Homepage(index)

รูปแบบของการประเมินผลด้วยตนเอง

ท่านสามารถประเมินความก้าวหน้าของการศึกษาธรรมและปฏิบัติธรรมได้ ๒ รูปแบบ ดังนี้ :-

การประเมินแบบที่ ๑ คือ ประเมินระยะเวลาของการตั้งอยู่ในภาวะของการไม่มีความทุกข์ โดยสังเกตจิตใจของท่านเองว่า วันหนึ่ง ๆ จิตใจของท่านมีภาวะของการไม่มีความทุกข์ หรือตั้งอยู่ในภาวะนิพพานได้นานเท่าใด ซึ่งเป็นรูปแบบที่ง่ายแต่ไม่ละเอียด เหมาะสำหรับการประเมินตนเองในช่วงแรกของการปฏิบัติธรรม ซึ่งได้กล่าวถึงแล้วในเรื่องความดับทุกข์(นิโรธหรือนิพพาน).

การประเมินแบบที่ ๒ คือ ประเมินความสามารถในการปฏิบัติตนว่า สามารถดับกิเลสอย่างหยาบและละเอียดได้มากน้อยเพียงใด หรือเข้าข่ายความเป็นอริยบุคคลในระดับอะไรและเป็นได้นานเท่าใด.

ในชีวิตประจำวัน ท่านควรประเมินตนเองวันละ ๒-๓ ครั้งว่า ขณะนี้ท่านได้ละสังโยชน์ขั้นไหนไปแล้วบ้าง และต่อจากนี้ไปจะมีเจตนาละสังโยชน์ข้อไหน พร้อมกับมีความตั้งใจ มีความเพียร ที่จะมีสติในการละสังโยชน์ตามที่ได้ตั้งเจตนาเอาไว้อย่างต่อเนื่องต่อไป.

 

สรุป

พระพุทธเจ้าตรัสรู้อริยสัจ ๔ และทรงปฏิบัติธรรมตามมรรคมีองค์ ๘ อย่างต่อเนื่อง.

พระพุทธเจ้าตรัสสอนอริยสัจ ๔ และทรงฝึกให้พุทธบริษัท ๔ ปฏิบัติธรรมตามมรรคมีองค์ ๘ เช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงปฏิบัติอยู่.

อริยสัจ ๔ จึงเป็นแก่นธรรมในพระพุทธศาสนา ซึ่งประกอบด้วย ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค.

ความทุกข์(ทุกข์) ได้แก่ความทุกข์ต่าง ๆ ทางจิตใจ และความทุกข์ทางร่างกาย ที่สืบเนื่องมาจากความทุกข์ทางจิตใจ.

สาเหตุของความทุกข์(สมุทัย) เกิดจากความไม่รู้แจ้งชัดในอริยสัจ ๔ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ(มีอวิชชา) จึงทำให้ไม่สามารถควบคุมความคิดไม่ให้คิดด้วยกิเลสได้ เป็นผลให้เกิดการคิดด้วยกิเลส(เกิดสังขารในปฏิจจสมุปบาท) เกิดความทะยานอยาก(เกิดตัณหา) เกิดความยึดมั่นถือมั่น(เกิดอุปาทาน) และเกิดการกระทำต่าง ๆ ที่เป็นกิเลส เป็นสาเหตุให้เกิดความทุกข์.

วิธีดับความทุกข์(มรรค) ทำได้โดยการศึกษาอริยสัจ ๔ และฝึกปฏิบัติธรรมตามมรรคมีองค์ ๘ ในชีวิตประจำวันอย่างถูกต้องและครบถ้วน ก็จะสามารถเข้าถึงความดับทุกข์(นิโรธหรือนิพพาน)ได้.

ความดับทุกข์(นิโรธหรือนิพพาน)จะมีความต่อเนื่องได้มากน้อยเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับความรู้และความสามารถทางธรรมที่มีอยู่ในขณะนั้น.

การฝึกปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวัน ประกอบด้วย :-

ฝึกมีสติอยู่ที่ฐานหลักของสติไว้เสมอ เพื่อป้องกันความคิดฟุ้งซ่านและเตรียมพร้อมที่จะใช้สติปัญญาในการปฏิบัติงานและการดำเนินชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ.

