คำปราศรัยของประธานาธิบดีบุชต่อสภาคองเกรสและประชาชนชาวอเมริกัน
(วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2544)
ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ท่านประธานวุฒิสภา เพื่อนสมาชิกสภา คองเกรสทุกท่าน ประชาชนชาวอเมริกันทั้งหลาย

ในยามเหตุการณ์ปกติ ประธานาธิบดีสหรัฐ จะมาปรากฎยังที่ประชุมแห่งนี้เพื่อ รายงานสถานะของประเทศ (State of the Union) แต่ในคืนนี้ เราไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น เพราะพลเมืองชาวอเมริกันเป็นผู้เสนอรายงานดังกล่าวให้เราทราบกันแล้ว
เราได้เห็นสถานะของประเทศจากความกล้าหาญของผู้โดยสารบนเครื่องบินที่ต่อสู้กับ ผู้ก่อการร้ายเพื่อรักษาชีวิตคนที่อยู่บนพื้นดินเบื้องล่าง ผู้โดยสารเช่นชายที่ ชื่อว่า ทอดด์ บีมเมอร์ ขอทุกท่านจงให้การต้อนรับภรรยาของเขา ลิซ่า บีมเมอร์ ที่มาอยู่ ณ ที่นี้พร้อมกับพวกเราในคืนนี้ด้วย

เราได้เห็นสถานะของประเทศของเราจากความอดทนของเจ้าหน้าที่กู้ภัยซึ่งทำงานเหน็ดเหนื่อย แสนสาหัส เราได้เห็นการประดับประดาธง การจุดเทียน การบริจาคโลหิต การสวดภาวนา ทั้งในภาษาอังกฤษ ภาษาฮีบรู และภาษอารบิค เราได้เห็นน้ำใจของผู้คน ที่เต็มไปด้วยความรักและการให้ ผู้คนซึ่งถือเอาความทุกข์โศก ของคนอื่น เป็นความทุกข์โศกของตนเอง

เพื่อนร่วมชาติทั้งหลาย ในช่วงเวลา 9 วันที่ผ่านมา โลกทั้งโลกได้ประจักษ์ ด้วยตนเองแล้วถึงสถานะของสหรัฐอเมริกา สถานะของประเทศของเรายังมีความแข็งแกร่งอยู่

ในคืนนี้ ประเทศของเราถูกปลุกขึ้นมาเพื่อเผชิญหน้ากับภยันตรายและเพื่อ ปกป้องอิสรภาพ ความเศร้าโศกของเราได้เปลี่ยนเป็นความโกรธ และความโกรธนั้นได้กลายเป็น ความตั้งใจ อันแน่วแน่ ไม่ว่าเราจะจับศัตรูของเรามาดำเนินการตามกฎหมาย หรือจะใช้กฎหมาย จัดการกับศัตรูของเรา ความยุติธรรมจะต้องเกิดขึ้น

ข้าพเจ้าขอขอบคุณสภาคองเกรสสำหรับการแสดงความเป็นผู้นำในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ ในคืนที่เกิดเหตุโศกนาฎกรรม ประชาชนทั่วทั้งอเมริกา รู้สึกซาบซึ้งที่ได้เห็นสมาชิก พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต ยืนอยู่ที่บันไดอาคารรัฐสภาและร้องเพลง "God Bless America" ร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง แต่ท่านทั้งหลายมิได้เพียงร้องเพลงเท่านั้น ท่านได้ทำบางสิ่งบางอย่างด้วย ท่านได้มอบเงินจำนวนสี่หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อฟื้นฟูชุมชนของเราและเพื่อสนองตอบความต้องการของกองทัพของเรา

ท่านประธานแฮสเทิร์ตและท่านเกพฮาร์ทซึ่งเป็นผู้นำเสียงข้างน้อย ท่านแดชเชิล ผู้นำเสียงข้างมาก และท่านวุฒิสมาชิกลอตต์ ข้าพเจ้าขอขอบคุณ ท่านทั้งหลายสำหรับมิตรภาพความเป็นผู้นำ และสิ่งที่ท่านทำให้ประเทศชาติของเรา

