การติดตั้งฟล๊อปปี้ดิสก์ไดรฟ์
ถึงแม้ว่าปัจจุบันคอมพิวเตอร์จะถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุดก็ตาม คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องก็ยังต้องการไดรฟ์ฟล๊อปปี้สำหรับอ่านดิสก์เก็ตต์ ปกติคอมพิวเตอร์มักจะมีไดรฟ์ฟล๊อปปี้หนึ่งตัวติดตั้งอยู่แล้ว ในที่นี้จะกล่าวถึงการติดตั้งไดรฟ์เพิ่มและการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับไดรฟ์
ชนิดของไดรฟ์
การติดตั้งไดรฟ์
การกำหนดใหัคอมพิวเตอร์ทราบชนิดของไดรฟ์ที่ติดตั้งใหม่
การตรวจสอบว่าระบบปฏิบัติการสามารถใช้งานไดรฟ์ได้
การแก้ปัญหาเกี่ยวกับไดรฟ์
ชนิดของไดรฟ์
ตารางแสดงชนิดของฟล๊อปปีดิสก์
ขนาดของฟล๊อปปี้ดิสก์
|
ความจุของฟล๊อปปี้ดิสก์
|
5.25 นิ้ว
|
360 KB
|
5.25 นิ้ว
|
1.2 M
|
3.5 นิ้ว
|
720 K
|
3.5 นิ้ว
|
1.44 M
|
3.5 นิ้ว
|
2.88 M
|
ภาพแสดงฟล๊อปปี้ดิสก์ไดรฟ์ขนาด 3.5 และ 5.25 นิ้ว
การติดตั้งฟล๊อปปี้ดิสก์ไดรว์
-
หากตัวไดรฟ์บรรจุอยู่ในกล่อง ให้ตรวจสอบว่ามีน๊อตสำหรับติดตั้งและมีสายแพหรือไม่ (แต่ถ้าหากคอมพิวเตอร์มีไดรฟ์ติดตั้งอยู่แล้วก็สามารถใช้สายแพที่มีอยู่แล้วได้)
-
ปิดสวิตช์คอมพิวเตอร์และถอดปลั๊กคอมพิวเตอร์ออกจากแหล่งจ่ายไฟ
-
ตรวจสอบตำแหน่งที่มีไว้สำหรับติดตั้งไดรฟ์ ซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าของเคส คอมพิวเตอร์บางรุ่นต้องติดตั้งไดรฟ์แนวตั้ง บางรุ่นต้องติดตั้งแนวนอน
-
เปิดฝาครอบเคสออก
-
ติดตั้งไดรฟ์ตัวใหม่ในช่องว่างสำหรับไดรฟ์ (ขั้นตอนนี้หากคอมพิวเตอร์
มีไดรฟ์ฟล๊อปปี้อยู่แล้วอาจดูการติดตั้งไดรฟ์ตัวเก่าเป็นตัวอย่างในการติดตั้งก็ได้)
-
เสียบสายแพและสายไฟเข้ากับไดรฟ์ที่ติดตั้งใหม่
สายแพ
ให้ตรวจดูก่อนติดตั้งว่าได้เสียบสายด้านที่ถูกเข้ากับไดรฟ์ โดยดูจากตำแหน่งเข็มที่ 1ซึ่งอยู่ด้านในของไดรฟ์ ต้องเสียบเข้าสายแพด้านที่มีแถบเครื่องหมายว่าเป็นด้านเข็มที่
1
|
สายไฟสำหรับไดรฟ์
โดยตรวจดูว่าภายในเคส จากแหล่งจ่ายไฟ
มีสายไฟเหลือพอสำหรับไดรฟ์หรือไม่และมีขนาดเท่ากับที่ใช้ได้กับไดรฟ์หรือไม่
หากไม่มีหรือมีแต่ใช้ไม่ได้อาจต้องดัดแปลงเพิ่มเติมโดยซื้อตัวแปลงหรือหัวต่อที่ใช้งานได้เพิ่มเติม
|
