Home  Biography  Discography  Gallery  Lyrics  Article  Collection  Link  Shop  Board

  Article >> Trivia  

 

ถึงจะชอบเรียกชื่อตัวเองว่า Bob (สังเกตจากมิวสิควิดีโอ Millennium ป้ายทะเบียนรถเขียนว่า BOB2000 และใน Supreme ใช้ชื่อ Bob Williams) เพื่อนๆ และคนทั่วไปจะเรียกเขาว่า Rob หรือ Robbie มีแต่แม่และญาติสนิทเท่านั้นที่ยังคงเรียกชื่อจริงว่า Robert อยู่เสมอ

 

 

Robbie มีพี่สาว(คนละพ่อ)เพียงคนเดียวชื่อ Sally ซึ่งอายุห่างกันถึง 10 ปี เธอเป็นผู้ก่อตั้ง fanclub ของ Robbie แต่เลิกเป็นผู้ดูแลเมื่อตั้งครรภ์ ลูกชายของเธอชื่อว่า Freddie และมีชื่อกลางว่า Robert ตามชื่อของ Robbie

 

 

ถึงแม้ Robbie จะไม่ค่อยสนใจการเรียน แต่ก็ชอบไปโรงเรียนเพราะได้เจอเพื่อนๆ แม่ของเขาเคยเล่าว่า วันแรกที่ไปส่งที่โรงเรียน เธอกลัวว่าลูกชายจะร้องไห้โยเยเหมือนเด็กอื่นๆ ปรากฏว่า Robbie ทิ้งแม่วิ่งไปหาเด็กคนอื่นๆ ทันที จนเธออยากจะร้องไห้เสียเอง

 
 

Robbie เป็นเด็กซนมาก ทางโรงเรียนต้องเรียกผู้ปกครองไปพบเป็นประจำ ครั้งหนึ่งเคยถูกทำโทษให้นั่งเฉยๆทุกเวลาพักกลางวัน เพราะไปวิ่งเล่นบนทะเลสาบที่เป็นน้ำแข็ง

 
 

Robbie เป็นโรค Dyslexia หรือโรคบกพร่องทางการอ่าน ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเรียนอ่อนมาก สอบ GCSEs ก็ตกหมดทุกวิชา ทางโรงเรียนฟ้องว่า Robbie ไม่เคยทำการบ้านเลย แกล้งเพื่อนแกล้งครูเป็นประจำ แม่ของเขาก็แก้ตัวว่าลูกชายเธอไม่ได้โง่ เพียงแต่เป็นเด็กสมาธิสั้น และไม่ชอบถูกบังคับ ถ้าได้ทำสิ่งที่ชอบก็จะทำได้ดี ซึ่ง Robbie ก็ชดเชยด้วยการเข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียนทุกอย่าง ทั้งร้องเพลง เล่นดนตรี เล่นละคร และเป็นนักกีฬาของโรงเรียนด้วย (Dyslexia เป็นโรคผิดปกติทางสมองที่เป็นมาแต่กำเนิดโดยไม่ทราบสาเหตุ รักษาไม่หายแต่อาการทุเลาลงได้ถ้าได้รับการฝึกฝน โรคนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับสติปัญญา คนเก่งๆก็อาจเป็นโรคนี้ได้ คนที่เป็นโรคนี้อาจจะมีความคิดสร้างสรรค์แบบแปลกๆ หรือมีพรสวรรค์บางอย่าง เพราะสมองซีกขวาจะทำงานได้ดี อย่าง Robbie ที่แม้จะอ่านไม่คล่อง เห็นตัวหนังสือกลับข้างจนแยกไม่ออกว่าเป็นอะไร สะกดคำไม่ค่อยถูก แต่กลับแต่งเพลงได้อย่างรวดเร็ว)

 
 

วีรกรรมวัยเด็กที่แม่ของเขาไม่เคยลืมคือ วันที่ Port Vale ทีมฟุตบอลสุดโปรดชนะ Robbie ฉลองด้วยการโยนเงิน 2,000 ปอนด์ลงมาจากหน้าต่าง แล้วตามด้วยชุดชั้นในของแม่และพี่สาว

 
 

นอกจากจะชื่นชอบการสักแล้ว Robbie ยังเคยคิดจะเจาะคิ้วด้วย (แบบนาย J วง Five ไง) แต่ไม่สำเร็จ เพราะเกิดอาการแพ้ แผลอักเสบซะก่อน ถ้าสังเกตรูปถ่ายสมัยเพลง Angels จะเห็น Robbie คิ้วแหว่ง ตอนอยู่ Take That ก็เคยเจาะหู แต่เขาเลิกใส่ต่างหูมานานแล้ว

 
 

เวลาไปดูคอนเสิร์ตห้ามโยนของจำพวกตุ๊กตาสัตว์ขนนุ่มให้ Robbie เด็ดขาด เพราะเขาเคยเตะลงจากเวที พร้อมกับบอกว่าเขาโตเกินกว่าจะเล่นตุ๊กตาแล้ว (แต่ก็ยังเห็นชอบกอดตุ๊กตาอยู่บ่อยๆ นะ)

