ราชบุรี เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันตกที่มีภูมิประเทศหลากหลาย จากพื้นที่ราบต่ำลุ่มแม่น้ำแม่กลองอันอุดม แหล่งเพาะปลูกพืชผัก ผลไม้เศรษฐกิจนานาชนิด สู่พื้นที่สูงทิวเทือกเขาตะนาวศรีทอดตัวยาวทางทิศตะวันตกจรดชายแดน  
ไทย - พม่ามีอาณาเขต ด้านทิศเหนือจรดจังหวัดกาญจนบุรี ทิศตะวันออกจรดจังหวัดนครปฐม สมุทรสาครและสมุทรสงคราม ส่วนทางทิศใต้จรด จังหวัดเพชรบุรี ด้วยหลักฐานทางโบราณคดีทั้งแหล่งประวัติศาสตร์ และโบราณวัตถุที่เคยค้นพบ ทำให้เชื่อว่าราชบุรีเป็นเมืองท่าแหล่งพบปะของพ่อค้าวาณิชเป็นดินแดนที่หลากหลายชาติพันธุ์และกลุ่มชนที่สุด แห่งหนึ่ง
ซึ่งยังยึดมั่นสืบทอดเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมไว้ได้ ราชบุรีในวันนี้จึงเต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ทั้งประวัติศาสตร์
โบราณสถานวัตถุ วิถีชีวิต วัฒนธรรม งานหัตถกรรมเครื่องปั้นเครื่องหล่อทอถักจักสานถ้ำธารป่าเขาและธรรมชาติที่งดงาม
ท้าทายการมาเยือนของผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก

รถยนต์ส่วนตัว เพียง ๑๐๑ กิโลเมตร จากกรุงเทพฯ ตามถนนเพชรเกษม (ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข ๔) ผ่านองค์พระปฐมเจดีย์ ถึงอำเภอบางแพ ประตูสู่ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ใช้เวลาราวชั่วโมงเศษ หรือหากต้องการชมธรรมชาติยามรุ่งอรุณ ขอแนะนำให้ใช้ถนนธนบุรี - ปากท่อ (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๕) จะพบกับบรรยากาศวันใหม่ที่แสนงดงาม ภาพแสงทองจับขอบฟ้า เรียงรายสองข้างทางด้วยกองเกลือสีขาวและกังหันลม แถบจังหวัดสมุทรสงครามก่อนเลี้ยวขวาที่แยกวังมะนาวเข้าสู่อำเภอปากท่อ รวมระยะทางประมาณ ๑๐๙ กม.

รถประจำทาง มีให้เลือกทั้งแบบปรับอากาศชั้น ๑ ปรับอากาศชั้น ๒ และไม่ปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ทุกวัน
ตั้งแต่ ๐๖.๐๐ - ๒๓.๐๐ น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ๔๓๕  -  ๑๑๙๙ (รถปรับอากาศ) และ ๔๓๔ - ๕๕๗ - ๘ (รถธรรมดา)
ค่าโดยสาร ๓๐ - ๖๔ บาท นอกจากนั้นยังมีรถปรับอากาศไปดำเนินสะดวกตั้งแต่ ๐๕.๓๐ - ๒๑๐๐ น. ทุกวันอีกด้วย

รถไฟ  มีทั้งขบวนที่ออกจากธนบุรีและสถานีหัวลำโพงกรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา ๐๗.๒๐ -  ๒๑.๕๕ น. ส่วนขากลับมีตั้งแต่
๐๒.๕๕ - ๑๔.๑๐ น. ทุกวัน นอกจากสถานีราชบุรีแล้ว บางขบวนยังจอดรับส่งผู้โดยสารที่สถานีหนองปลาดุก สถานีบ้านโป่ง สถานีโพธาราม และสถานีปากท่อด้วย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่กรุงเทพฯ โทร. (๐๒) ๒๒๕ - ๐๓๐๐ - ๙ หรือที่ราชบุรี
(๐๓๒) ๓๓๗๐๐๒

หมายเหตุ เพื่อป้องกันการผิดพลาดในการเดินทางควรตรวจสอบเวลา เส้นทางสู่จุดหมาย และค่าโดยสารก่อนการเดินทาง