ฝึกแบ่งสติจากฐานหลักของสติไปใช้ในการสำรวมระวังการรับรู้ข้อมูลต่าง ๆ ที่เข้ามาทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อสำรวมระวังไม่ให้เกิดการคิดด้วยกิเลส พร้อมทั้งควบคุมความคิดและการกระทำต่าง ๆ ให้เป็นไปตามโอวาทปาฏิโมกข์อย่างต่อเนื่องจนคล้ายอัตโนมัติ.

ฝึกพักร่างกายและสมองอย่างมีสติเป็นช่วง ๆ โดยการเจริญสมาธิระยะสั้น ๆ ๑/๒ - ๑ นาที หรือตามความเหมาะสม แล้วกลับมาเจริญสติสลับกันไปเรื่อย ๆ ทั้งวัน จึงจะเป็นการปฏิบัติธรรมที่ไม่ขาดช่วง เพื่อทำให้จิตใจมีความบริสุทธิ์ผ่องใส และพ้นทุกข์ได้อย่างต่อเนื่องมากขึ้น.

ฝึกเจริญสมาธิในสถานที่ปลอดภัย โดยใช้ระยะเวลานาน ๑๐ - ๑๕ นาที วันละ ๑ - ๒ ครั้ง เพื่อฝึกมีสติหยุดความคิดระยะยาว และช่วยทำให้มีสติในการควบคุม(บริหาร)ความคิดได้ดีขึ้น.

ศึกษาธรรม ทบทวนธรรม และใช้ความรู้ทางธรรมในชีวิตประจำวัน เพื่อป้องกันการเสื่อมหายของข้อมูลทางธรรมที่มีอยู่ในความจำ และคอยเพิ่มพูนข้อมูลทางธรรมไว้ในความจำเสมอ เพราะข้อมูลทางธรรมในความจำเป็นไตรลักษณ์.

ฝึกใช้สติปัญญาทางโลกและสติปัญญาทางธรรมควบคู่กันไปในสัดส่วนที่เหมาะสม. ขณะปฏิบัติงานและการดำเนินชีวิตประจำวัน ให้มีสติสำรวมระวังไม่ให้มีการคิดฟุ้งซ่านและไม่คิดด้วยกิเลสอย่างต่อเนื่อง.

เมื่อท่านได้ศึกษาอริยสัจ ๔ (ปริยัติ) และฝึกปฏิบัติธรรม(ปฏิบัติ) จนได้รับผลจากการปฏิบัติธรรม(ปฏิเวธ)แล้ว ขอได้โปรดช่วยกันเผยแพร่ธรรม(เผยแพร่)ง่าย ๆ ตามกำลังความรู้และความสามารถด้วย เพื่อจะได้ช่วยคนอื่น สังคม มวลมนุษย์ และสิ่งแวดล้อมตามความเหมาะสม.

บทความที่นำเสนอทั้งหมดนี้ เป็นความเข้าใจและประสบการณ์ตรงของผู้เขียนในเรื่องอริยสัจ ๔ ครบทุกหัวข้อธรรม ซึ่งเป็นเพียงมุมมองหนึ่งของคนตาบอดที่กำลังคลำช้าง(กำลังศึกษาอริยสัจ ๔ อยู่)เท่านั้นเอง. ทั้งนี้ ก็เพื่อเสริมความรู้ของท่านผู้อ่านและเชิญชวนให้นำไปทดลองฝึกพิจารณาธรรม ปฏิบัติธรรม พร้อมทั้งตรวจสอบและพิสูจน์ผลของการปฏิบัติธรรมด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดข้อมูลพื้นฐานด้านสติปัญญาทางธรรมสำหรับใช้ในการศึกษาอริยสัจ ๔ สืบต่อไป.

ท่านควรมีความเพียรชอบในการศึกษาและค้นคว้าพุทธพจน์จากแหล่งต่าง ๆ และจากผู้รู้ทั้งหลายอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมทั้งฝึกปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการเพิ่มพูนข้อมูลความรู้และความสามารถทางธรรมในความจำของท่าน แล้วใช้ข้อมูลดังกล่าวในการดับกิเลสและกองทุกข์จนถึงที่สุด.

