่ง
ตรัส"องคท"โอรสลิงจอมกระบี่
โปรดกระทำการไซร้คิดให้ดี
ขอจงมีศุภโชคปกป้องไป
องคทเดินถือกระบองร้องกล้าหาญ
เหวยพวกมารเปิดประตูรู้บ้างไหม
ราชทูตมาขอพบราพณ์เกียงไกร
จะต้อนรับหรือไม่ให้บอกมา
ประตูเปิดองคทเดินลดเลี้ยว
ชั่วประเดี๋ยวสู่กลางสภายักษา
ทศกัณฐ์เห็นองคทเดินจรดมา
หัวเราะร่าว่าเฮ้ยอ้ายลิงไพร
เจ้าเป็นเพียงหิ่งห้อยกะจิริด
ฤาจะสู้ดวงอาทิตย์อันยิ่งใหญ่
เมื่อครั้งก่อนหนุมานทะยานไกล
เราจับไว้เผาตัวนั้นมันแทบตาย
ฝ่ายองคทนั้นก็หัวเราะร่า
เหวยยักษามาพูดเช่นนี้ได้
เมื่อเผาตัวหนุมานเกิดอะไร
ผลคือลงกาไหม้เป็นภัสม์ธุลี
เรานั้นเป็นราชทูตจากอิกษวากุ
จอมรฆุอโยธยาวงศ์ผู้ทรงศรี
ท่านลักนางสีดายอดนารี
จงรีบคืนพระภูมีมิช้าพลัน
ราพณ์หัวเราะว่าเหวยเฮ้ยลิงน้อย
ตัวกระจ้อยพูดมาได้อย่างไรนั่น
สีดาเราพบในป่าพนาวัน
คนเดียวนั้นจึงได้พาเธอมา
รามเป็นใครมาตามแล้วถามถึง
เราก็จึงมิส่งให้ไม่รู้ว่า
รามมีสิทธิ์อะไรในสีดา
เราต่างหากนำเธอมาด้วยปรานี
องคทว่าเหวยทศกัณฐ์ท่านบังอาจ
ลักนุชนาฏจากป่ามาที่นี่
ท่านเป็นเพียงเศษผงคงธุลี
พระรามเป็นปฐพีที่มั่นคง
เมื่อยังเด็กเราคลับคล้ายได้เห็นท่าน
ถูกหางมัดประจานอย่าลืมหลง
พ่อพาลีเมตตาไว้จึงได้คง
มิเช่นนั้นท่านปลิดปลงสิ้นลงกา
จำได้ไหมทศกัณฐ์ท่านลองนึก
ทศกัณฐ์สะดุดกึก..โกรธหนักหนา
กระทืบบาทวาเหวยเฮ้ยเสนา
จงรีบจับองคทมาฆ่ามันพาล
องคทว่าช้าก่อนอย่าร้อนเร่ง
เรามิเกรงแต่ให้โอกาสท่าน
ยกขาเราให้ขึ้นได้ในเร็ววาร
เราจะยกทัพกลับสถานเร็วทันใด
ยกไม่ขึ้นสงครามนำเรื่องเกิด
ลองดูเถิดอสูรผู้เป็นใหญ่
องคทจึงหยุดขาลงไว้
อสูรไซร้ทะยอยยกเท้าขึ้นมา
(เหล่าอสูรยกจนเหนื่อยก็ไม่ขึ้น
อินทรชิตมายกก็ไม่ขึ้นจนทศกัณฐ์มายก
ทายซิว่ายกขึ้นไหม?โปรดติดตามตอนต่อไป
ในศิริรามกีรติมหากาวยัม)
เหล่าเสนีอสูรนั้นหมั่นยกเท้า
แต่พวกเขายกไม่ขึ้นมึนหนักหนา
ครานั้นเล่าอินทรชิตอหังการ์
จึงเดินเข้าหวังยกขาจอมวานร
ขานั้นหาได้เคลื่อนจากที่ไม่
อินทรชิตท้อแท้ใจให้สังหรณ์
นี่อาจเป็นลางร้ายให้เดือดร้อน
สยดสยอนแก่เหล่าอสุรา
ทศกัณฐ์เห็นโอรสหน้าซีดเผือด
อารมณ์เดือดจึงเดินเอาเข้ายกขา
เมื่อจะก้มองคทนั้นดึงออกมา
กลายเป็นว่าจอมอสูรนั้นคำนับ
จึงว่าเท้าเรานี้ไม่มีค่า
ของศรีรามจันทราควรจะจับ
ท่านั้นเป็นราชามาน้อมรับ
พูดจบก็เหาะกลับไปในทันที
ทศกัณฐ์อดทนฝืนยืนมองอยู่
ในใจรู้เหตุทั้งปวงลุล่วงที่
ยิ้มรับพร้อมจะรบพระจักรี
อสุรีจึงสั่งปวงเสนา
(ทศกัณฐ์ก็รบส่งเสนาไปรบกับศรีราม
