ภาษาอังกฤษวันละคำ - CPU
โดย ไพศาล หาญบุญตรง
ฝ่ายพัฒนาองค์การและระบบ - ทีมงาน FMIS
สวัสดีครับ ท่านผู้ชม รายการภาษาอังกฤษวันละคำ กลับมา
พบกับ
ท่านอีก
ครั้งหนึ่ง สำหรับ
วันนี้ขอ
เสนอ
คำว่า CPU คำว่า CPU นี้
ไม่มี
ในปทานุกรม
อังกฤษ-ไทย
ของสอ เสถบุตร เพราะเป็นคำย่อ - ย่อมา
จาก Central Processing Unit (หน่วย
ประมวล
ผลกลาง) แต่
สารา
นุกรม
ฉบับ
อาจารย์เจี๊ยบ
ให้คำ
จำกัด
ความ
ไว้ว่า อันว่า
เจ้า CPU นี้ คือ "สมอง" ของ
คอมพิวเตอร์นั่นเอง 80-90% ของ
เครื่อง
คอมพิวเตอร์
ส่วนบุคคล
ทั่วโลก ใช้ CPU ยี่ห้อ Intel (ที่เหลือ 10-20% ใช้ยี่ห้อ Cyrix บ้าง AMD บ้าง ถ้าเป็นตระกูล MacIntosh ก็จะใช้ CPU ยี่ห้อ Motorola) ท่านคงเคย
ได้ชม
โฆษณาของ Intel ทางทีวี
มานับ
ครั้งไม่
ถ้วนแล้ว นั่นแหละ
เขาหละ ผู้ผูก
ขาด CPU รายใหญ่
ของโลก CPU ยี่ห้อ Intel นี้มี
พัฒนา
การมา
หลายรุ่น ความเร็ว
ในการ
ทำงาน (หรือ
ประมวล
ผล) ของมัน
ซึ่งนับ
กันเป็น Mega Hertz (MHz =ล้าน รอบ
ต่อวินาที) ก็สูงขึ้นๆ ทุกที ผมขอ
จัดชั้น CPU ของ Intel เป็น 5 ยุค (Generation) ตามตาราง
ดังต่อ
ไปนี้
ยุคของซีพียู
หมายเลขซีพียู / ชื่อรุ่นCPU Number/Name
ความเร็ว (ล้านเฮิร์ตต่อวินาที (MHz)
1
8088/XT
4.77-10
2
80286/AT
10-20
3
80386/386
16-40
4
80486/486
33 - 133
5.1
Pentium
60-200
5.2
Pentium MMX
166 200 233
6.1
Pentium Pro
150 - 200
6.1
Pentium II
233-400
(Pentium II 700 MHz ก็มีแล้ว แต่
ใช้ใน
เครื่อง
คอมพิวเตอร์
ระดับ Server ไม่ใช่ PC ที่ใช้
กันตาม
บ้าน แล้ว
ก็อีกไม่นาน
ท่านจะได้
เห็น 1 GHz (1,000 MHz) CPU!)
CPU จะทำงานไม่ได้เลยถ้าไม่มี RAM หรือหน่วยความจำ ผมจึง
ขอแถม
คำว่า RAM ให้อีกคำ คำว่า RAM ก็เป็น
คำย่อ
เช่นกัน ย่อมา
จาก Random Access Memory ซึ่งมัน
จะแปลว่า
อะไร
ก็ช่าง
มันเถอะ เอา
เป็นว่า RAM แปลว่าหน่วย
ความจำ ก็แล้วกัน
และเป็น
หน่วยความจำ
ชนิด "ชั่วคราว" ด้วย (ถ้า
เป็นหน่วย
ความจำชนิด "ค้างคืน" หรือ
ถาวร เขา
เรียกว่า ROM - Read Only Memory) กล่าวคือ เมื่อไฟดับ
หรือปิดเครื่อง อะไร
ที่มันจำไว้
ก็จะหาย
ไป และเรียกคืน
ไม่ได้
ด้วย อ้าว? แล้วทำ
อย่างไร
ล่ะ? ก็ต้อง
บันทึก (save) ข้อมูล
หรือไฟล์
ที่ท่านทำ
ลงบน Hard Disk (แผ่นจาน
แม่เหล็ก
แบบแข็ง) ก่อนที่
จะปิด
เครื่อง และ
หากกลัว
ไฟดับ
ก็หา UPS (เครื่องจ่ายไฟสำรอง) มาต่อ
