โดย : โอฬาร สุขเกษม 11/03/2001
.
เสือ - นก : วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน กาญจนบุรี (2)

ถนนภายในบริเวณวัดป่าหลวงตาบัว ฯ
"ถ้ามีที่เป็นย่านๆ สำนักปฏิบัติมีเป็นย่านๆ ก็ดี เป็นระยะ ๆ พอไปมาหาสู่กัน ถึงกรรมฐานก็เกี่ยวข้องโยงกันมากเหมือนกันนะ อย่างสายกรรมฐานหลวงปู่มั่นนี่ ถึงจะกว้างแสนกว้างก็ตาม ภาคอีสานทั้งภาค พระกรรมฐานเกี่ยวโยงกันหมดนะ"

ผมเดินทางไปถึงวัดก่อนเก้าโมงเช้าเล็กน้อย ที่ศาลาเมตตามีลูกศิษย์ลูกหา อยู่กลุ่มใหญ่อยู่ก่อนหน้าแล้ว พระฉันภัตาหารเสร็จ สายกว่านั้นเล็กน้อยก็มีการถวายผ้าป่ากองเล็ก ผู้มีจิตศรัทธาก็คือ ศิษย์ที่ถวายที่ดินให้กับวัดนั่นละครับ พอพระอาจารย์จันทร์ว่าง ได้มีโอกาสเข้าไปสนทนา สอบถามเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับวัดนี้

เรื่องเสือ 8 ตัวนั้น พระอาจารย์ภูสิต(จันทร์) ขันติธโร เจ้าอาวาสเล่าว่า

"เจ้าของฟาร์มเจ้าของสวนสัตว์ เอาลูกเสือตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งมาถวาย เจ้าของสวนสัตว์เลี้ยงกวาง เลี้ยงหมูป่า และสัตว์อื่นๆ ไว้เยอะ ปรากฎว่า มีเสือจากป่ามากินกวาง เลยซุ่มยิง พอเสือตายแล้วถึงได้รู้ว่าเป็นเสือ แม่ลูกอ่อน เลยเอาลูกมาเลี้ยง และดูเหมือนจะเป็นภาระเลยคิดจะสต๊าฟเอาไว้ เขาฉีดยาเข้าที่สมอง แต่ลูกเสือไม่ตาย จะเลี้ยงไว้ก็เกรงกลัวต่อบาป จึงเอามาถวายวัด อาจารย์ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร เพราะเขาบอกว่า หลวงพ่อไม่รับ ผมก็จะปล่อยเอาไว้นี่แหละ "

พระอาจารย์เล่าต่อว่า ก็พยายามเลี้ยงไว้ อาหารต้องให้ลูกเสือกินทุก 3 ขั่วโมง

" เลี้ยงเสือนี่เป็นภาระจริงๆ พอคนเห็นว่าพระเลี้ยงแล้วรอด ตัวที่สองตัวที่สามก็ตามมา จนขณะนี้มีอยู่ 8 ตัว วัยไล่ๆกัน คือ อายุประมาณ 2 ปี แต่ที่ตายไปบ้างก็มีเพราะถูกฉีดยาเข้าสมอง"

พระอาจารย์บอกว่า เสือที่นี่เป็นเสือสายพันธุ์อินโดไชน่า และตั้งใจจะปล่อยรุ่นที่ 3 เข้าป่า รุ่นที่เลี้ยงปล่อยไปคงจะไม่รอด ขณะนี้เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยดู แล และชึ้นทะเบียนไว้แล้ว

 

คุณหมอสมชัย สัตวแพทย์ แต่เป็นเจ้าของบริษัททัวร์ และเป็นนายกสมาคมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ ์แห่งประเทศไทย เคยบอกผมว่า เสือพันธุ์อินโดไชน่าปัจจุบัน มีอยู่ไม่เกิน 200 ตัว มีความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์สูง และได้ประกาศข่าวไปทั่วโลกแล้วว่า ที่วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสมฺปนฺโน มีอยู่ 8 ตัว ที่ผ่านมานักอนุรักษ์เสือจากทั่วโลก กองถ่ายทำสารคดีเสือ ได้มาถ่ายทำ และศึกษาเสือที่วัดนี้แล้ว นอกจากนี้พยายามขอความช่วยจากในประเทศ และต่างประเทศ ในการจัดทำโครงการ หรือจัดมูลนิธิเพื่ออนุรักษ์พันธุ์เสืออินโดไชน่าขึ้น

วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐาน "พระพุทธกาญจนาภิเษก" และเป็นพระพุทธปฏิมาประธานแห่งวัดด้วย ที่มาแห่งองค์พระพุทธกาญจนาภิเษกมาจาก ฯพณฯ ดร.เชาวน์ ณ ศีลวันด์ องคมนตรี ได้แจ้งให้พระอาจารย์ภูสิต (จันทร์) ขันติธโร เจ้าอาวาสทราบว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชประสงค์จะสร้างพระพุทธรูป ประธานขนาดใหญ่ พระราชทานแด่หลวงตาฯ (พระราชญาณวิสุทธิโสภณ/หลวงตา(มหา)บัว) เพื่อเป็นการบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นการส่วนพระองค์ โดยกำชับให้ใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมด และทรงอธิษฐานให้หายจากพระอาการประชวร ด้วยโรคทางพระหทัย พร้อมกับพระราชทานนามว่า "พระพุทธกาญจนาภิเษก"

การนี้ทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดหานายช่างออกแบบและควบคุมการหล่อเป็นพิเศษ เพื่อให้งานสร้างพระพุทธรูป เสร็จตรงตามพระราชประสงค์ทุกประการ ซึ่งหลวงตาฯได้เป็นประธานในพิธีเททองหล่อ เมื่อ วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2539 ณ สำนักสงฆ์สวนแสงธรรม พุทธมณฑลสาย 3 เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ และวันที่ 28 ธันวาคม 2539 หลวงพ่อพระอาจารย์จันทร์ ได้อัญเชิญพระพุทธกาญจนาภิเษกมาประดิษฐานที่วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน

วัดป่าแห่งนี้เปิดให้คนทั่วไปที่มีจิตศรัทธามาปฏิบัติธรรมได้ โดยขออนุญาตเจ้าอาวาส ครั้งหนึ่ง ๆ อยู่ได้ไม่เกิน 3-7 วัน ให้ออกไปแล้วจึงกลับมาใหม่ได้อีก สุภาพสตรีต้องมาเป็นหมู่คณะ และมีผู้ชายปนมาในกลุ่มด้วย สำหรับสุภาพบุรุษที่จะมาบวชปฏิบัติธรรม ให้บวชในธรรมยุตินิกายจากวัดอื่นก่อน โดยก่อนไปบวชให้มาปฏิบัติธรรม บวชผ้าขาว ถือศีล 8 ที่วัดอย่างน้อย 15 วันก่อนเสมอ เพื่อฝึกเป็นคนวัด และทดสอบไปด้วย

วัดมีความมุ่งหมายชัดเจน คือ ฝึกจิตตภาวนา นั่ง นอน ยืน เดิน อยู่ใน ศีล สมาธิ ปัญญา ชำระกิเลสจากใจ ตามคำสั่งสอนของ พระ พ่อ แม่ ครู อาจารย์ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน กิจนิมนต์ต่างๆ ของพระเณรไม่มี มุ่งแต่งานภาวนา ไหว้พระ สวดมนต์ หากมีผู้ประสงค์นอกนั้น และมีความจำเป็นในเรื่องใด ให้ขออนุญาตจากเจ้าอาวาสเป็นครั้งคราว โดยไม่ให้ผิดข้อวัตร ข้อปฏิบัติ ของวัดป่าพระกรรมฐานเด็ดขาด ไม่ให้ถือเป็นกิจหลัก

นอกจากนี้แล้ววัดยังมุ่งอนุรักป่าธรรมชาติ ห้ามมิให้ก่อสร้างใดๆ ที่ทำลายสภาพสิ่งแวดล้อม และป่าธรรมชาติ คือ ให้มีการก่อสร้างเท่าที่จำเป็น เพื่อรักษาต้นไม้ และสัตว์ให้อยู่ตามธรรมชาติ

ผู้ใดมีความมุ่งหมาย จะสืบทอดพระศาสนา มีเมตตา กรุณาต่อ สัตว์ ขอเชิญไปเยือนวัดสักครา หรือ จะไปดูนกก็ตามที แต่อย่าไปเอะ อะ นะครับ เพราะที่แห่งนี้เป็นดินแดนสงบ ที่วัดห้ามต่อไฟฟ้าทุกชนิด รวมทั้งห้ามไม่ให้นำเครื่องใช้ที่อำนวยความสะดวกของฆราวาส เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ โทรทัศน์ พัดลม ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ โทรสาร โทรศัพท์มือถือ เครื่องวิทยุมือถือ เครื่องมือสื่อสารต่างๆ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ห้ามทั้งพระภิกษุ และสามเณรมีไว้ครอบครอง หรือ รับถวาย และห้ามมีไว้เป็นสมบัติของวัดเด็ดขาด

(HOME)

 

1