เมื่อพายุมาเยือน
เรือนป้าหมู






ก่อนการมาเยือน ของแม่สาว"อิสซาเบล" นับว่ายังโชคดี ที่ทราบทิศทางที่หล่อนจะผ่านไป
ทำให้มีเวลาอพยบ และเตรียมการณ์ต่างๆ แต่กระนั้นก็ยัง ไม่พ้นรัฐมีของเจ้าหล่อน
จึงทำให้เกิดภาพ แห่งความสูญเสียตามมา ในรูปแบบต่างๆกัน






เริ่มแรกที่พายุร้าย (เฮอริเคน อิสซาเบล)ก่อตัวขึ้นฯ ทางกรมอุตุ(ข่าวอากาศ)
ยังไม่สามารถจับทิศทางได้ว่า เจ้าหล่อนจะอาละวาดฟาดหัว-หาง ไปทางใดบ้าง
จนกระทั้งช่วงค่ำของวันหนึ่ง จึงได้ยืนยันว่า "อิสซาเบล"พายุสาวรายนี้ จะมุ่งหน้าไป
ทางแคนาด้า โดยขึ้นฝั่งทางรัฐแคโรไลน่าฝั่งหนือ รัฐที่ป้าไก่อยู่
ก็หวังว่าจะไม่แวะเยือนเรือนป้าไก่นะเจ้าคะฯ





ดูจากแผนที่ ทราบว่ารัฐแคโรไลน่า คือก้าวแรกที่หล่อนใช้เป็นทางผ่าน ซึ่งแน่นอนว่า
จะต้องได้รับความเสียหาย เป็นบริเวณกว้าง
หลังจากพายุร้ายพัดผ่านไป เหลือไว้แต่สายฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง กับร่องรอย
ความเสียหาย บ้านเรือนถูกพายุพัดไปบ้าง น้ำท่วมบ้าง ไม่นับที่ขาดไฟฟ้าใช้
ซึ่งมากมายหลายสิบหมื่นหลัง นับเป็นความสูญเสีย ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ในอีกรูปแบบหนึ่ง





อีกจุดหนึ่งในรัฐแคโรไลน่า(เหนือ) ซึ่งเปรียบเสมือนด่านแรกที่เจ้าหล่อน
เริ่มสำแดงอิทธิฤทธิ์ หล่อนอาละวาดจนน้ำท่าท่วมถนน แม้แต่กุ้ง(น้ำจืด)ยังงง
หลงออกไปส่ายฮาวายอยู่บน เส้นทางรถยนต์




ในแต่ละเมือง-ละรัฐ ที่เป็นทางผ่าน ต่างได้รับของที่ระลึกจากหล่อน ในรูปแบบ
ที่ต่างกันไป เช่นที่รัฐแคโรไลน่า(เหนือ) มีน้ำท่วมบ้านเรือนเสียหาย-ไฟฟ้าดับ
ไม่เว้นแม้แต่ในส่วนที่จัดให้เป็น"ศูนย์"หลบภัยชั่วคราว มีผู้เสียชีวิตขณะขับรถ
อยู่บนถนนด้วย





ที่เวอร์จีเนียมีฝนตกหนัก ต้นไม้หักลงทับบ้าน-เสาไฟฟ้าหักโค่นขวางถนน
หลายแห่ง ทำให้ไฟดับในหลายๆพื้นที่ น้ำท่วมบ้านเรือน ร้านค้า-ส่วนราชการ
รวมทั้งโรงเรียนต้องปิดเต็มวัน





ภาพคล้ายๆกันนี้ มีให้เห็นเป็นระยะๆ แต่ก็ยังสามารถ เรียกร้องค่าเสียหายได้
บางที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากสายไฟขาด ซึ่งมีมากมายในขณะนี้ ต้องระดมช่าง
จากต่างรัฐมาช่วย ทำงานกันตลอด ๒๔ ชั่วโมง มีช่างเสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ด้วย





ผละจากเวอร์จิเนีย ก็เข้าสู่รัฐแมรี่แลนด์ ที่รัฐแมรี่แลนด์ มีตัวเมืองบัลตี้มอร์
ที่เป็นเมืองใหญ่ ของรัฐได้รับความเสียหายไม่น้อย(หน้า)รัฐอื่นๆ เพราะอยู่ใกล้น้ำ
มีพิพิธภันฑ์สัตว์น้ำมี"เรือรบโบราณ"ที่เปิดให้คนเยี่ยมชม ซึ่งทางเดินถูกน้ำท่วมสูง
กำลังสงสัยว่า หล่อนอาจจะแวะร้านขายหนังสือ เจ้าประจำของ(ลุงซุป)ด้วยฯ