 

บรรณานุกรม

 

ธรรมปิฎก(ป.อ. ปยุตฺโต), พระ. พุทธธรรม. พิมพ์ครั้งที่ ๘.

กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณ

ราชวิทยาลัย, ๒๕๔๒.

-------------------------------- ไตรลักษณ์. พิมพ์ครั้งที่ ๓.

กรุงเทพมหานคร: บริษัท สธรรมิก จำกัด, ๒๕๔๓.

สุชีพ ปุญญานุภาพ. พระไตรปิฎกสำหรับประชาชน. พิมพ์ครั้งที่ ๑๖. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหามกุฏราช

วิทยาลัย, ๒๕๓๙.

------------------------ คุณลักษณะพิเศษแห่งพระพุทธศาสนา.

พิมพ์ครั้งที่ ๒. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหา

มกุฏราชวิทยาลัย, ๒๕๔๑.

วศิน อินทสระ. อริยสัจ ๔. พิมพ์ครั้งที่ ๕. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย, ๒๕๔๐.

มหาอุทัย อุทโย, พระ. การศึกษาเชิงวิเคราะห์เรื่องตัณหาในพระไตรปิฎก.

พิมพ์ครั้งที่ ๑. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย, ๒๕๓๙.

คณะกรรมการกองตำรา มหามกุฏราชวิทยาลัย. พุทธศาสนสุภาษิต เล่ม ๓.

พิมพ์ครั้งที่ ๑๘. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์

มหามกุฏราชวิทยาลัย, ๒๕๓๘.

ธรรมโกศาจารย์(ชอบ อนุจารีเถระ), พระ. พุทธประวัติทัศนศึกษา.

พิมพ์ครั้งที่ - . กรุงเทพมหานคร: หสน. วิบูลย์กิจ

การพิมพ์.

สา, สมเด็จพระสังฆราช. พุทธประวัติ เล่ม ๓. พิมพ์ครั้งที่ ๔๕.

กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยา

ลัย, ๒๕๓๘.

ญาณวรเถร, สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์. มหาสติปัฏฐานสูตรและคิริ

มานนทสูตร. พิมพ์ครั้งที่ ๒๓.

กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหามกุฏราช

วิทยาลัย, ๒๕๓๘.

เทพวิสุทธิญาณ(อุบล นนฺทโก), พระ. ประวัติอนุพุทธสังเขป ๙๙.

พิมพ์ครั้งที่ ๑. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหา

มกุฏราชวิทยาลัย, ๒๕๓๘

นาวาเอก ทองใบ หงษ์เวียงจันทร์. พระธรรมบท. พิมพ์ครั้งที่ ๑.

กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ บริษัท สหธรรมิก

จำกัด, พ.ศ. – (๒๕๔๐ ?).

สมาคมศิษย์เก่ามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. พระไตรปิฎก (CD ROM)

จัดทำโดยสมาคมศิษย์เก่ามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระชนมพรรษา ๖ รอบ. ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒

 

รายการอ้างอิงจากพระไตรปิฎก

 

หนังสือพุทธธรรม อ้างอิงจากพระไตรปิฎกฉบับภาษาบาลี(ฉบับสยามรัฐ) ผู้ใช้พระไตรปิฎกแปลฉบับภาษาไทย ให้ใช้เลขที่เล่มและเลขที่ข้อเป็นหลัก เพราะเลขที่หน้าจะไม่ตรงกัน.

บางบทความที่นำมาอ้างอิง ผู้เขียนได้ค้นเพิ่มเติมจากพระไตรปิฎก CD ROM ฉบับสมาคมศิษย์เก่ามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จึงใส่วงเล็บไว้ให้ทราบ.

วิธีค้นเอกสารอ้างอิง : ทุกหัวข้อของเอกสารที่นำมาอ้างอิง ประกอบ ด้วยเลขที่ของบทความที่นำมาอ้างอิง อักษรย่อชื่อคัมภีร์ในพระไตรปิฎก. เลขที่เล่ม / เลขที่ข้อ / เลขที่หน้า.