1.ในขั้นตอนนี้ถึงแม้ว่าจะติดตั้งไดรฟ์เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ตาม แต่ไม่ควรรีบร้อนปิดฝาครอบเคส ควรรอจนกระทั่งตรวจสอบว่าไดรฟ์ที่ติดตั้งใหม่ใช้งานได้ตามปกติ
2.ภายในเคสบางตัวอาจมีที่ว่างซึ่งเป็นกล่องเปิดโลหะขนาด 3.5 นิ้ว ว่างอยู่
ซึ่งเหมาะสำหรับไดรฟ์ฟล๊อปปี้ขนาด 3.5 นิ้วพอดีแต่ไม่สามารถติดตั้งได้เนื่องจากกล่องตัวถังโลหะดังกล่าวจัดเตรียมไว้สำหรับฮาร์ดดิสก์ซึ่งไม่มีช่องเปิดด้านหน้า
การกำหนดใหัคอมพิวเตอร์ทราบชนิดของไดรฟ์ที่ติดตั้งใหม่
เมื่อเปิดสวิตช์คอมพิวเตอร์เพื่อบูตตามปกติหลังจากได้ยินสัญญาณบี๊บแล้วจะปรากฎข้อความ
แสดงข้อผิดพลาดช่วง POST(Power On Self Test) เนื่องจากหลังจากติดตั้งไดรฟ์แล้วยังไม่ได้กำหนดใน BIOS
การกำหนดขนาดของไดรฟ์ฟล๊อปปี้อยู่ในส่วนของการSetup CMOS (การกำหนดเปลี่ยน
แปลงค่าใน BIOS สำหรับ Awards ทำได้โดยกดแป้น Delete ขณะที่ปรากฎข้อความ
Press <DEL> to SETUP หลังจากนั้นจึง Setup ส่วนของไดรฟ์ฟล๊อปปี้โดยกำหนดขนาดตามที่ติดตั้งแล้วบันทึกการเปลี่ยนแปลง
ดังกล่าวลงใน BIOS )
การตรวจสอบว่า OS สามารถใช้งานไดรฟ์ได้
การทดสอบใช้งานไดรฟ์ต้องทดสอบตลอดทั้งแผ่นดิสก์เก็ตทั้งนี้เพื่อตรวจสอบว่า
หัวอ่านสามารถอ่านแผ่นดิสก์เก็ตได้ทั่วแผ่น การดูเฉพาะรายชื่อของไฟล์ในดิสก์เก็ตโดยใช้คำสั่ง
DIR หรือใช้ File Manager หรือ Windows Explorer ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าไดรฟ์นั้นใช้งานได้ปกติ เนื่องจากรายชื่อของแฟ้มข้อมูลภายในแผ่นดิสก์ถูกเก็บไว้ในพื้นที่ส่วนเล็กๆ บนดิสก์เก็ต
ควรทดสอบการใช้งานดิสก์เก็ตโดยการฟอร์แมตดิสก์เก็ต หรือตรวจสอบดิสก์เก็ตโดยใช้คำสั่ง
Scandisk
หากใช้ทั้งสองคำสั่งได้อย่างครบถ้วน แสดงว่าไดรฟ์ถูกติดตั้งอย่างถูกต้องและใช้งานได้ อย่างไรก็ตามหากการทดสอบดังกล่าวแล้วพบว่าเกิดปัญหาให้อ่านเพิ่มเติมในหัวข้อการแก้ปัญหา
ฟล็อปปี้ดิสก์ ในหัวข้อต่อไป
การตรวจสอบสำหรับดอส (DOS)
ขั้นตอนการทดสอบ
-
ใส่ดิสก์เก็ตที่ยังไม่ได้ฟอร์แมตลงไปในไดรฟ์
-
ใช้คำสั่ง Format เพื่อฟอร์แมตดิสก์เก็ตในไดรฟ์ เช่น Format
B: ในขั้นตอนนี้หากไม่สามารถฟอร์แมตได้ โดยเกิดข้อความแสดงความผิดพลาดเช่น