ส่งประหัสตะ
กุมภะ นิกุมภะ
กุมภกรรณ ออกไปรบทีละตนก็พ่ายแพ้
จนอินทรชิตไปรบก็แพ้ลักษมัณ
สุดท้ายทศกัณฐ์รบกับศรีราม ศรีรามยิงทศกัณฐ์ที่สะดืออันเป็นจุดที่ทศกัณฐ์กักน้ำ
อมฤตไว้ ศรพรหมาสตร์ทำให้น้ำแห้ง ทศกัณฐ์จึงตาย
หมายเหตุ ทศกัณฐ์ในรามายณะกับทศกัณฐ์ในรามเกียรติ์มีที่มาต่างกัน กลอนชุดนี้
ใช้ข้อมูลจากรามายณะ แม้รามายณะเองก็มีหลายฉบับ มากกว่า๕๐ ฉบับ จึงขอให้ผู้
อ่านอย่าสับสนนำมาปะปนกับรามเกียรติ์)
เมื่อทศกัณฐ์ตายแล้ว ศรีรามก็ให้หนุมานไปรับสีดามาที่ค่าย ศรีรามให้สีดาพิสูจน์ตัว
ด้วยการลุยไฟ (การลุยไฟพิสูจน์ตัวไม่มีปรากฏในวรรณคดีเรื่องอื่นเลยแม้แต่
วรรณกรรมอินเดียมีแต่เรื่องการเผาตัวตายของพระนางสตีเท่านั้น)
สีดาไม่มีมลทินก็กลับนครอโยธยาอย่างมีความสุขกับศรีรามพระสวามี
จะกล่าวถึงท้องพระโรงโอ่โถงใหญ่
พระทรงชัยศรีรามนาถา
ประทับเคียงกับองค์แม่สีดา
บนบัลลังก์อโยธยาสง่างาม
เหล่าเทพไท้โปรยดอกไม้ดังสายฝน
ดอกไม้หล่นจากฟ้าแสนอร่าม
กลิ่นหอมหวลยวนใจไปทุกยาม
"ชัยศรีราม"ตะโกนก้องแซ่ซ้องกัน
มีราชาองค์หนึ่งนั้นพลันสงสัย
หนุมานเหตุใดไฉนนั่น
ศรีรามจึงไว้พระทัยในตัวมัน
อย่ากระนั้นจักทดสอบชอบด้วยธรรม
โอ้หนุมานทหารกล้าน่าเคารพ
เราน้อมนบด้วยใจสุขทุกคืนค่ำ
ท่านเป็นเลิศสร้างสิ่งดีวีรกรรม
สามโลกจำแซ่ซ้องไปไตรโลกา
เรามีข้อสงสัยจึงไต่ถาม
โปรดตอบตามความจริงใจไม่มุสา
สามโลกลือใจท่านนั้นนั้นบูชา
มีองค์รามแต่สีดาอยู่ที่ใด
พระแม่นั้นอยู่เคียงข้างคู่สร้างสม
ชนนิยมอย่างข้าพาสงสัย
ท่านมีบทพิสูจน์นี้มีอย่างไร
ก็ขอให้ตอบดังเหตุเจตนา
เมื่อนั้น
ศรีหนุมานได้ฟังไม่กังขา
ประนมหัตถ์นอบน้อมองค์ราชา
แล้วกล่าวเรื่องท่านสงกาเรื่องอย่างนี้
เรามีรามกับสีดาอยู่ในอก
จักหยิบยกให้ท่านดูไม่ใช่ที่
ใจต่อใจรู้มั่นรู้กันดี
จึงไม่มีข้อกินแหนงแคลงใจราม
ราชานั้นก็ยุยงกล่าวส่งเสริม
ท่านโปรดเติมโดยชอบตอบคำถาม
ใจท่านนั้นมีแต่องค์ราม
แล้วสตรีผู้งดงามคือสีดา
พระแม่นั้นอยู่ที่ใดในใจท่าน
ขอจงตอบเถิดหนุมานทหารกล้า
เราจะได้คลายสงสัยในลีลา
โปรดตอบเราเถิดสวายอดวานร
หนุมานได้ฟังไม่ยั้งคิด
ประนมหัตถ์แผลงฤทธิ์สยดสยอน
"ชัยศรีราม"ตะโกนก้องไม่เดือดร้อน
ประนมกรกราบองค์รามจันทรา
ขยายร่างสูงยิ่งใหญ่ใจเป็นสุข
ยืนเบิกบุกตระหง่านปานภูผา
สองมือนั้นฉีกอกไปไม่ได้ช้า
เลือดไหลมาท่วมท้นปฐพี
ภาพศรีรามออกมาจากอกนั้น
คู่สีดาสาวสวรรค์มารศรี
"ชัยศรีราม"ชัยศรีราม"พระนามนี้
จะอยู่คู่ฤดีหนุมาน
สามโลกเห็นประนมหัตถ์ศรัทธานัก