ตัวอย่าง : เลขที่ของบทความที่นำมาอ้างอิง = ๑ อักษรย่อชื่อคัมภีร์ในพระไตรปิฎก = สํ.นิ. เลขที่เล่ม = ๑๖ เลขที่ข้อ = ๔๑,๙๔-๕,๓๐๖-๘ เลขที่หน้า = ๑๙,๕๓,๑๕๘.

๑ สํ.นิ. ๑๖/๔๑,๙๔-๕,๓๐๖-๘/๑๙,๕๓,๑๕๘

๒ ม.มู. ๑๒/๒๘๘/๒๘๐

๓ สํ.ม. ๑๙/๑๗๑๒-๓/๕๔๘-๙

๔ ที.ม. ๑๐/๑๔๒/๑๕๒

๕ องฺ.ติก. ๒๐/๕๐๕/๒๔๑

๖ ม.ม. ๑๓/๑๕๐–๑๕๒/๑๔๗–๑๕๓

๗ สํ.ม. ๑๙/๑๗๐๓/๕๔๓

๘ ขุ.ธ. ๒๕/๒๔/๔๐

๙ สํ.นิ. ๑๖/๑๘๔–๑๘๗/๙๔–๙๖

๑๐ สํ.ส. ๑๕/๑๘๑/๕๐ (CD ROM)

๑๑,๑๒ ขุ.ธ. ๒๕/๑๑/๑๑ (CD ROM)

๑๓ ม.มู. ๑๒/๒๕๒/๒๓๒

๑๔ องฺ.จตุกฺก. ๒๑/๑๑๗/๑๖๑

๑๕ องฺ.ติก. ๒๐/๕๐๑/๒๒๒

๑๖ องฺ.จตุกฺก ๒๑/๑๕๗/๑๙๑

๑๗ ที.ม. ๑๐/๙๓/๑๐๗; สํ.ม. ๗๑๒/๒๑๐ (CD ROM)

๑๘ สํ.ข. ๑๗/๒/๒

๑๙ องฺ.ติก. ๒๐/๕๐๕/๒๔๑ (ใน CD ROM อยู่หน้า ๒๒๖)

๒๐ สํ.สฬ. ๑๘/๖๒๗/๔๐๓

๒๑ ม.ม. ๑๓ /๓๗๑/๓๕๕

๒๒ ม.ม. ๑๓/๑๕๐–๑๕๒/๑๔๗–๑๕๓

๒๓ วินย. ๔/๑-๓/๑-๕; สํ.นิ. ๑๖/๑-๓, ๑๔๔/๑, ๗๘, ฯลฯ

๒๔ ขุ.ม. ๒๙/๒/๒ (CD ROM)

๒๕ ขุ.ธ. ๒๕/๑๓/๑๖ (CD ROM)

๒๖ ขุ.ธ. ๒๕/๑๓/๑๖ (CD ROM)

๒๗ ม.มู.๑๒/๔๔๐-๔/๔๗๒–๗

๒๘ สํ.ข. ๑๗/๓๖๘/๒๓๔ (CD ROM)

๒๙ ขุ.จู ๓๐/๕๙๕/๒๖๑ (CD ROM)

๓๐ สํ.นิ. ๑๖/๒๓๒/๑๑๗ (CD ROM)

๓๑ ขุ.จู ๓๐/๑๘๑/๘๑ (CD ROM)

๓๒ ขุ.อป. ๓๒/๘/๖๘

๓๓ สํ.ข. ๑๗/๘๘/๕๔ (หมายเหตุ: คำว่า ตทังคนิพพานหรือนิพพานชั่วคราวพบ เพียงประโยคเดียวในตทังคสูตร ๒๓/๒๕๔/๓๙๘(CD ROM) คือ “ดูกรอาวุโส พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ตทังคนิพพาน ๆ ดังนี้ ฯลฯ”. การไม่มีเนื้อหาเช่นนี้ อาจเป็นเพราะว่ามีการสูญหายของบทความที่ขยายคำดังกล่าว. ในพจนานุกรมบาลี-ไทย ตทังค เป็นคำคุณศัพท์แปลว่า ชั่วคราว คำว่าตทังคนิพพานแปลว่านิพพานชั่วคราว. ในพจนานุกรมพุทธศาสตร์ ตทังคปหาน แปลว่าการละกิเลสชั่วคราว ตทังควิมุตติ แปลว่าการหลุดพ้นชั่วคราว)