ในส่วนของเมืองแอนนาโปลิส คือเมืองที่ป้าหมูพักอาศัย น้ำท่วมอย่างที่เห็น
ต้นไม้ตกทับบ้าน-ทับรถ และทำให้เกิดไฟไหม้รถด้วย
(ในเขตที่ไฟดับ) คงไม่อิจฉาแน่ๆ ถึงวันนี้ซึ่งพายุร้าย ก็ผ่านไปหลายวันแล้ว
แต่ยังคงมีอีกหลายเมือง ที่ยังขาดไฟฟ้า-ขาดน้ำ รวมทั้งการส่งข่าวสาร
ผ่าน(สายทองแดง) ซึ่งก็รวมทั้งที่บ้านป้าหมูด้วยฯ





และก่อนจะผ่านไปยัง เพนซูเวเนียและแคนาด้า เจ้าหล่อนไม่ลืมที่จะแวะมา
เซย์ฮัลโหลป้าหมู และหล่อนใช้เวลาอย่างรวดเร็วมาก ในการเยี่ยมเยือนครั้งแรก
ไม่ทันที่ป้าหมู จะได้ออกมาชมโฉม หล่อนก็จากไปเสียแล้ว จากไปโดยไม่ลืมที่จะ
มอบของที่ระลึก ไว้ให้ดูต่างหน้าเช่นกัน
ในภาพคือผู้ร่วมชะตากรรม





ขณะที่ต้นไม้หักลงถึงพื้น ก็บังเกิดเสียงดังโครมใหญ่ ป้าหมูกับ(ลุงซุป)กำลังดูทีวีอยู่
ลุงลุกไปดูที่หน้าต่างห้องนอน แล้วร้องว่า "โอโนๆ" ป้าจึงตามไปดูบ้าง ภาพที่เห็นคือ
บางส่วนของลำต้น ซึ่งสูงจากพื้นราว 10 ฟุต ได้หักลงเต็มพื้นที่ สนามด้านหลังบ้าน
โดยมีบางส่วนของกิ่ง ค้างอยู่บนต้นไม้ของเพื่อนบ้าน และโดยไม่กระทบตัวเรือนเลย
เพื่อนบ้านต่างก็พูดว่า แทบไม่น่าเชื่อที่ต้นไม้ลงมา โดยไม่ทำลายบ้านเรือนข้างเคียง
แหะ แหะ ..ยกเว้นมุมดอกไม้ของป้าหมู หลายมุมแหลกราญไปในพริบตาฯ
(ภาพถ่ายจากหน้าต่างห้องนอน หลังจากที่หายตกใจ)





ป้าหมูซึ่งปกติ จะใช้เวลาว่างอยู่กับสวนหลังบ้าน สลับกับการ (เข้าห้องจ้องหน้าจอ)
ต้องมาหยุดชงักการ"ต่อกลอน-เขียนกลอน" และการ"แชท"กันวันละหลายชั่วโมง
รวมทั้งการเดินชื่นชมธรรมชาติ บริเวนหลังบ้าน เนื่องจากได้รับของที่ระลึก(ชิ้นใหญ่)
เต็มเนื้อที่ว่างกลางสนาม ก็ออกจะเซ็งๆเอาการ




เจ้าหล่อนจากไปแล้ว แต่หลังบ้านป้าหมูที่เคยมีมุมดอกไม้ต่างๆ บัดนี้มองไปทางไหน
จะเห็นแต่กิ่งก้าน ของต้นเมเปิ้ล ที่โค่นล้มลงมาปกคลุม มุมไม้ดอกซึ่งมีดอกไม้ไทยๆ
หลายชนิดด้วยกัน





มุมดอกไม้ที่เพิ่งจัดทำเมื่อต้นปีก่อน หมดสภาพไปอีกแล้ว ยังไม่แน่ใจว่า
จะเจ้าต้นดอกสีชมพู จะกลับฟื้นคืนมาอีกหรือไม่ มุมนี้แหลกไป
เพราะโดนส่วนปลายๆ ของบางกิ่งฟาดเอา