เมืองราชบุรี ตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำสายสำคัญในภาคตะวันตก  พื้นแผ่นดินซึ่งเป็นที่ตั้งจังหวัดราชบุรี
ในปัจจุบัน จากหลักฐานทางโบราณวัตถุ และโบราณสถานที่ได้ค้นพบทำให้เชื่อได้ว่ามีผู้คนตั้งถิ่นฐานอยู่มาตั้งแต่ยุคหินกลาง ประมาณ ๑๐,๐๐๐ ปีมาแล้ว โดยเฉพาะการค้นพบโบราณสถานสมัยทวารวดี ที่ตำบลคูบัว อำเภอเมืองราชบุรี ซึ่งชี้ให้เห็นว่า
ดินแดนราชบุรีแห่งนี้  แต่เดิมเคยเป็นเมืองท่าที่รุ่งเรืองมาก่อน ถ้าท่านสนใจศิลปะทวารวดี ท่านจะเข้าชมได้ที่วัดโขลงสุวรรณคีรี
ตำบลคูบัว อำเภอเมืองราชบุรี ถ้ำฤาษีเขางู ตำบลเกาะพลับพลา และที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติราชบุรี ใกล้หอนาฬิการิมน้ำ
จังหวัดราชบุรี ประกอบด้วยคนไทยเชื้อสายต่างๆ แม้วัฒนธรรมวิถีชีวิตของชนบางกลุ่มจะถูกคลื่นวัฒนธรรมใหม่ๆ ไหลเข้ามา
ทดแทนบ้าง แต่บางกลุ่มยังรักษาสิ่งดีงามให้คงอยู่ได้อย่างน่าประทับใจ และหลงเหลือเค้ารอยให้คนรุ่นใหม่ได้ศึกษาได้เห็น
รากเหง้าและตัวตนที่แท้จริง เช่น

ชาวไทยทรงดำหรือลาวโซ่ง
อาศัยอยู่แถบดอนคลัง อำเภอดำเนินสะดวก ดอนคา อำเภอบางแพ อำเภอจอมบึงและอำเภอ
ปากท่อ เป็นกลุ่มชนที่รักษาประเพณี และพิธีกรรมของกลุ่มไว้ได้อย่างดียิ่ง ทั้งอาหารการกิน การแต่งกายซึ่งนิยมใช้เสื้อผ้า
โทนสีดำขรึม

ชาวไทยตะนาวศรีหรือกระเหรี่ยง เป็นชาวเขาที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย-พม่า ทุกๆ ปียังคงมีประเพณีการกินข้าวห่อ อันเป็นเอกลักษณ์ในเดือนเก้า ชาวไทยเชื้อสายมอญ อาศัยอยู่แถบริมน้ำแม่กลอง ในเขตอำเภอโพธารามและบ้านโป่ง เป็นกลุ่มชนที่เคร่งครัด ในศาสนาพุทธมากประเพณีที่สำคัญคือประเพณีสงกรานต์ชาวมอญ และการละเล่นที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น สะบ้ามอญ
ผีกระด้ง เล่นทรงผีกะลา ฯลฯ

ชาวไทยเชื้อสายลาวเวียง หรือลาวตี้ อาศัยอยู่บริเวณลุ่มน้ำแม่กลอง ที่วัดสร้อยฟ้า วัดป่าไผ่ และเขตอำเภอจอมบึง ที่บ้านนาสมอ บ้านสูงเนินเอกลักษณ์ของลาวเวียงเหลือน้อยเต็มที แต่ยังมีการจัดงานประเพณีทุกปี เช่น สารทลาวหรือ งานบุญข้าวประดับ เดือนสิบ งานบุญข้าวเดือนสาม และงานบุญพระเวส เดือนสิบเอ็ด

ชาวไทยยวน อาศัยอยู่มากแถบคูบัว อ่างทอง ดอนแร่ เจดีย์หัก ซึ่งอยู่ในเขตอำเภอเมืองราชบุรี ชนกลุ่มนี้มีความสามารถ ด้านการทอผ้าซิ่น และจกผ้าประเพณีที่เคยปฏิบัติกันมาเหลือน้อยมาก นอกจากการแต่งกายของผู้เฒ่า ผู้แก่

ชาวไทยเชื้อสายเขมรลาวเดิม อาศัยอยู่แถบบ้านพงสวาย และบ้านคุ้งน้ำวน อำเภอเมืองราชบุรี มีเพียงภาษาพูดกับความเชื่อ
เรื่องผีอารักษ์ หรือผีต้นตระกูล ที่ผู้เฒ่าผู้แก่ต้องไปบอกกล่าวเป็นภาษาเขมรให้ผีรับรู้ หากคนในบ้านจะมีงานมงคล