๓๔ องฺ.ติก. ๒๐/๔๙๕/๒๐๒

๓๕ วินย. ๔/๑-๓/๑-๕; สํ.นิ. ๑๖/๑-๓, ๑๔๔/๑, ๗๘, ฯลฯ

๓๖ ที.สี. ๙/๕๐/๔๔ (CD ROM); สํ.ข. ๑๗/๘๘/๔๔

๓๗ สํ.นิ. ๑๖/๗๑๖/๓๒๘

๓๘ ขุ.ธ. ๒๕/๒๑/๒๘ (CD ROM)

๓๙ วินย. ๔/๑๒–๑๔/๑๖–๑๘ (CD ROM และเป็นการสรุป)

๔๐ ม.มู. ๑๒/๙/๑๓ (CD ROM)

๔๑ ขุ.อุ. ๒๕/๘๔/๑๒๒

๔๒ องฺ.ทสก. ๒๔//๗/๑๑ (CD ROM)

๔๓ ที.ม.๑๐/๒๙๙/๓๔๘; ม.มู. ๑๒/๑๑๕/๘๘, ๑๔๙/๑๒๓;

สํ.ม. ๑๙/๓๔/๑๐; อภิ.วิ ๓๕/๑๖๓/๑๓๖, ๕๗๐/๓๑๖

๔๔ ที.ม. ๑๐/๒๙๙/๓๔๘; ม.อุ. ๑๔/๗๐๔/๔๕๓;

อภิ.วิ ๓๕/๑๖๔/๑๓๖, ๕๗๑/๓๑๗

๔๕,๔๖,๔๗ ที.ม. ๑๐/๒๙๙/๓๔๘; ม.มู. ๑๒/๑๔๙/๑๒๓;

ม.อุ. ๑๔/๗๐๔/๔๕๔; อภิ.วิ ๓๕/๑๖๕-๗/๑๓๖, ๕๗๒-๔/๓๑๗

๔๘ ที.ม. ๑๐/๒๙๙/๓๔๘; ม.มู ๑๒/๑๔๙/๑๒๔; ม.อุ. ๑๔/๗๐๔/๔๕๔;

อภิ.วิ ๓๕/๑๖๘/๑๓๗, ๕๗๕/๓๑๗

๔๙ ที.ม. ๑๐/๒๙๙/๓๔๙; ม.มู. ๑๒/๑๔๙/๑๒๔; ม.อุ. ๑๔/๗๐๔/๔๕๔;

อภิ.วิ ๓๕/๑๖๙/๑๓๗, ๕๗๖/๓๑๘

๕๐ ที.ม. ๑๐/๒๙๙/๓๔๙; ม.มู. ๑๒/๑๔๙/๑๒๔; ม.อุ. ๑๔/๗๐๔/๔๕๔;

อภิ.วิ ๓๕/๑๗๐/๑๓๗

๕๑ องฺ.นวก. ๒๓/๒๓๗,๒๕๑,๒๕๕/๔๒๕,๔๗๕,๔๗๖

๕๒ สํ.ม. ๑๙/๙๐๘/๒๗๒

๕๓ สํ.ม. ๑๙/๑๓๒๖/๓๙๕ (CD ROM)

๕๔ วินัย. ๑/๑๗๘/๑๓๑; สํ.ม. ๑๙/๑๓๕๒–๓/๔๐๗

๕๕ สํ.ม. ๑๙/๑๓๗๗/๔๐๙ (CD ROM)

๕๖ สํ.ม. ๑๙/๑๓๗๔/๔๐๘ (CD ROM)

๕๗ ที.ม. ๑๓๕/๑๔๔ (CD ROM)

๕๘ ที.ม. ๑๐/๒๗๓/๒๖๔ (CD ROM)