 
 

ลูกทูนหัว (God-daughter) ของ Robbie ชื่อ Ella เป็นลูกสาวของ Gabby Chelmicka อดีตประชาสัมพันธ์ส่วนตัว กับสามี Dave Bracey ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงานซาวน์ดเอนจิเนียร์ของ Robbie ในมิวสิควิดีโอเพลง Strong จะเห็น Robbie หยอกล้อกับเด็กทารกคนหนึ่ง นั่นแหละ Ella

 
 

Robbie เคยส่งกุหลาบขาว 100 ดอกไปให้ Andrea นักร้องนำวง The Corrs พร้อมกับข้อความ "What can I do to make you love me" (ชื่อเพลงของ The Corrs) เธอตอบกลับมาสั้นๆว่า "Entertain me" แล้วยังเคยเขียนเพลง "Sexed Up" ส่งไปให้นักร้องสาว Natalie Imbruglia แต่เธอส่งคืน บอกว่าคงจะร้องไม่ได้ "No, thank you Rob!"

 
 

Robbie เป็นคนสายตาสั้น แต่จะไม่ค่อยเห็นเขาใส่แว่นตานัก เลยหารูปมาให้ดูกัน
              

 
 

ถ้าอยากเห็นแขนเกลี้ยงๆ ของ Robbie คงต้องไปเปิดดูปกในของอัลบั้ม I've Been Expecting You เพราะตอนนั้นยังไม่มีรอยสักเพียบอย่างในปัจจุบัน รอยสักแรกเป็นรูป Celtic Cross ที่ต้นขาขวา สัญลักษณ์ Maori ที่ต้นแขนซ้าย แขนขวาเป็นรูปสิงห์โต มีข้อความข้างใต้ว่า "Born To Be Mild" ด้านบนเขียนว่า "Elvis Grant Me Serenity" ตรงท้องแขนเป็นรูปกางเขนล้อมด้วยดาวดวงเล็กๆ สักชื่อคุณตา "Jack" ที่ข้อมือขวาด้านใน  และนามสกุล "Farrell" ที่ข้อมือซ้าย ใต้ศอกเป็นตัวอักษรแบบโบราณเขียนว่า "I LOVE U" แขนอีกข้างเขียนว่า "MOTHER" ล่าสุดสักข้อความ "All you need is...love" ที่เอวด้านหลัง

 
 

ทางต้นสังกัดนำซิงเกิ้ล Freedom ออกวางจำหน่ายอย่างเร่งด่วน เพื่อตัดหน้าเพลงใหม่ของ Gary Barlow รีบมากเสียจนทำให้ในมิวสิควิดีโอ Robbie ต้องลิปซิงค์จากเพลงต้นฉบับของ George Michael แทนที่จะเป็นจากเสียงร้องของเขาเอง

 
 

หลังจากเข้าสถานบำบัดยาเสพติดได้ 2 สัปดาห์ Robbie ได้รับอนุญาตให้ออกมาได้ 1 วัน เพื่อถ่ายทำมิวสิควิดีโอ Lazy Days ตอนนั้นหน้าตาเลยดูงงๆ เบลอร์ๆ อยู่ เพราะไม่ได้เห็นโลกภายนอกมาพักนึง เสร็จแล้วก็กลับไปอยู่สถานบำบัดต่ออีก 3 สัปดาห์ ระหว่างนั้นไม่ได้รับอนุญาตให้ดูมิวสิควิดีโอเพลงนี้แบบเต็มๆอีกด้วย

 
 

เดิมทีเพลง South Of The Border ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นซิงเกิ้ล แต่ Robbie ตัดสินใจตัดเป็นซิงเกิ้ลแทนเพลง Let Me Entertain You อย่างกะทันหัน เพราะตอนนั้นเขาเพิ่งออกจากสถานบำบัด และยังไม่มั่นใจว่าผู้คนจะยอมรับเขา ทำให้ต้องคิดเรื่องราวของมิวสิควิดีโอใหม่ภายใน 10 นาที และถ่ายทำในแฟลตของ Robbie เอง

 
 

Robbie เคยถ่ายโฆษณาเครื่องดื่ม 7Up แต่เมื่อโฆษณาออกเผยแพร่ เขารู้สึกอับอายมากจนต้องหนีออกนอกประเทศไปพักหนึ่ง เขาเรียกงานครั้งนั้นว่าเป็น "most cheesy soul-selling blunder"

 
 

ในคอนเสิร์ตทุกครั้ง Robbie จะร้อง Let Me Entertain You เป็นเพลงแรก แต่เพลงที่ใช้เปิดตัวก่อนขึ้นเวทีนั้นดัดแปลงมาจากเพลง Carmina Burana ของ Carl Orff ซึ่งเป็นไอเดียของ Guy Chambers เมื่อก่อนใช้เพลงธีมจากภาพยนตร์เรื่อง Star Wars เป็นเพลงเปิดตัว ตอนนี้ใช้เป็นเพลงปิดท้ายแทน ... May the force be with you!

