ในท้องแม่
Home

ประสบการณ์ในท้องแม่

มีสักกี่คนที่สามารถจำได้ว่า ก่อนการเกิดเป็นทุกข์อย่างไร มันลำบากแค่ไหนที่ขดอยู่ในท้องเก้าเดือน ถ้าเราหลับตาเข้าสมาธิ แล้วค่อยๆ ลำดับความจำทีละเล็กละน้อย ย้อนกลับไปทีละวัน ทีละเดือน ทีละปี ในที่สุดมาถึง จุดเริ่มต้นของชีวิตนี้เห็นว่าในโลกวิญญานที่กว้างใหญ่สุดที่จะหาขอบเขตได้ เช่นเดียวกับ มหาสมุทรนั้น มีวิญญาณที่แหวกว่ายอยู่ในมหาสมุทรแห่งวัฏสงสารมากมายเหลือคนานับได้ ด้วยยังมีกิเลส ตัณหา อวิชา ทำให้วิญญาณต่างๆแหวกว่ายเพื่อจะได้กลับมาเกิดในโลกนี้อีก ในทันทีอสุจิชายผสมกับไข่ของผู้หญิง ก็เกิดอัศจรรย์แสงฟ้าแล็ป แสงแฟลส แวปเกิดขึ้น และทันทีทันใดนั้น วิญญานต่างๆ ก็แย่งกันกรูเข้าประตูโลก ก็มีวิญญาณพวกคุณ ๆ และผมเท่านั้น ที่ชนะเข้าไปอยู่ในไข่ที่ได้ถูกผสมแล้วแหม ! มันช่างไม่ง่ายเลย  แต่เอ๊ะ ! เกิดอะไรขึ้นกับตัวเรา แต่ก่อนเราเป็นแค่วิญญาน ตัวเราเป็นแค่แสง ไร้น้ำหนัก นึกจะไป ไหนก็ไปได้เพียงความคิดเบาๆ แต่นี่ เราเข้ามาอยู่ในคุกแห่งร่างกายอีกแล้วหรือ มันเป็นคุกมืดเก้าเดือนจริงๆ ที่หมดอิสระภาพ จะกินจะหายใจก็ต้องพึ่งพาจากคนอื่นผ่านเลือดตามสาย รกในท้องของแม่ วิญญานเรา ได้แต่เรียกร้อง ขอให้เราออกไปทีๆ ตาเราก็มองไม่เห็น หูเราก็ไม่ได้ยิน ถูกขังอยู่ในที่แคบๆ เราพยายามดิ้น เท่าไรก็ช่วยอะไรไม่ได้ จนเราเหนื่อย จนเราหลับ และเมื่อเราตื่นขึ้นมาเราก็หิว แต่ได้น้ำเลือดจากแม่เราก็แก้หิว ไปได้บ้าง เราได้ยินหัวใจของแม่เต้น ดัง “ ตึกๆ “ รวมทั้งเสียง เลือดในร่างกายสูบฉีด “ ดัง หวืด ๆ ” เรายังมีความจำในอดีตชาติ ผ่านมาบ้างๆ เป็นคราวๆ แต่ก็เลือนลางเต็มที ความคิดความขัดแย้งในใจเรา ว่า อยากออกจากท้องไปอยู่ในร่างกายมนุษย์นี้เร็วๆ จังเลย ส่วนอีกความคิดหนึ่งก็อยากกลับไปอยู่ในโลกวิญญานอีก เพราะช่างมีอิสระ เป็นเพียงแสง ล่อยลอยไปมาอย่างมีอิสระเสรี ร่างใหม่ของเราในรังไข่ของแม่เริ่มโตขึ้น จากร่างคล้ายปลามีหางเล็กๆ เปลื่ยนเป็นแขน ขา จมูกปาก แต่เมื่อเราโตขึ้น คุกนี้ก็เริ่มอึดอัดมากขึ้น เราดิ้นมากขึ้นที่จะออกจากคุกนี้ จนในที่สุดคำเรียกร้องที่ จะออกจากคุกนี้ก็บรรลุผล เราคลอดออกมาจากท้องแม่ ส่วนเพื่อนเราบางคน ที่คลอดก่อนกำหนด เพราะ เป็นพวกเด็กหัวแข็ง ดื้อจะออกจนออกก่อนกำหนดได้ พอออกจากท้องแม่ความจำในอดีตบอกเราว่าเรา เคยมาเกิดที่นี่แล้ว และจะต้องทนทุกข์ที่นีอีกนาน เราจึงได้แต่ร้อง อุแว้ ๆ ๆ ทันใดนั้น ปอดเราก็ขยายออก เราหายใจได้เองเป็นครั้งแรก โอ เราไม่ต้องพึงพาจมูก คนอื่นแล้ว เวลาผ่านไปหลังนอกท้องแม่ จิตใต้สำนึก หรือสัญชาตญานเรายังคงมีอยู่ เรายังกลัวความตายเพราะสัญชาตญาน บอกเราว่าเราเคยตายหลายครั้งแล้ว ประสพการณ์นั้นมันบอกว่าเราผ่านมาหลายครั้งแล้ว และเรากลัวความเจ็บปวด เราเริ่มพยายามเรียนรู้การใช้มือ และขาของเรา จากจิตสำนึกอตีตที่ยังถูกฝังในใจเรา สอนเราให้ยกมือขึ้นลองจับโน่นจับนี่ พยายามชันตัวเองขึ้นนั่ง ตั้งไข่ มันวิเศษดี เป็นบุญโขอยู่ที่เราได้มีโอกาสกลับมาแก้ตัว แก้ไขในสิ่งที่เรา ยังทำไม่ถูกในอตีตชาติ อวิชาทำให้เรา หลง หารู้ไม่ว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลกนี้ไม่ใช่ สิ่งรอบตัวเรา แต่เป็นใจของเราเองต่างหาก น่ากลัวกว่า ศัตรู สัตว์ร้าย เชื้อโรคต่างๆรอบตัวและระเบิดปรมณู อวิชชา ตัณหา อุปาทาน ทำให้เราหลง ว่ากายตนเป็นสิ่งสูงสุด เราพยายามปกป้องกายของเรา สร้างสิ่งอำนวยความ สะดวกต่างๆ   รวมทั้งยารักษาโรค เพื่อป้องกันเชื้อโรคต่างๆ จนลืมและมองข้ามว่า ทุกข์ทั้งหมดเกิดที่จิต และต้องดับที่จิตเช่นกัน จิตเป็นทุกอย่าง ชนะใจเราเอง ควบคุมจิตเราให้หยุดนิ่งแล้วเท่านั้น เราจึงหยุด การเกิดภพ การเกิดกรรมต่อเนื่อง และจึงหยุดทุกข์ อย่างแท้จริงถาวร จงมาทำสมาธิกันเถิด ให้ใจเราหยุดเป็นสมาธิ ให้สติเราตื่นขึ้นเห็นปัญญาหลุดพ้นจากความหลับ ความฝันในทุกข์และสุขของโลกนี้ แล้วเรา จะพบความจริง ว่าสุขอื่นเหนือความสงบไม่มี

 

Home

 

 

1