และในนามของประชาชนชาวอเมริกัน ข้าพเจ้าขอขอบคุณประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่ ให้การสนับสนุนแก่สหรัฐอย่างท่วมท้น สหรัฐจะไม่มีวันลืมเสียงเพลงชาติของเราที่บรรเลง ณ พระราชวังบั๊กกิ้งแฮม ตามท้องถนนในนครปารีส และที่ประตูแบรนเด็นเบิร์กของนครเบอร์ลิน เราจะไม่มีวันลืมภาพเด็กชาวเกาหลีใต้ที่ร่วมกันสวดมนต์อยู่หน้าสถานทูตของเราที่กรุงโซล หรือภาพการสวดแสดงความเห็นใจที่สุเหร่าแห่งหนึ่งในนครไคโร เราจะไม่ลืมนาที แห่งการยืนไว้อาลัยและวันแห่งการแสดงความโศกสลดในออสเตรเลีย อัฟริกาและละตินอเมริกา

เราจะไม่ลืมว่ามีประชาชนของอีก 80 ประเทศที่เสียชีวิตพร้อมกับประชาชนของเรา ชาวปากีสถานหลายสิบคน ชาวอิสราเอลกว่า 130 คน ชาวอินเดียกว่า 250 คน ประชาชน ทั้งชายและหญิงจากเอล ซัลวาดอร์ อิหร่าน เม็กซิโก และญี่ปุ่น และชาวอังกฤษหลายร้อยคน ไม่มีประเทศใดที่เป็นมิตรแท้ของอเมริกาเท่าสหราชอาณาจักร นี่เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่เรามารวมตัวกันเพื่อจุดประสงค์ที่ยิ่งใหญ่ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อ ร่วมแสดงความสมัครสมานในจุดประสงค์ดังกล่าว พร้อมกับอเมริกา และเราขอต้อนรับท่านนายกรัฐมนตรี โทนี่ แบลร์ ในคืนนี้

ในวันที่ 11 กันยายน ผู้เป็นศัตรูต่ออิสรภาพได้ทำสงครามกับประเทศของเรา ชาวอเมริกันเคยรู้จักสงครามกันมาแล้ว แต่ในระยะเวลา 136 ปีที่ผ่านมานี้ สงครามที่เกิดขึ้น ทั้งหมดเป็นสงครามที่เกิดขึ้นในแผ่นดินอื่น ยกเว้นสงครามที่เกิดขึ้น ในวันอาทิตย์วันหนึ่งของปี ค.ศ. 1941 ชาวอเมริกันเคยเห็นผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต ในสงครามมาแล้ว แต่ไม่ใช่ที่ศูนย์กลางของนครที่ยิ่งใหญ่ในเช้าวันที่เงียบสงบ ชาวอเมริกันเคยเห็นการทำร้ายแบบจู่โจมมาแล้ว แต่เราไม่เคยเห็นการโจมตี ต่อพลเรือนหลายพันคนเช่นนี้มาก่อน ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นกับเราภายในวันเดียว และในคืนนั้น โลกของเราก็เปลี่ยนไป โลกของเรากลายเป็นโลกที่อิสรภาพตกอยู่ภายใต้การโจมตี

ชาวอเมริกันมีคำถามหลายข้อในคืนนี้ ชาวอเมริกันกำลังถามว่า "ใครเป็นผู้ทำร้ายประเทศของเรา?"

หลักฐานทั้งหมดที่เรารวบรวมมาได้ล้วนแต่ชี้ไปถึงองค์กรก่อการร้ายที่รวมตัวกัน เป็นกลุ่มภายใต้ชื่อว่าอัล เคดา (al-Qaida) กลุ่มคนเหล่านี้คือฆาตกรชุดเดียวกับ ที่วางระเบิดสถานทูตอเมริกันที่แทนซาเนียและเคนยา และเรือ U.S.S. Cole ของสหรัฐ

อัลเคดาคือสัญลักษณ์ของความสะพึงกลัวเช่นเดียวกับที่มาเฟียเป็นสัญลักษณ์ของอาชญากรรม แต่เป้าหมายของอัลเคดาไม่ใช่เงิน แต่เป็นการสร้างโลกขึ้นมาใหม่ และปลูกฝังความเชื่อ ที่รุนแรงให้ประชาชนทุกหนทุกแห่ง