ชาวไทยเชื้อสายจีน อาศัยอยู่หนาแน่นแถบอำเภอบ้านโป่ง โพธาราม และบริเวณคลองดำเนินสะดวก กับบางนกแขวก
มีทั้งชาวจีนที่นับถือศาสนาพุทธและศาสนาคริสต์ ทุกปีจะประเพณีแห่พระทางน้ำวัดปราสาทสิทธิ์ ที่ยิ่งใหญ่และหาชมได้ยาก
ในอำเภอดำเนินสะดวก


หนังใหญ่วัดขนอน


เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมไทย ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นการแสดงชั้นสูงเป็นการแสดงที่รวมศิลปะ
ที่ทรงคุณค่าหลายแขนง ได้แก่ด้านศิลปะการออกแบบลวดลายไทย เชิงจิตรกรรมที่มีความวิจิตร
บรรจง ผสมกับฝีมือช่างแกะสลักที่ประณีต เมื่อแสดงก็จะมีการนำศิลปะทางนาฎศิลป์การละครที่
เคลื่อนไหว อย่างได้อารมณ์ตามเนื้อเรื่อง ประกอบกับบทพากษ์ บทเจรจา บทขับร้อง ดนตรีปี่พาทย์
ทำให้เกิดความเข้าใจในเรื่องราว และให้อรรถรสทางศิลปะแก่ผู้ชมได้อย่างสมบูรณ์การแสดง
หนังใหญ่ จึงมีคุณค่าทางศิลปะสูง และแสดงถึงอัจฉริยภาพของบรรพบุรุษไทยได้เป็นอย่างดี

กลับด้านบน


จิตรกรรมฝาผนัง…วัดคงคาราม

วัดคงคาราม อยู่ในเขตตำบลคลองตาคต อำเภอโพธาราม เป็นวัดที่สร้างขึ้นในหมู่บ้านของครอบครัว
พระยามอญ 7 คน (เช่น ลุ่มสุ่ม ลิ่นถิ่น ไทรโยค ท่าตะกั่ว เป็นต้น)  พระยามอญทั้ง 7 คนนี้ ได้รับ
มอบหมายให้ไปทำหน้าที่ป้องกันพม่าทางจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อเจ้าเมืองตัดไม้ต่อแพไม้ไผ่ บรรทุก
ไม้ล่องมาตามแม่น้ำแม่กลอง เพื่อมาสร้างวัดจึงมีชื่อว่า วัดคงคาเมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัวเสด็จมาทอดกฐินวัดนี้มีชื่อ วัดกลางเหนือ เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เสด็จประพาสต้น ผ่านวัดนี้มีชื่อเป็นวัดคงคาราม และวัดนี้มีฐานะเป็นวัดเจ้าคณะใหญ่นิกายรามัญ
ในแขวงราชบุรี จึงมีชื่อเป็นภาษามอญว่า เผี่ยโต่ แปลว่า วัดกลาง คือเป็นศูนย์กลางของวัดมอญต่าง ๆ
ในจังหวัดราชบุรี เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวตลอดทั้งตระกูลเจ้าจอมมารดากลิ่น และพระเจ้าพระบรมวงศ์เธอกรมพระนเรศวรฤทธิ์ทรงอุปถัมภ์ พร้อมทั้งครอบครัวพระยามอญ 7 คน
อุปการะวัด จึงมีความสวยงาม และมีจิตรกรรมฝาผนังระดับช่างหลวงจากราชสำนัก

กลับด้านบน

ค้างคาวร้อยล้านที่เขาช่องพราน

ในท้องที่ ตำบลเตาปูน อำเภอโพธาราม ห่างจากตัวอำเภอไปทางทิศตะวันตกของแม่น้ำแม่กลอง
เพียง 9 กิโลเมตร ริมทางหลวง หรืออยู่ห่างจากอำเภอเมือง สายเขางู - เบิกไพร ราชบุรี ประมาณ 17
กิโลเมตรเศษ ๆ บริเวณ วัดเขาช่องพรานซึ่งมีเขาช่องพรานตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลังนั้น……….ณ ตรง
กึ่งกลางเขามีถ้ำอยู่ถ้ำหนึ่ง ชื่อว่า ถ้ำพระ