Invalid Specified Drive ให้ตรวจสอบบรรทัดคำสั่งอีกครั้งหนึ่ง หากยังปรากฏข้อความเดิมอีกแสดงว่ามีปัญหาในการติดตั้งให้ตรวจสอบหัวข้อ การแก้ปัญหาเกี่ยวกับการติดตั้งไดรฟ์
-
ใช้คำสั่ง COPY เพื่อคัดลอกข้อมูลไปสู่แผ่นดิสก์เก็ตในไดรฟ์ เช่น
COPY A:\*.* B:\
4. ตรวจสอบแผ่นดิสก์ในไดรฟ์ โดยใช้คำสั่ง CHKDSK หรือ SCANDISK ในไดรฟ์ กรณีข้างต้นหากบูตคอมพิวเตอร์จากไดรฟ์ A ต้องตรวจสอบว่ามีไฟล์ FORMAT.COM, CHKDSK.EXE SCANDISK.EXE อยู่ในดิสก์เก็ต
ในไดรฟ์ A ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถใช้คำสั่งดังกล่าวได้ จะมีข้อความแสดงความผิดพลาดแจ้งว่า Bad command
or file name. หากบูตจากฮาร์ดดิสก์ต้องตรวจสอบว่าติดตั้ง DOS
การตรวจสอบสำหรับ Windows
3.1x
ขั้นตอนการทดสอบ
- หากยังไม่ได้เข้าสู่ Windows ให้เข้าสู่ Windows โดยใช้คำสั่ง WIN ที่ดอสพร้อม
- เลือกกลุ่ม Main โดย Duble Click ที่กลุ่ม Main
- เปิด File Manger โดย Duble Click ไอคอน File Manager ในกลุ่ม Main
- ใส่เแผ่นดิสก์เก็ตที่ยังไม่ได้ฟอร์แมตเข้าไปในไดรฟ์ที่ติดตั้งใหม่
-
ตรวจสอบว่าวินโดวส์สามารถจำไดรฟ์ที่ติดตั้งใหม่หรือไม่ โดยสังเกตจากทูลบาร์ หากจำได้จะปรากฎไอคอนสำหรับฟล๊อปปี้ดิสก์ไดรฟ์ตัวใหม่ หากจำไม่ได้ แสดงว่าการติดตั้งไม่เรียบร้อย ให้ดูหัวข้อ การแก้ปัญหาเกี่ยวกับการติดตั้งฟล๊อปปี้ดิสก์ไดรฟ์
- ใช้คำสั่งฟอร์แมต โดยเลือกเมนู DISK และเลือกเมนูย่อย Format Diskette ที่เมนูบาร์ หลังจากนั้นเลือก Format Diskkette เพื่อฟอร์แมตดิสก์เก็ตที่ใส่ลงไปในไดรฟ์ใหม่
- คัดลอกไฟล์ข้อมูลระหว่างฮาร์ดดิสก์ไปยังดิสก์เก็ตในไดรฟ์ที่ติดตั้งใหม่ โดยกำหนดให้ขนาดของไฟล์ที่จะคัดลอกมีขนาดมากกว่า
700 กิโลไบต์
- ออกจาก Windows เข้าสู่ DOS Prompt ตรวจสอบแผ่นดิสก์ในไดรฟ์ใหม่โดยใช้คำสั่ง CHKDSK หรือ SCANDISK
การตรวจสอบสำหรับ Windows
95
-
เปิด Control Panel (คลิ๊ก เริ่ม Start | Setting | Control Panel)
- เลือกไอคอน System
-
เลือก Device Manager
-
คลิ๊กหน้าเครื่องหมายบวกที่ไอคอน Disk Drives จะปรากฎรายการไดรฟ์ที่มีในคอมพิวเตอร์ทั้งหมด
- Dubble Click ไดรฟ์ที่ต้องการตรวจสอบ จะปรากฎหน้าจอของ Properties ของไดรฟ์นั้นๆ