นี่คือชิ้นส่วนหนึ่งจากต้นเดียวกันนี้ ซึ่งครั้งนั้นเป็น "พายุหิมะ" หรือพายุน้ำแข็ง
นี้ผ่านมาเยือนป้าหมูในปีแรกของการย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน ที่เพิ่งซื้อได้เพียงหกเดือน
พายุน้ำแข็ง เกาะตามกิ่งไม้อยู่หลายวัน เรียกว่ารับน้ำหนักเกินตัว (ประมาณนั้น)
จึงทานไม่ไหวหักโครม ลงมานอนแอ้งแม้งอย่างที่เห็น
ครั้งนั้นก็ไฟดับไปสองวัน





บริเวณ มุมดอกไม้น่ารักๆ (ซึ่งมีอยู่ทั่วๆไป) จุดที่เสียหาย ก็คือมุมกุหลาบเลื้อย
เหล็กที่เป็นโครงให้กุหลาบเลื้อย หักบี้แบนไปทั้งสามจุด ดอกไม้อื่นๆ ที่กำลังเป็นดอก-เป็นเมล็ด
รวมทั้งต้นลั่นทม ที่อยู่ในบริเวณก็หักเป็นหลายท่อน





หลังจากต้นไม้หักลงมา อีกเรื่องหนึ่งที่นับเป็นความเสียหาย(เล็กๆ)เมื่อเปรียบกับอีก
หลายๆบ้าน ที่เสียหายครบรูปแบบคือ "น้ำท่วม-บ้านพัง-ไฟฟ้าดับ-ถนนขาดฯ
บ้านป้าหมู น้ำ-ไฟมีครบ เพียงแต่สายโทรศัพท์ขาด ซึ่งไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ถึงแม้ว่า
ต้องหยุดพักการออนไลน์ หยุดการโทรฯคุยกับเพื่อน กับพี่-น้องชั่วระยะหนึ่งฯ





ไม่ถามหรอกนะ....ว่ามีใครห่วงบ้างไหม ที่หายไปทั้งหัว(ทั้งตัว) ในช่วงที่พายุอาละวาด
ใครจะห่วงหรือไม่ห่วง ก็ไม่ได้นึกเสียใจ-น้อยใจแต่อย่างใด เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น.
เป็นไปตาม(ลิขิตชีวิต)อีกบทหนึ่ง ที่ไม่เกี่ยวกับเพื่อนร่วมจอ...
เพียงแต่พี่น้อง ที่ปกติจะโทรถึงกันเป็นประจำ ซึ่งต่างก็เป็นห่วง และได้โทรเช็คข่าวกันวุ่นวาย
ทันทีที่ต่อ สายโทรศัพท์เรียบร้อย ก็ได้โทรฯถึงน้อง-ทั้งที่มาเก๊าและเมืองไทย





จากนั้นก็โทรฯหา เพื่อนที่แสนดีที่เคยมาเยี่ยมเยือน เช่นป้าไก่-แห่งรัฐแคโรไลน่า(เหนือ)
เท่าที่ทราบว่า มีหลายพื้นที่เสียหาย แต่ป้าไก่ของเรา(หนังเหนียว)
สรุปว่าปลอดภัยดี
ต่อจากป้าไก่จะต้องโทรฯ หาเพื่อนอีกสองคน ที่รัฐเวอร์จิเนีย
ส่วนทางนกหวีดอดีด"เทคานิค"ประจำเล้าหมู ทราบว่าปลอดภัยดีเช่นกัน (หมดห่วงไป)
รวมทั้งลูกสาวที่อยู่รัฐเพนซูเวเนีย ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านช่วงสุดท้ายของ"อิสซาเบล"





บริเวณหลังบ้านซึ่ง ป้าหมูบ่นอยู่เสมอๆว่า(ดอไม่แผด)แดดไม่พอ
เพราะมีต้นไม้ใหญ่ แผ่กิ่งก้านสาขา
ครอบคลุมไปเกือบจะทั่วบริเวณ คราวนี้คงจะได้แดดเพิ่มขึ้นบ้างละ....ฮี่ ฮี่
ดีใจเล็กๆซะซ้ำไป กำลังวางแผนซื้อต้นไม้ มาทดแทน....อีกต่างหาก



1