กลับด้านบน


ตลาดน้ำดำเนินสะดวก

"ตลาดน้ำ" ที่โลกรู้จัก และกลายเป็นเอกลักษณ์ไทยอย่างหนึ่งที่ดึงดูดชาวต่างประเทศ ให้เดินทาง
มาเยือนเมืองไทย สถานที่ท่องเทียวอีกแห่งหนึ่งที่เชื่อมจังหวัดราชบุรี สมุทรสาครและสมุทรสงคราม
เข้าด้วยกัน คลองดำเนินสะดวก  เป็นนามพระราชทานโดยรัชกาลที่  5 มีความยาวประมาณ  32
กิโลเมตร มีซอยเล็กซอยน้อย แยกออกไปอีกประมาณ 200 คลองเป็นทางสัญจรทางน้ำที่มีผู้คนใน
เขตสามจังหวัดใช้มากที่สุดโดยแทบทุกบ้านจะมีเรือประจำบ้านอย่างน้อย1 ลำเหมือนคนกรุงมีรถ
บ้านละ 1 คัน

กลับด้านบน


ถ้ำเขาบิน

เป็นที่ยอมรับกันว่า  ความงดงามตระการตาของหินงอกหินย้อย ในถ้ำแห่งนี้ เป็นเรื่องยากแก่การ
พรรณนาให้ครบถ้วนชัดเจน  เพราะภายในถ้ำอันมีเนื้อที่กว้างขวางถึง 5 ไร่เศษ มีเรื่องราวและลีลา
ของประติมากรรมอันเกิดจากธรรมชาติ และกาลเวลาอยู่มากมาย เกือบจะทุกซอกทุกมุมของถ้ำ
ก็ว่าได้เพชรน้ำหนึ่ง ในบรรดาแหล่งท่องเที่ยวราชบุรีแห่งนี้ ถูกค้นพบในราว 40-50 ปี มาแล้ว
โดยชาวบ้านซึ่งทำไร่อยู่ในบริเวณนั้น

กลับด้านบน


ถ้ำจอมพล

ชื่อถ้ำจอมพลเป็นนามที่สมเด็จ พระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระราชทานในคราวที่โดยเสด็จ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัว ประพาสถ้ำแห่งนี้เมื่อ พ.ศ.2438 ด้วยทรงจิตนาการว่าหินย้อย
"ผาวิจิตร" มีลักษณะคล้ายริ้วไหมอินทรธนูบนบ่าของจอมพลแต่เดิมถ้ำนี้มีชื่อว่า ถ้ำมุจลินทร์ อยู่ที่
เขาจอมพล แวดล้อมด้วยสวนรุกขชาติอันร่มรื่นสวยงามด้วยไม้ดอกและไม้ใบ  นอกจากนี้ยังมีฝูงลิง
ที่ซุกซน แต่เป็นมิตรกับผู้คนที่มาเที่ยวชมถ้ำกันมิได้ขาด เพราะถ้ำจอมพล เป็นแหล่งท่องเที่ยว
ที่มีชื่อเสียงคู่เมืองราชบุรีมาช้านาน ถ้ำจอมพลมีความกว้าง 30 เมตร ยาว 240 เมตร สูง 25 เมตร
ภายในมีหินงอกหินย้อยวิจิตรงดงามหลายแห่ง บางแห่งดูคล้ายท้องพระโรง บางตอนดูคล้ายฉากละคร
บางจุดมีรูปทรงคล้ายตุ๊กตาหินและบัลลังก์