พวกผู้ก่อการร้ายถือธรรมเนียมปฏิบัติแบบอิสลามที่สุดกู่ซึ่งถูกปฏิเสธจากนักปราชญ์ และนักบวชชาวมุสลิม ขบวนการของคนเหล่านี้ บิดเบือนคำสอนของศาสนาอิสลาม ซึ่งสอนให้ประชาชนรักสันติสุข ผู้ก่อการร้ายออกคำสั่งให้สังหารชาวคริสเตียนและยิว ชาวอเมริกันทุกคน โดยไม่ต้องแยกแยะระหว่างทหารและพลเรือน รวมทั้งสตรีและเด็ก

คนกลุ่มนี้และผู้นำของกลุ่มที่ชื่อว่าโอซามา บิน ลาดิน มีความสัมพันธ์กับองค์กรอีกมากมายในประเทศต่างๆ รวมทั้งกลุ่มอิสลามจีฮัดในอียิปต์ และขบวนการอิสลามใน อุซเบกิสถาน

มีผู้ก่อการร้ายเช่นนี้หลายพันคนในกว่า 60 ประเทศ คนเหล่านี้ถูกเกณฑ์ มาจากประเทศและถิ่นพำนักของตนเอง และถูกนำตัวมาที่ค่ายต่างๆ เช่นที่อัฟกานิสถาน ที่ซึ่งคนเหล่านี้จะได้รับการฝึกยุทธวิธีการก่อการร้าย จากนั้น คนเหล่านี้จะถูกส่งตัวกลับ ไปยังประเทศของตนหรือไปซ่อนตัวตามประเทศต่างๆ ทั่วโลกเพื่อวางแผนที่ ชั่วร้ายและแผนการทำลายล้าง

ผู้นำของกลุ่มอัลเคดามีอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงในอัฟกานิสถาน และสนับสนุนให้รัฐบาล ตาลีบันควบคุมดินแดนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่อัฟกานิสถาน เรามองเห็นว่า อัลเคดากำหนด วิสัยทัศน์ ต่อโลกไว้อย่างไร

ประชาชนของอัฟกานิสถานถูกทำร้าย พลเมืองจำนวนมาก ต้องอดอยาก และมีจำนวนมาก ที่หนีออกนอกประเทศ สตรีไม่ได้รับอนุญาต ให้เรียนหนังสือในโรงเรียน ท่านอาจถูกจำคุก เพราะเป็นเจ้า ของเครื่องรับโทรทัศน์ ประชาชนจะประกอบ พิธีกรรมทางศาสนา ตามแต่ผู้นำจะบงการเท่านั้น ชายชาวอัฟกานิสถานอาจถูกจำคุกถ้าเคราของเขาไม่ยาวพอ

สหรัฐเคารพประชาชนชาวอัฟกานิสถาน เราเป็นแหล่งความช่วยเหลือ ทางมนุษยธรรม ที่ใหญ่ที่สุดสำหรับอัฟกานิสถานในขณะนี้ แต่เราขอประณามรัฐบาลตาลีบัน รัฐบาล ตาลีบันไม่ได้ปราบปรามประชาชนของตนเท่านั้น แต่ยังเป็นภัยคุกคาม ต่อประชาชนทุกหนทุกแห่ง ด้วยการเป็นผู้ให้การสนับสนุน ให้ที่พักพิงและจัดหาเสบียง ให้แก่ผู้ก่อการร้าย การที่รัฐบาลตาลีบันให้ความช่วยเหลือและส่งเสริมการทำลายชีวิตผู้คน เท่ากับว่ารัฐบาล ตาลีบัน กำลังทำลายชีวิตผู้คนเช่นกัน ในคืนนี้ สหรัฐอเมริกาขอประกาศ ข้อเรียกร้องต่อไปนี้ต่อรัฐบาลตาลีบัน

จงส่งตัวผู้นำกลุ่มอัลเคดาทุกคนที่หลบซ่อนในดินแดนของท่านให้แก่เจ้าหน้าที่ทางการของสหรัฐ