๕๙ สํ.ข. ๑๗/๔๒/๒๘

๖๐ ที.ม. ๑๐/๑๘๖/๒๒๘; สํ.นิ. ๑๖/๔๖๑/๒๒๘

๖๑ สํ.ข. ๑๗/๑๒๗-๙/๘๒–๘๕

๖๒ สํ.สฬ. ๑๘/๓๗๗/๒๖๑

๖๓ สํ.ม. ๑๙/๑๔๐๕/๔๑๘

๖๔ สํ.ข. ๑๗/๒๐๗/๑๓๙

๖๕ ม.อุ. ๑๔/๑๒๘/๑๐๕–๖

๖๖ สํ.ข. ๑๗/๓๑๐–๓๑๗/๒๐๓–๒๐๖

๖๗ สํ.ข. ๑๗/๒๙๖-๗/๑๙๖

๖๘ สํ.ม. ๑๙/๗๕๘–๗๖๒/๒๒๔–๒๒๕

๖๙ ขุ.เถร ๒๖/๓๖๙/๔๐๓ เทียบ ๒๖/๓๘๑/๓๖๓, ๓๘๓/๓๖๗

๗๐ - อนาถบิณฑิกะ เล่ม ๑ หน้า ๙๑ รังสี สุทนต์

๗๑ ที.ม. ๑๐/๑๓๕/๑๔๔ (CD ROM)

๗๒ สํ.ข. ๑๗/๒๙๖-๗/๑๙๖

๗๓ อฺ.อฏฐก. ๒๓/๑๑๒/๑๗๙ (CD ROM)

๗๔ ขุ.อป. ๓๓.๑/๑๖๐/๒๑๗; ขุ.เถร ๒๖/๔๖๔/๔๐๒ (CD ROM)

๗๕ ม.มู. ๑๒/๒๘๘/๒๘๐

 

บันทึกท้ายเล่ม

โปรดอย่าลืมว่า เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้เป็นประสบการณ์ตรงของคนตาบอดคนหนึ่งที่กำลังคลำช้างอยู่ จึงไม่ควรหลงเชื่อ. ท่านควรศึกษา ตรวจสอบ และพิสูจน์ผลของการปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวันด้วยตนเอง แล้วท่านจะมีความรู้และความสามารถทางธรรมเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และมั่นคง.

ท่านไม่ควรประมาทอีกต่อไป กล่าวคือ ท่านควรดับกิเลสโดยการศึกษาอริยสัจ ๔ และฝึกปฏิบัติธรรมตามมรรคมีองค์ ๘ อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และต่อเนื่องจนถึงที่สุด เพื่อเพิ่มพูนข้อมูลด้านสติปัญญาทางธรรมในความจำ แล้วใช้ข้อมูลดังกล่าว ทำการดับความคิดที่เป็นกิเลสและกองทุกข์ให้หมดไปอย่างต่อเนื่อง.

ขอถือโอกาสนี้ขอบพระคุณอาจารย์วิภา มีสวัสดิ์ สำนักพัฒนาคุณธรรม กระทรวงศึกษาธิการ และคุณนิภา จุละจาริตต์ ที่ได้กรุณาตรวจบทความทั้งหมด พร้อมทั้งสนับสนุนให้การเขียนและการจัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้ให้ดำเนินไปได้ด้วยดีมาโดยตลอด.

เมื่อท่านมีความรู้และความสามารถทางธรรมบ้างแล้ว โปรดช่วยกันเผยแพร่ความรู้เรื่องอริยสัจ ๔ ที่เป็นปัจจุบันธรรมตามกำลังความรู้และความสามารถของท่านด้วย.

ผู้เขียนคาดว่า คนในยุคปัจจุบันและอนาคตจะสามารถทำความเข้าใจและยอมรับอริยสัจ ๔ แบบปัจจุบันธรรมได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นเรื่องจริงที่คนทั่วไปเข้าใจได้ นำไปปฏิบัติได้โดยง่ายในชีวิตประจำวัน เป็นผลให้สามารถละความชั่ว มุ่งทำความดีด้วยกาย วาจา ใจ พ้นจากความทุกข์ และจิตใจมีความบริสุทธิ์ผ่องใสหรือมีจิตใจที่ประเสริฐ ในทันทีที่ลงมือปฏิบัติธรรม.

หากเนื้อหาหรือคำบรรยายของผู้เขียนเป็นประโยชน์ต่อการเผยแพร่ธรรม ก็ขอได้โปรดนำไปใช้ได้เลย เพราะไม่สงวนลิขสิทธิ์ทุกรูปแบบ ไม่ต้องอ้างอิง และไม่ต้องเสียเวลาแจ้งให้ผู้เขียนทราบแต่ประการใด.