กลับด้านบน


ธารน้ำร้อน
 

ธารน้ำร้อนแห่งเหมืองบ่อคลึง เป็นธารน้ำร้อนแห่งเดียวในจังหวัดราชบุรี เกิดจากสายน้ำไหลผ่านกรวดหินดินทรายใต้พื้นผิวโลกที่ร้อนจัดแล้วไหลเป็นธารน้ำขนาดเล็กออกมา
จากเทือกเขาตะนาวศรี  แม้ว่าจะเป็นลำธารซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่น้ำร้อนในสายธารนี้ก็ไม่เคย
เหือดแห้ง ไม่ว่าในฤดูกาลใด มีความร้อนค่อนข้างคงที่อยู่ในระดับ 120-134 องศาฟาเรนไฮท์
ทางเจ้าของเหมืองเคยนำน้ำในธารน้ำร้อนนี้ ส่งให้กรมวิทยาศาสตร์ตรวจวิเคราะห์แล้ว ปรากฎว่า
ไม่มีแร่ธาตุ ที่อาจเป็นอันตรายต่อผิวหนัง  จึงใช้อาบชำระล้างร่างกายได้อย่างปลอดภัย  ปัจจุบันธาร
น้ำร้อนแห่งเหมืองบ่อคลึง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจ จากผู้มีโอกาสเดินทางไปถึง 
อำเภอสวนผึ้งอีกแห่งหนึ่ง ทางเหมืองได้จัดสร้างบ้านพักไว้สำหรับการพักค้างคืนของนักท่องเที่ยว   
ที่ต้องการชมความงามของธารน้ำร้อนในยามเช้าด้วย เพราะเป็นเวลาที่ทัศนียภาพของลำธารสวยงาม
ที่สุด  ธารน้ำร้อนบ่อคลึงอยู่ห่างจากตัวอำเภอสวนผึ้งไปตามถนนใหญ่ 5 กิโลเมตร และมีทางแยก 
เข้าสู่เหมืองบ่อคลึงเป็นระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร

กลับด้านบน


โป่งยุบ


โป่งยุบ คือ สภาพของแผ่นดินซึ่งจู่ ๆ ก็เกิดการยุบตัวลงไป มีอาณาบริเวณกว้างขวางถึง 10 ไร่ และ
การยุบตัวดังกล่าว ยังคงปรากฎให้เห็นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในบริเวณซึ่งเป็นพื้นที่ทุ่งหญ้าสลับกับป่าละเมาะ
มีผู้ขนานนามสถานที่ซึ่งดูงดงามแปลกตานี้ว่า "แคนยอน" โดยลักษณะทั่วไปแล้วคล้ายกับ "แพะเมืองผี"
ที่จังหวัดแพร่ เพียงแต่มีขนาดเล็กกว่าโป่งยุบนี้ อยู่ในตำบลท่าเคย อำเภอสวนผึ้ง บนเส้นทาง
จอมบึง - สวนผึ้ง ก่อนถึงอำเภอสวนผึ้งประมาณ 5 กิโลเมตร มีทางแยกอยู่ทางซ้ายมือ เป็นทางลูกรัง
เข้าไปประมาณ 5 กิโลเมตร

กลับด้านบน

ถ้ำฤาษีเขางู

ถ้ำฤาษีเขางู เป็นปูชนียสถานซึ่งมีโบราณวัตถุที่เก่าแก่ที่สุดอย่างหนึ่งของราชบุรี คือ พระพุทธรูปใหญ่
มีความสูง 2.50 เมตร  สลักบนฝาผนัง เป็นรูปนูนต่ำประทับนั่งห้อยพระบาท มีพุทธลักษณะเดียวกันกับ
พระพุทธรูปนั่งห้อยพระบาทที่ถ้ำอชันตา ในประเทศอินเดีย โดยทั่วไปเรียกพระพุทธรูปศิลาจำหลักนี้ว่า
พระพุทธฉายถ้ำฤาษีเขางูใต้ นอกจากพระพุทธรูปนี้แล้ว ที่ผนังถ้ำด้านซ้ายมือยังมีพระพุทธรูปยืนปาง
เสด็จลงจากดาวดึงส์อีกองค์หนึ่ง เป็นพระพุทธรูปจำหลักบนศิลาสร้างขึ้นในสมัยเดียวกัน เขางูอยู่ที่ตำบล
เกาะพลับพลา  อำเภอเมืองราชบุรี  อยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกบนถนนสายราชบุรี - จอมบึง
มีทางแยกขวามือไปสู่เขางู รวมระยะทางจากตัวเมืองประมาณ  8  กิโลเมตร

กลับด้านบน


ค่ายหลวงบ้านไร่

เป็นค่ายที่ทรงตั้งขึ้น ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ค่ายหลวงบ้านไร่ เป็นสถานที่ตั้ง
พระบรมราชานุสาวรีย์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว   สำหรับเป็นที่ถวายสักการะ
มีบริเวณที่พักผ่อนหย่อนใจ สำหรับบุคคลทั่วไป และเป็นที่ฝึกลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ปัจจุบัน
ค่ายหลวงบ้านไร่ เป็นที่รู้จักกันดีของคณะลูกเสือทั่วประเทศในปีหนึ่ง ๆ จะมีคณะลูกเสือสั่งจอง
ค่ายเข้าฝึกมิได้ขาด  นับได้ว่า ค่ายหลวงบ้านไร่  เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในอำเภอโพธาราม
ผู้มาเที่ยวชมจะได้รำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวผู้ทรงก่อตั้งกองเสือป่าอันเป็น
มหากรุณาธิคุณแห่งพระองค์ท่าน…ตลอดไป