ส่วนของ Tab General จะบอกว่าไดรฟ์นั้นทำงานได้ปกติหรือไม่
หมายเหตุ หากเครื่องหมายกากบาทสีแดง ปรากฏทับไอคอนของไดรฟ์ใดๆก็ตามแสดงว่าไดรฟ์นั้นมีปัญหาในการใช้งาน ให้ตรวจสอบวิธีการแก้ปัญหาในหัวข้อ การแก้ปัญหาการติดตั้ง
การแก้ปัญหาเกี่ยวกับการติดตั้งฟล๊อปปี้ดิสก์ไดรฟ์
ขั้นตอนการแก้ปัญหา
การทดสอบสายไฟง่ายๆ
การทดสอบสายแพง่ายๆ
หลังจากติดตั้งไดรฟ์ฟล๊อปปี้ใหม่ ก่อนที่จะปิดฝาคอมพิวเตอร์ ควรตรวจสอบว่าใช้งานไดรฟ์ได้ เนื่องจากบางครั้งพบว่าขณะที่เปิดฝาครอบใช้งานไดรฟ์ได้ แต่ถ้าหากปิดฝาครอบแล้วใช้งานไม่ได้
สาเหตุของปัญหาและสิ่งที่ควรทดสอบ ได้แก่ แผ่นดิสก์เก็ตที่นำมาทดสอบ สายเคเบิลของไดรฟ์ ฟล็อปปี้ดิสก์ไดรฟ์ที่นำมาติดตั้งใหม่ สายเคเบิลสำหรับฟล๊อปปี้ไดรฟ์ และ Disk Drive Controller
สำหรับขั้นตอนการแก้ปัญหาเกี่ยวกับฟล็อปปี้ไดรฟ์นั้น ควรทดสอบจากการทดสอบง่ายๆ ไปสู่การทดสอบยากๆ เพื่อหาสาเหตุของปัญหาว่าเกิดจากอะไร โดยใช้วิธีการตรวจสอบดังกล่าว จะทำให้เสียเวลาตรวจสอบไม่มากและสามารถตรวจพบสาเหตุของปัญหาได้อย่างรวดเร็ว แนะนำว่าควรตรวจสอบตามขั้นตอนต่อไปนี้
ตรวจสอบแผ่นดิสก์เก็ตที่นำมาทดสอบ
ควรนำแผ่นดิสก์เก็ตที่นำมาทดสอบนั้นไปลองใช้กับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นหรือเครื่อง
เดียวกันแต่ในไดรฟ์อื่น ทั้งนี้เพื่อตรวจสอบว่าแผ่นดิสก์เก็ตนั้นใช้งานได้
ตรวจสอบสายแพสำหรับข้อมูล
ควรตรวจสอบสายแพที่นำมาใช้งานนั้นอยู่ในสภาพใช้งานได้ สังเกตจากสภาพภายนอกว่าไม่มีร่องรอยการขาดของสายสัญญาณหรือร่องรอยการหลุดของหัวต่อ (Connetor) หลังจากนั้นให้ทดสอบใช้งานโดยนำไปลองใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ หรือกับไดรฟ์ตัวอื่นๆ
การทดสอบสายแพง่ายๆ
1. นำสายแพออกแล้วเสียบใหม่ เป็นไปได้ที่อาจเสียบสายไม่แน่น
2. ตรวจการเสียบสายแพ ถึงแม้ว่าสายแพสามารถเสียบได้ด้านเดียว แต่เป็นไปได้ที่มีการเสียบสลับ โดยเอาด้านบนไว้ด้านล่าง
3. เปลี่ยนสายแพใหม่
ตรวจสอบสายไฟสำหรับจ่ายไฟให้ฮาร์ดดิสก์
1. ขณะที่เปิดสวิตช์คอมพิวเตอร์หลอด LED หน้าไดรฟ์
ควรสว่างประมาณ 2 วินาทีและมีเสียงหมุนของมอเตอร์ของไดรฟ์ด้วย
2. ขณะที่ใช้คำสั่งเกี่ยวกับ ไดรฟ์นั้น ๆ หลอดไฟ LED
ควรสว่างด้วยเช่นกัน
