|
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการแปรรูป |
เปิดฟ้าส่องโลก: ทำไมปูตินจับเศรษฐี (1)
ไทยรัฐ
:
7
พฤศจิกายน 2546
โดย นิติภูมิ นวรัตน์
ผู้อ่านท่านที่เคารพครับ ขณะนี้มีข่าวที่น่าสนใจจากสหพันธรัฐรัสเซีย ซึ่งผู้คนจำนวนไม่น้อยจับตาดูอยู่ เศรษฐีคนหนึ่งซึ่งชื่อดังมากในรัสเซีย นายโคดอรดอฟสกี้ เจ้าของบริษัทน้ำมันยูคอส ซึ่งเป็น 1 ใน 10 บริษัทน้ำมัน ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถูกสำนักงานอัยการสูงสุดของรัสเซียออกหมายจับ ตำรวจจับกุมตัวแล้ว สื่อตะวันตกก็โวยวายว่ารัฐบาลรัสเซียกลายเป็นเผด็จการทำลายบรรยากาศ ประชาธิปไตยที่พวกตะวันตกเชื่อว่าตัวเองมีส่วนร่วมสร้างมากับมือ ถ้าเราเอ่ยชื่อคนรวยระดับอภิพญามหาเศรษฐีในรัสเซียที่เรียกว่าเป็นโอลิการ์ฮ แปลจากภาษากรีกโบราณว่า คนรวยที่พร้อมไปด้วยอิทธิพลการเมืองในทุกชื่อเศรษฐีรัสเซียนั้น ท่านอย่าไปหาคนที่ขาวสะอาดของแท้เลยครับ สิบสองปีที่แล้ว รัสเซียยังเป็นคอมมิวนิสต์ ไม่มีธุรกิจเอกชนใดๆเลย ทุกคนเป็นข้ารัฐการ อยากจะถามผู้อ่านท่านที่เคารพว่า ในเงื่อนไขเศรษฐกิจการตลาดที่เพิ่งเกิดขึ้นโดยไม่มีประวัติศาสตร์ การตลาดหรือทุนนิยมมาก่อน คนที่สะอาดจะหาสตางค์เป็นหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 3-4 ปี ได้หรือไม่? ก็คงจะยากมากละครับ ในสมัยประธานาธิบดีเยลต์ซิน 3-4 ปี ภายหลังที่เปิดเสรีมา รัฐบาลก็จัดขบวนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ คนที่กระดิกพลิกตัวได้ไวและมีเส้นสายก็สามารถซื้อวิสาหกิจใหญ่ๆของรัฐ โดยชำระค่าตอบแทนให้รัฐบาลบางครั้งไม่ถึง 5% ของมูลค่าจริงๆ+เงินใต้โต๊ะให้กับเจ้าหน้าที่รัฐบาล ที่ผมจำได้แม่นเลยก็คือ โรงงานอะลูมินัมในเมืองกราสโนยาร์สค์ที่ราคาประมาณ หลายแสนล้านบาท เป็นโรงงานอะลูมินัมใหญ่เป็น อันดับสองของโลก ปรากฏว่าขายในราคาเพียง 150 ล้านเหรียญเท่านั้น รัฐบาลได้แต่แค่ธรรมเนียม ต่อมาก็ได้ภาษีสรรพากร นักธุรกิจใหญ่ๆ ในรัสเซียชอบเอาเงินไปฝากไว้ในต่างประเทศ เช่น สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา หรือแม้แต่ในประเทศไทยของเราก็มีเศรษฐีรัสเซียเอาเงินมาฝากไว้เยอะ ไม่มีใครเปิดเผยรายได้ตัวจริงให้รัฐบาลทราบสภาวการณ์แบบนี้ก็จึงขยายวงไปเรื่อยๆ พ.ศ.2539 ตอนนั้นประชาชนคนรัสเซียจะเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ มีแนวโน้มที่คนยากจนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่จะเลือกผู้นำจากพรรคคอมมิวนิสต์ นักธุรกิจระดับอภิพญามหาเศรษฐีทุกคน ซึ่งแต่ละคนจะมีธนาคารของตัวเองกลัวกันมาก ก็เลยชุมนุมสุมหัวกันเป็นกลุ่มสนับสนุนให้เยลต์ซินเป็นประธานาธิบดีครั้งที่สอง คนรวยพวกนี้ส่วนมากจะเป็นคู่แข่งที่ทยอยขายทรัพยากรธรรมชาติของรัสเซียให้ต่างประเทศ น้ำมันเอย ก๊าซธรรมชาติเอย อะลูมินัมก็มาก และก็ยังมีทรัพยากรอีกบานเบอะเยอะแยะ ในจำนวนนั้น มีหลายคนที่ไม่เคยพูดจากันมาเป็นปี เป็นแต่ศัตรูคู่อาฆาต แต่ในปีเลือกตั้ง เศรษฐีเหล่านี้ก็มาร่วมโต๊ะเดียวกัน สร้างกลุ่มที่นักข่าวรัสเซียเรียกว่า เชมีบังคิร์ชชือน่า หรือกลุ่มอิทธิพลนายแบงก์เจ็ดคน พวกนี้นี่แหละครับที่โยนเงินจำนวนมากเพื่อช่วยเยลต์ซินหาเสียงเลือกตั้ง ภายหลัง พ.ศ.2539 สื่อมวลชนที่ไม่ขึ้นกับพวกที่มีอิทธิพลเกือบจะไม่เหลือหลอในสหพันธรัฐรัสเซีย เมื่อปูตินขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี พ.ศ.2543 ประชาชนคนรัสเซียเรียกร้องให้ปูตินจัดการพวกโอลิการ์ฮซักหน่อย ปูตินก็ตอบว่า ถ้าพวกโอลิการ์ฮถือประโยชน์ส่วนตัวสูงกว่าประโยชน์แห่งชาติ ข้าพเจ้าก็จะเอาพวกนี้ไปสระผมในส้วม เป็นสำนวนรัสเซีย หมายถึง จะจัดการให้นั่นเอง ปูตินเอ่ยเพียงเท่านี้นี่แหละครับ กูซินสกี้ที่เป็นนายแบงก์และมหาเศรษฐีสื่อมวลชนสั่งลูกน้องทำข่าวเอียงไปทางตะวันตกทันที เอาใจตะวันตก พยายามจะล้มล้างรัฐบาลปูตินโดยใช้ข้อความโกหกในรายการโทรทัศน์ที่ตนเองเป็นเจ้าของอยู่ เช่น รัฐบาลระเบิดบ้านพักในกรุงมอสโก จนมีคนเสียชีวิตสามร้อยกว่าคน แหม กำลังมันครับ เรื่องอย่างนี้ ถ้าใครอ่านจากสื่อมวลชนตะวันตกก็อย่างหนึ่ง แต่ความเป็นจริงก็เป็นอย่างที่นิติภูมิเขียนรับใช้ไปนี่แหละ จันทร์วันหน้าที่จะถึง ขออนุญาตมารับใช้กันต่อครับ. |