แสนประจักษ์ใจสวายอดทหาร
ร้อง"ฮเร"ก้องฟ้าสุธาธาร
แล้วก็ก้มกราบกรานจอมพานรินทร์
ต่อมา คราวหนึ่งเมื่อชาวบ้านคนหนึ่งได้สงสัยว่าสีดามีความบริสุทธิ์ต่อองค์รามหรือไม่
เนื่องจากไปอยู่กับทศกัณฐ์มา ๑ ปี ความอันนี้รู้ไปถึงศรีราม ศรีรามจึงเนรเทศสีดาไป
อยู่ป่าและเกิด"พระกุศ"พระลวะ"โอรสพระราม(สีดาทรงครรภ์อยู่) ครั้งหนึ่งทั้งสองได้
พบกับพระรามและต่อสู้กันโดยที่ไม่ทราบว่าเป็นพ่อเป็นลูกกัน สีดาได้เห็นก็มาห้าม
พระรามเห็นสีดาก็ดีพระทัยมาก แต่สีดานั้นเข็ดขยาดกับพระรามจึงอธิษฐานต่อพระ
แม่ธรณีให้นำนางกลับไปสู่อ้อมอกนาง พระแม่ธรณีก็มารับทำให้สีดาจากกับพระราม
ชั่วนิรันดร์ พระรามเสียพระทัยมากจึงคิดจะตายตามนางสีดาไปจึงไปยืนริมฝั่งแม่น้ำ
คงคา
เมื่อนั้น
หนุมานทหารองค์พระทรงศิลป์
ครั้นทราบเรื่องศรีรามท้อต่อชีวิน
เหตุด้วยเรื่องมาสูญสิ้นแม่สีดา
พระองค์จะเสด็จสรวงสวรรค์
พระทรงธรรม์อธิษฐานจิตประดิษฐาน์
โอ้ศิวะ โอ้พระแม่คงคา
โปรนดมารับรามจันทราสู่พระองค์
พระบาทเดินจะเข้าห้วงสายน้ำ
ประชาชนร้องร่ำลาพิศวง
บ้างครวญคร่ำว่าอย่าจากประจักษ์ทรง
ขอจงอยู่ดำรงโลกา
ฝ่ายศรีรามกราบทวยราษฎร์ทั้งหลลาย
ทั้งหญิงชายร่ำไห้ไม่มุสา
แล้วเดินไปก้าวลงยังคงคา
ก็สะดุดคนฉุดขาองค์พระราม
หนุมานฉุดไว้ให้ทรงอยู่
น้ำตาหลั่งพรั่งพรูแล้วก็ถาม
โอ้พระองค์ทำไมทิ้งผู้ติดตาม
คนนี้เล่าพยายามทูลทัดทาน
หากไม่มีองค์รามไซร้ในวันนี้
หนุมานคงไม่มีจิตประสาน
คงเป็นหุ่นปราศจิตใจไร้วิญญาณ
ขอให้ท่านจงโปรดพิจารณา
ฝ่ายศรีรามจับไหล่แล้วให้สัตย์
ท่านผู้เป็นยอดสมบัติอันมีค่า
รามในร่างมนุษย์นี้ที่เกิดมา
เป็นเพียงรูปชะตาปั้นเป็นคน
นามต่างหากที่เป็นอมตะ
ขอให้ท่านจงลดละเราสักหน
เรากับท่านคู่กันตราบไปจน
นามทั้งสองจักอยู่บนเหนือความตาย
เราจากไปเพียงร่างในครั้งนี้
แต่นามเรายังอยู่ดีที่สืบสาย
ขอขอบใจท่านที่มิเสื่อมคลาย
ภักดีเราตราบโลกสลายมลายไป
นามของท่านคู่กับเราในคราวนี้
ท่านจงมีชีวิตอมรดังขานไข
เมื่อมีการเล่า"รามายณะ"อยู่ที่ใด
ที่นั้นไซร้ก็ต้องมี"หนุมาน"
เราลาท่านก่อนหนาในครานี้
ขอท่านมีความสุขมหาศาล
ตรัสพลางเดินลงไปกลางสายธาร
ดวงวิญญาณสู่ชาติ"พรหมาตมัน"(กลับไปเป็นพระนารายณ์)
หนุมานเล่าเรื่อง"รามายณะ"
แก่พระมุนี"ตุลสิดาส"แล้วรังสรรค์
"รามจริตมานัส"ไซร้ให้อ่านกัน
ตำนานนั้นเล่าไว้เป็นอย่างนี้
หนุมานให้ธงชัยแก่"ภีมะ"
ใน"มหาภารตะ"อักษรศรี
บทบาทของหนุมานชาญฤทธี
เล่าให้ฟังขอจงมีสุขศรีเทอญ
(จบบริบูรณ์)