3. ทดสอบได้ง่ายๆโดยดูว่าคอมพิวเตอร์รู้จักไดรฟ์หรือไม่
หากรู้จักก็แสดงว่ามีไฟจ่ายไดรฟ์
|
การทดสอบสายไฟง่ายๆ
- ลองถอดสายไฟออกแล้วเสียบกลับเข้าไปใหม่ บางครั้งอาจเกิดจากเสียบสายไฟไม่แน่น
- ลองเปลี่ยนสายไฟโดยใช้สายอื่นแทน ปกติภายในเคสมีสายไฟสำหรับจ่ายไฟใหักับอุปกรณ์ให้เลือกหลายชุด
- ตรวจสอบสายแพสำหรับไดรฟ์ อาจเป็นไปได้ที่สายดังกล่าวเสีย ควรตรวจสอบโดยลองเปลี่ยนสายแพใหม่ อาการแสดงว่าสายแพเสียอาจแสดงโดยหลอดไฟ LED ของไดรฟ์สว่างตลอดเวลา
ทดสอบไดรฟ์ที่นำมาติดตั้งใหม่
ขั้นตอนนี้อาจทดสอบได้ยากแต่หากเป็นไปได้ให้ลองนำไดรฟ์ที่สงสัยว่าใช้งานไม่ได้ไปทดสอบกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นที่สามารถใช้ไดรฟ์ขนาดเดียวกันได้ หากไม่มีคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นก็อาจนำไดรฟ์ตัวอื่นที่มีขนาดเดียวกันมาทดสอบ
ชุดทำความสะอาดไดรฟ์มีประโยชน์มากสำหรับตรวจสอบหาสาเหตุที่ไดรฟ์ใช้งานไม่ได้ เนื่องจากฝุ่นละอองเกาะที่หัวอ่านของไดรฟ์
|
ตรวจสอบ DISK Drive Controller
การตรวจสอบว่า Disk Drive Controller ใช้งานได้หรือไม่นั้นในทางปฏิบัติทำได้ยาก เนื่องจากต้องมีเครื่องมือสำหรับวิเคราะห์
ซึ่งมีสองประเภทคือ Controller บนเมนบอร์ด (On board Controller) เมนบอร์ดที่ใช้ Controller ประเภทนี้ไม่ต้องมีการ์ด I/O เพิ่ม สามารถนำสายแพของไดรฟ์เสียบกับเมนบอร์ดได้ Controller ดังกล่าวมีใช้ในคอมพิวเตอร์ที่ใช้สถาปัตยกรรมแบบ PCI BUS และประเภทที่ 2 คือ Controlle บนการ์ดที่นำมาติดเพิ่ม พบในคอมพิวเตอร์ใช้สถาปัตยกรรมแบบ
VL-BUS การตรวจสอบทำได้โดยใช้ซอฟต์แวร์สำหรับตรวจสอบคอนโทรลเลอร์โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามยังสามารถแก้ไขปัญหาโดยวิธีการอื่นได้ดังนี้
- หากเป็น On Board Controller ให้ Disabled แล้วใช้การ์ด I/O แทน ในการปฏิบัติจริงแล้วทำได้โดยการเซ็ตอัปจัมเปอร์ เพื่อยกเลิกการใช้ On Board Controller หากไม่ Disabled จะเกิดปัญหาการแย่งกันใช้ทรัพยากรของฮาร์ดแวร์
- หากเป็น Add on card Controller แก้ปัญหาโดยเปลี่ยนการ์ด
I/O ใหม่
แผนผังการตรวจสอบไดรฟ์ฟล๊อปปี้ และดิสก์เก็ต
แก้ไขครั้งล่าสุด 18 มิถุนายน กุมภาพันธ์ 2541