 
 

Robbie เคยร้องเพลงเป็นภาษาสเปนและฝรั่งเศสเพื่อเอาใจคนฟังในอเมริกาและยุโรปด้วยคือ El Angel Que Quiero Yo หรือ Angels ภาษาสเปน, Ser Mejor หรือ Better Man ภาษาสเปน และ Suprême หรือ Supreme ภาษาฝรั่งเศส

 
 

นอกจากฟุตบอลแล้ว กอล์ฟคงเป็นกีฬาโปรดอีกอย่างของ Robbie เพราะพ่อของเขาชอบเล่น พี่สาวเคยทำงานที่สนามกอล์ฟ แฟนของพี่สาวก็เป็นโปรกอล์ฟ ตัวเขาเองเริ่มเล่นกอล์ฟตั้งแต่อายุ 12 พออายุ 15 ก็เป็น Junior Captain ของ Burslem Golf Club ได้ข่าวว่าทางคลับต้องการตัว Robbie ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ชักชวนให้เยาวชนแถบนั้นหันมาสนใจเล่นกอล์ฟมากขึ้น

 
 

หนึ่งในฮีโร่ประจำใจของ Robbie คือยอดนักมวย Muhammad Ali ซึ่งภาพถ่ายพร้อมลายเซ็นของ Ali ถือเป็นหนึ่งในสมบัติล้ำค่าของเขา ก่อนเล่นคอนเสิร์ตจะต้องจูบรูปนี้เพื่อเรียกขวัญและกำลังใจด้วย

 
     

ที่บ้านของ Robbie มีตู้ปลาขนาดยักษ์ น้องๆ Aquarium เลยทีเดียว เพราะเคยคิดจะเลี้ยงปลาฉลามด้วย แต่ไม่ได้รับนุญาต เขาเคยซื้อแมวไทยให้อดีตคู่หมั้น เธออยากตั้งชื่อว่า Lady แต่เขาอยากเรียก Our Kid มากกว่า แมวตัวนั้นก็เลยได้ชื่อประหลาดว่า Lady Our Kid (พอเลิกกันเธอเป็นคนเอาไปเลี้ยง) นอกจากนี้เขายังเคยเลี้ยงสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์เพศเมียตัวหนึ่งชื่อ Missy ซึ่งเกือบจะตั้งชื่อว่า She's The One อยู่แล้ว เพราะพ่อของมันชื่อ Mr.Bojangles (เป็นชื่อเพลงเหมือนกัน) แต่เพราะเขาต้องออกทัวร์คอนเสิร์ตเสียจนไม่มีเวลาดูแล จึงต้องยกให้คนอื่นไปเลี้ยงแทน

 
 

Robbie แต่งเพลงอุทิศให้หลายคน ตัวอย่างเช่น One Of God's Better People แต่งให้แม่, Phoenix From The Flames แต่งให้พี่สาว, Nan's Song แต่งให้คุณย่า, Baby Girl Window แต่งให้เพื่อนสมัยเด็กคนหนึ่งที่ต้องสูญเสียพ่อไป ซึ่งต่อมาเธอก็คือนักแสดง Kate Beckinsale นั่นเอง, Hello Sir แต่งเพื่อประชดครูคนหนึ่งที่เคยตราหน้าไว้ว่าเขาไม่มีทางประสบความสำเร็จในชีวิต, Karma Killer แต่งให้ Nigel Martin-Smith อดีตผู้จัดการวง Take That คนที่เขาเกลียดมากที่สุดคนหนึ่ง, Ego A Go Go และ No Regrets แต่งให้ Gary Barlow (ถึงจะบอกว่าไม่ใช่ แต่พิจารณาจากเนื้อหาแล้วมันใช่เลยล่ะ)

 
 

อดีตคู่หมั้น Nicole Appleton เป็นอีกคนหนึ่งที่ Robbie แต่งเพลงให้เธอไว้หลายเพลง เช่น Win Some Lose Some (เสียงพูด "I love you, baby" เป็นเสียงของเธอจากเครื่องตอบรับโทรศัพท์), Heaven From Here, Not Of This Earth และ If It's Hurting You 

 
 

Robbie เป็นแฟนเพลงวง Pet Shop Boys มานาน เคยนำเพลง I Wouldn't Normally Do This Kind Of Thing มาร้องเป็นซิงเกิลหน้าบี แล้วยังเชิญ Neil Tennant นักร้องนำมาร้องคอรัสเพลง No Regrets ให้ร่วมกับ Neil Hannon จากวง The Divine Comedy หลังจากที่ได้ทำงานร่วมกันในอัลบั้ม Twentieth Century Blues ซึ่งอุทิศให้กับ Noël Coward นักแต่งเพลงละครเวทีระดับตำนาน โดย Robbie ร้องเพลง There Are Bad Times Just Around The Corner ไว้ในอัลบั้มชุดนั้น

 
 

Robbie เคยถูกเสนอให้เล่นบท Mark Renton ในภาพยนตร์เรื่อง Trainspotting ที่ Ewan McGregor แสดงเอาไว้

 
 

Top | Article | Home

 
1