ผู้เขียนจะพยายามเผยแพร่อริยสัจ ๔ แบบปัจจุบันธรรมไปจนถึงที่สุด. หากท่านประสงค์จะสนับสนุนให้ผู้เขียนเผยแพร่ธรรมในรูปแบบต่าง ๆ ขอได้โปรดพิจารณาโอนเงินเข้าบัญชีกองทุนเอกชัย จุละจาริตต์ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เลขที่ ๑๓๐ - ๒ - ๐๗๔๑๒ – ๕ ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด(มหาชน) สาขาราชวัตร กทม. ๑๐๓๐๐ และโปรดแจ้งให้ผู้เขียนทราบด้วย เพื่อผู้เขียนจะได้รีบตอบรับและรีบดำเนินการตามเจตนาของท่านต่อไป. กองทุนนี้จะปิดบัญชีทันทีที่ผู้เขียนไม่สามารถปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้. ถ้าจะส่งเงินทางธนาณัติ โปรดสั่งจ่ายที่ ปณ.ดุสิต กทม. ๑๐๓๐๐.

ที่อยู่ของผู้เขียน นายเอกชัย จุละจาริตต์ ๑๑๑ ซอยวัดอัมพวัน ถนนพระราม ๕ กทม. ๑๐๓๐๐.

หนังสือเล่มนี้ไม่มีฉบับย่อ เพราะได้พยายามใช้ข้อความที่กระชับที่สุดแล้ว.

ถ้าหากท่านมีข้อแนะนำใด ๆ ก็ตาม ขอได้โปรดเขียนจดหมายมาแนะนำให้ผู้เขียนทราบด้วย ก็จะเป็นพระคุณยิ่ง และถ้าท่านสงสัยเรื่องอริยสัจ ๔ ก็ขอได้โปรดเขียนจดหมายมาสอบถาม หรือไปฟังการบรรยาย หรือฟังเทปของผู้เขียนประกอบด้วยก็ได้.

ท่านที่ประสงค์จะซื้อหนังสือต่าง ๆ ของผู้เขียนในราคาทุน เพื่อช่วยกันเผยแพร่ โปรดติดต่อกับผู้เขียนโดยตรง หรือซื้อในวันที่ผู้เขียนบรรยาย หรือสั่งพิมพ์ที่โรงพิมพ์โดยไม่ต้องผ่านผู้เขียนก็ได้.

สำหรับเทปคำบรรยายเรื่อง อริยสัจ ๔ โดยผู้เขียนนั้น ขณะนี้มีวางจำหน่ายแล้ว ที่แผนกจำหน่ายหนังสือของสำนักงานมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย เยื้องวัดบวรนิเวศวิหาร บางลำภู กทม.

 

การบรรยายธรรมของผู้เขียน

ผู้เขียนได้รับความกรุณาจากบุคคลและหน่วยงานต่าง ๆ ให้ไปบรรยายธรรมอย่างง่าย ๆ สำหรับประชาชนในกทม.อยู่เสมอ.

การบรรยายของผู้เขียนเป็นการบรรยายกึ่งพูดคุยในเรื่องอริยสัจ ๔ เท่านั้น พร้อมทั้งฝึกปฏิบัติธรรมอย่างง่าย ๆ ในชีวิตประจำวันไปด้วย. ในการนี้ ผู้เขียนจะทำหน้าที่บรรยายนำ เพื่อปูพื้นฐานเสียก่อน แล้วจึงยกประเด็นสำคัญมาให้ท่านผู้ฟังช่วยกันคิดและพิจารณาอย่างเป็นขั้นตอน พร้อมทั้งฝึกตรวจสอบและพิสูจน์ผลของการปฏิบัติธรรม เพื่อให้เกิดปัญญาทางธรรมด้วยตนเอง ซึ่งจะทำให้ท่านเข้าใจและจดจำได้โดยง่าย.

ถ้าท่านจะเข้าฟังการบรรยาย ก็ควรเข้าฟังเรียงตามระดับ ไม่ควรข้ามระดับ เพราะจะทำให้ท่านสับสนในคำบรรยายได้ง่าย และอาจทำให้การบรรยายล่าช้าได้อีกด้วย.