ไว้
ตรงกลาง หาก
ไฟดับ
มันก็จะ
จ่ายไฟ
จาก
แบตเตอรี่
ของมัน
ให้ท่าน
ทำงานต่อ
ไปได้ 10-15 นาที ซึ่งท่าน
ก็ควรรีบ
บันทึก
ข้อมูล
และ
ปิดเครื่อง อันว่า RAM นี้นับ
เป็นอุปกรณ์
คอมพิวเตอร์
ที่ลดราคา
ลงอย่าง
มากมาย
และรวดเร็ว
ที่สุด ในยุค
ที่ 3 (CPU 386) หรือ
ประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว ผมเคยซื้อ RAM ใน
ราคา Mega Byte (MB = ล้านตัวอักษร) ละ 3,000 บาท ผมซื้อ 4 MB ก็จ่ายไป 12,000 ถ้า 64 MB จะ
เป็นเงิน
ถึง 192,000 บาท แต่เมื่อ
สองเดือน
ที่แล้ว ผมซื้อ RAM 64 MB ได้ในราคาเพียง 3,600 บาท
เท่านั้น และเดือนนี้
เห็นมัน
ลดลงเหลือ 3,200 แล้ว 7-8 ปี อาจจะ
ไกลเกิน
ไป เอาใกล้ๆ หน่อยก็
ได้ คือเมื่อเดือน
สิงหา 38 หรือ 2 ปีเศษ
มานี้เอง ผมเคย
ซื้อ RAM 72-pin แผงละ 16 MB ในราคา 12,500 บาท แต่เมื่อ
เดือนที่แล้ว
ผมซื้อ RAM 72-pin แผงละ 16 MB ได้ใน
ราคา
แผงละ 660 บาท
เท่านั้น เหลือเชื่อ
ไหม? (มีสิ่งใด
ในโลกนี้
ที่ลดราคา
ลงมา
มาก
ขนาดนี้ (ประมาณ 95%) ในเวลาเพียง 2 ปีเศษ? เงินรูเปีย
ของอินโด
นีเซีย ซึ่งค่า
ของมัน "ดิ่งนรก" ก็ยัง
ไม่ตก
มากขนาด
นี้เลย) แถมเป็น RAM รุ่นใหม่
กว่า เร็วกว่า คือเป็น EDO RAM (รุ่นเก่า
เขาเรียก FPM -Fast Page Mode RAM) อย่างไรก็ตาม RAM รุ่น
ใหม่สุด
ขณะนี้เขา
เรียกว่า SDRAM (Synchronous Dynamic RAM) และถ้า
จะให้ดี
ต้องเป็นรุ่น
ที่
ความเร็ว 100 MHz ด้วย RAM 72-pin ทั้งแบบ FPM และ EDO เขา
เรียกว่า RAM แบบ SIMM (Single Inline Memory Module) แต่ SDRAM ซึ่งมี 168-pin เขา
เรียกว่า RAM แบบ DIMM (Dual Inline Memory Module)
เครื่อง PC เครื่องแรก
ของผม (8088 4.77 MHz) มี RAM เพียง 256 KB หรือ 1 ใน 4 MB เท่านั้น แต่ต่อมา
ไม่นาน
ก็ขยาย
เป็น 640 KB ยุคนั้น
นาย Bill Gates เจ้าพ่อแห่ง Microsoft เคยพูดว่า "640 KB should be enough for everybody" หรือ 640 KB น่าจะ
เพียงพอ
สำหรับ
ทุกคน แต่ปัจจุบัน
เครื่อง PC ระดับ
ต่ำสุด (entry-level) มีหน่วย ความจำ
ขั้นต่ำ 16 MB หรือ 16,384 KB และเครื่อง PC ระดับ
สูงสุด (Top-End) มีหน่วย
ความจำ
ขั้นต่ำ 128 MB (131,072 KB) ขยาย
ได้ถึง 384 MB สำหรับ
เครื่อง PC ปัจจุบัน
ของผม
ก็อยู่กลางๆ คือมี 64 MB หรือ
มากกว่าที่ Bill Gates พูดว่าพอ 100 เท่าพอดี!
แก้ไข กรกฎาคม 2541
Copyright 1998 สงวนลิขสิทธิ์ 2541 ไพศาล หาญบุญตรง