กลับด้านบน


ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง


ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองของราชบุรี เป็นหลักเมืองที่ตั้งขึ้นใหม่ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ภายหลังจากพระบาท
สมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายเมืองเดิมไปตั้งทางฝั่งตะวันออก
ของแม่น้ำแม่กลอง  พิธีฝังหลักเมืองมีการสมโภช 3 วัน 3 คืน ตั้งแต่วันอังคาร แรม 13 ค่ำเดือน 6 ปีฉลู
จุลศักราช 1179  (พ.ศ.2360)  จนถึงวันพฤหัสบดี แรม 15 ค่ำ เวลา 7 นาฬิกา   ครั้นฝังหลักเมืองตาม
กำหนดฤกษ์แล้ว จึงได้มีการก่อสร้างกำแพงเมืองและสิ่งอื่น ๆ ต่อไป  หลักเมือง เมืองราชบุรี เป็นที่นับถือ
กันว่าศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก มีประชาชนไปบูชา กราบไหว้อยู่เสมอมิได้ขาด   และทางจังหวัดได้จัดให้มีงานบูชา
ประจำทุกปี โดยมีกรมการทหารช่าง และจังหวัดทหารบกเป็นผู้ดูแล และได้บูรณะซ่อมแซมให้คงสภาพ
ถาวรอยู่จนถึงปัจจุบันนี้

กลับด้านบน


วัดมหาธาตุ


วัดมหาธาตุ ชาวบ้านนิยมเรียก  วัดหน้าพระธาตุ  มีพระปรางค์เก่าแก่สร้างด้วยอิฐและศิลาแลง สันนิษฐานว่า  สร้างมาแต่สมัย ขอมเรืองอำนาจในแหลมสุวรรณภูมิ มีลักษณะจำลองแบบมาจากนครวัด ประเทศกัมพูชา องค์พระปรางค์ วัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ประมาณ  7  วา  ศาลสูงประมาณ 12 วา  ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม ตั้งอยู่ที่ตำบลหน้าเมือง ในเขตเทศบาลเมืองราชบุรี

กลับด้านบน


เมืองโบราณบ้านคูบัว


ห่างจากตัวเมืองราชบุรีไปทางทิศใต้ประมาณ 4 - 5 กิโลเมตรที่เมืองโบราณเก่าแก่ ซึ่งจากการขุดค้น 
ปรากฎหลักฐานว่า เป็นเมืองในสมัยทวารวดี ที่มีพื้นที่ทั้งหมดถึง 1,678,500 ตารางเมตร เมืองโบราณ
แห่งนี้เรียกกันว่าเมืองคูบัว ที่ตำบลคูบัวอำเภอเมืองราชบุรีนั้น ปัจจุบันซึ่งเชื่อว่าเป็นลำน้ำสายเดิม
ของแม่น้ำแม่กลอง หลังจากนั้นกรมศิลปากรได้ขุดค้นซากโบราณสถานที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 
ของสถานีรถไฟคูบัวออกไปเล็กน้อย ห่างจากวัดคูบัวประมาณ 250 เมตร พบผอบเงินมีผอบทองบรรจุวัตถุ
ซึ่งเข้าใจว่า เป็นพระบรมสารีริกธาตุกับมีพลอยและทับทิมอยู่ในนั้นด้วย นอกจากผอบดังกล่าว ยังพบพระ
พุทธรูป หินชนวนขนาดเล็กอีกองค์หนึ่ง ซึ่งพิจารณาแล้วเห็นว่า ลวดลายและลักษณะเป็นศิลปะสมัยทวารวดี จึงทำให้เชื่อได้ว่า เมืองโบราณคูบัวนี้ต้องเป็นเมืองหนึ่งซึ่งอยู่ในอาณาจักรทวารวดีเป็นแน่ 

กลับด้านบน

 

 

 

 


 

 


 

 

 

 

 

 


 

 




1