การบรรยายมีทั้งหมด ๔ ระดับ ๆ ละ ๓ ช.ม. ดังนี้ :-

ระดับที่ ๑. อริยสัจ ๔ อย่างง่ายและย่อ ๆ

ระดับที่ ๒. ปฏิจจสมุปบาท(ทุกข์ สมุทัย นิโรธ)

ระดับที่ ๓. มรรค - ตอนสติปัฏฐาน ๔

ระดับที่ ๔. มรรค - ตอนการบรรลุธรรมเป็นอริยบุคคล

ท่านที่สนใจกรุณาสอบถามจากผู้เขียนโดยตรง โดยโทรศัพท์มาที่หมายเลข ๐๒ - ๒๔๑ - ๐๘๓๗ เวลา ๑๘.๐๐ – ๒๐.๐๐ น. ทุกวันเสาร์ ของปี พ.ศ. ๒๕๔๕ - ๔๖ หรือดูรายการใน http://www. geocities.com/satipanya/index.html เข้ามาดูรายการบรรยายธรรมสำหรับประชาชน.

 

ประวัติผู้เขียน

 

นายเอกชัย จุละจาริตต์

เกิด พ.ศ. ๒๔๘๑

จบชั้นเตรียมอุดมที่โรงเรียนเซ็นต์คาเบรียล กทม.

จบอุดมศึกษาที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์

เคยรับราชการในสังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรระยาวด้านศัลยกรรม

เคยทำงานด้านศัลยกรรม เวชกรรมฟื้นฟู และบริหาร

สนใจศึกษาและฝึกปฏิบัติธรรมมา ๒๐ กว่าปี

ปัจจุบันเป็นข้าราชการบำนาญ ทำหน้าที่ศึกษา ฝึกปฏิบัติ และเผยแพร่ธรรมจากประสบการณ์อย่างง่าย ๆ.

 

ปกหลัง

เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ เป็นแก่นธรรมของพระพุทธศาสนา(อริยสัจ ๔)ที่ง่าย เปิดเผย ไม่มีเงื่อนงำใดๆ ในมุมมองของปัจจุบันธรรม ที่ทุกท่านสามารถศึกษา ตรวจสอบ และพิสูจน์อย่างแจ้งชัดได้ด้วยตนเองอย่างเป็นขั้นตอน โดยไม่ต้องเชื่อผู้อื่น.

การศึกษาและฝึกปฏิบัติธรรมตามคำแนะนำในหนังสือเล่มนี้ จะเสริมความสามารถของท่านในการกำกับและควบคุมความคิดรวมทั้งการกระทำต่าง ๆ ทางกาย วาจา ใจ ให้ละชั่ว ทำดี มีจิตใจที่บริสุทธิ์ผ่องใส เข้าถึงความดับทุกข์ได้ในปัจจุบันชาติ ไม่ว่าท่านจะเป็นคนชาติใด หรือนับถือศาสนาใดก็ตาม.

 

ต้องการทราบรายการบรรยายเรื่องแก่นธรรมสำหรับประชาชน และ free download เรื่องต่าง ๆ ของ ผู้เขียนได้ทาง internet :- http://www.geocities.com/satipanya/index.html

ต้องการฟังเทปเรื่องแก่นธรรม กรุณาไปจัดหาได้ที่ห้องจำหน่ายหนังสือธรรมของสำนักงานมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย เยื้องวัดบวรนิเวศวิหาร บางลำภู กทม.

หนังสือเรื่องนี้จัดจำหน่ายโดยบริษัทเคล็ดไทย โทร. ๐๒ ๒๒๕ ๙๕๓๖-๔๐ มีจำหน่ายในร้านขายหนังสือทั่วไป ราคาเล่มละ ๘๕ บาท. ถ้าท่านไปซื้อโดยตรงในวันบรรยายของผู้เขียน ราคาจะประมาณเล่มละ ๔๐ บาท หรือสั่งพิมพ์โดยตรงที่ หอรัตนชัยการพิมพ์ โทร. ๐๒ ๒๑๕-๙๖๘๑-๔.

 

 

1