จงปล่อยตัวชาวต่างชาติทุกคน รวมทั้งพลเมืองอเมริกัน ท่านได้จำคุกนักข่าว เจ้าหน้าที่การทูต และเจ้าหน้าที่ผู้ให้ความช่วยเหลือชาวต่างชาติ ไว้ในประเทศของท่านอย่างไร้ความยุติธรรม

จงปิดค่ายฝึกผู้ก่อการร้ายทุกแห่งในอัฟกานิสถานอย่างทันทีและถาวร และส่งตัวผู้ก่อการร้ายทุกคน และคนอื่นๆ ภายในองค์กรก่อการร้ายที่เป็นฝ่ายสนับสนุนให้แก่เจ้าหน้าที่ทางการ

ให้สิทธิสหรัฐอย่างเต็มที่ในการเข้าตรวจค้นค่ายฝึกผู้ก่อการร้ายทุกแห่ง เพื่อที่เราจะได้แน่ใจว่าคนเหล่านี้ไม่ได้ปฏิบัติการแล้ว

จะไม่มีการต่อรองหรือหารือใดๆ ทั้งสิ้นเกี่ยวกับข้อเรียกร้องเหล่านี้ รัฐบาล ตาลีบันต้องปฏิบัติตามข้อเรียกร้อง และต้องกระทำทันที รัฐบาลต้องตัดสินใจว่าจะส่งตัวผู้ก่อการร้ายให้เราหรือจะร่วมชะตากรรมเดียวกับคนเหล่านั้น

ในคืนนี้ ข้าพเจ้าใคร่จะกล่าวต่อชาวมุสลิมทั่วโลกโดยตรงว่า เราเคารพศาสนาของท่าน ชาวอเมริกันหลายล้านคนนับถือศาสนาของท่านอย่างเสรี และยังมีผู้นับถือศาสนา อิสลามอีกหลายล้านคนในประเทศที่อเมริกาถือเป็นมิตร คำสอนของศาสนาอิสลามดีงามและ แสดงถึงสันติสุข ผู้ประกอบความชั่วร้ายโดยกล่าวอ้างพระอัลเลาะห์ถือได้ว่าดูหมิ่นพระอัลเลาะห์ ผู้ก่อการร้ายเป็นผู้ที่ทรยศต่อศาสนาของตนเอง และพยายามโจมตีศาสนาของตนเอง ศัตรูของอเมริกามิใช่เพื่อนพ้องชาวมุสลิมของเรา มิใช่มิตรสหายชาวอาหรับของเรา ศัตรูของเราคือเครือข่ายผู้ก่อการร้ายหัวรุนแรง และรัฐบาลทุกรัฐบาลที่ให้การสนับสนุนคนเหล่านี้

สงครามของเราต่อการก่อการร้ายเริ่มต้นที่กลุ่ม อัล เคดา แต่มันจะไม่ยุติลงที่นั่น มันจะไม่ยุติจนกว่าขบวนการก่อการร้ายระดับโลกทุกกลุ่มจะถูกค้นพบ หยุดยั้ง และประสบกับความพ่ายแพ้

คำถามที่ชาวอเมริกันตั้งขึ้นขณะนี้ก็คือ ทำไมพวกเขาถึงเกลียดเรา?

พวกเขาเกลียดในสิ่งที่เรามองเห็นอยู่ในรัฐสภาแห่งนี้ นั่นก็คือรัฐบาลประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน กลุ่มผู้นำของพวกเขานั้นมาจากการแต่งตั้งตัวเอง พวกเขาเกลียดเสรีภาพของพวกเรา เสรีภาพในการนับถือศาสนาของพวกเรา เสรีภาพในการพูดของพวกเรา เสรีภาพในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งแฃะการชุมนุมรวมทั้งเสรีภาพในการแสดงความขัดแย้งในกลุ่มของพวกเราเอง

พวกเขาต้องการโค่นล้มรัฐบาลปัจจุบันหลายชุดในประเทศมุสลิมอย่างเช่นใน อียิปต์ ซาอุดีอาระเบียและจอร์แดน พวกเขาต้องการขับไล่อิสราเอลออกไปจากตะวันออกกลาง พวกเขาต้องการไล่ชาวคริสเตียนและชาวยิวให้พ้นไปจากภูมิภาคอันกว้างใหญ่ของเอเซียและแอฟริกา

ผู้ก่อการร้ายเหล่านี้ไม่เพียงสังหารชีวิตมนุษย์เท่านั้น แต่ยังต้องการยุติวิถีทางแห่งชีวิต และด้วยวิถีแห่งความโหดร้ายเลวทรามทั้งมวล พวกเขาตั้งความหวังว่าอเมริกาจะหวาดกลัว ถอยห่างจากเวทีโลกและละทิ้งมิตรสหายของเรา พวกเขาต่อต้านเราเพราะเราขวางทางพวกเขา

เราจะไม่หลงกลลวงของพวกเขา เพราะเราเคยเห็นมันมาก่อน พวกเขาก็คือทายาทของแนวคิดฆาตกรของยุคศตวรรษที่ 20 ใช้วิธีพลีชีพมนุษย์เพื่อสนองแนวคิดอันแข้งกร้าวของพวกเขา พวกเขาละทิ้งคุณค่าทุกอย่างยกเว้นความกระหายในอำนาจ พวกเขาเดินตามแนวทางฟาสซิสต์ นาซีและระบอบเผด็จการเบ็ดเสร็จ และพวกเขาก็จะเดินตามแนวทางนั้นตลอดไปจนถึงจุดจบ นั่นก็คือหลุมศพในประวัติศาสตร์แห่งการโกหกหลอกลวง

ชาวอเมริกันตั้งคำถามว่า แล้วเราจะต่อสู้และได้รับชัยชนะในสงบครามครั้งนี้อย่างไร?

เราจะอำนวยการทรัพยากรทุกอย่างในกองบัญชาการของเรา ใช้วิถีทางการทุกทุกอย่างที่มี เครื่องมือทางข่าวสารทุกอย่าง อุปกรณ์ในการบังคับใช้กฎหมายทุกชิ้น อำนาจชักจูงทางด้านการเงินทุกชนิด และอาวุธในสงครามทุกประเภทเพื่อที่จะหยุดยั้งและเอาชนะเครือข่ายการก่อการร้ายระดับโลก

สงครามครั้งนี้จะไม่เหมือนสงครามที่มีกับประเทศอิรักเมื่อหนึ่งทศวรรษที่แล้วซึ่งเป็นปฏิบัติการปลดปล่อยดินแดนที่ได้รับผลสรุปและยุติที่รวดเร็ว มันจะไม่เหมือนสงครามทางอากาศเหนือน่านฟ้าของจังหวัดโคโซโวเมื่อสองปีก่อนซึ่งไม่มีกองกำลังภาคพื้นดินเข้าร่วมและไม่มีชาวอเมริกันแม้แต่คนเดียวต้องพลีชีพในการสู้รบ

การตอบโต้ของเราจะเกี่ยวพันในหลายๆ สิ่งมากกว่าการตอบโตและการโจมตีอันฉับพลัน ชาวอเมริกันทั้งหลายไม่ควรคาดหวังแค่การสู้รบครั้งเดียว แต่ควรคาดหวังถึงการรณรงค์อันยาวนานที่ไม่เหมือนกับสิ่งที่เราเคยเห็นมาในอดีต มันอาจจะรวมถึงการโจมตีอย่างรุนแรงที่ส่งภาพไปตามจอโทรทัศน์ อาจรวมถึงปฏิบัติการลับที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ พวกเราจะทำให้ผู้ก่อการร้ายขาดแคลนเงินทุนและหันหน้าเข้าประจันบานกันเอง พวกเราจะต้อนพวกเขาไปจากที่หนึ่งสู่อีกที่หนึ่งจนกว่าพวกเขาจะไม่มีที่หลบซ่อนและไม่ได้พักผ่อน และพวกเราจะจัดการกับประเทศที่จัดหาความช่วยเหลือหรือที่พำนักแก่ขบวนการก่อการร้าย ทุกชาติในทุกภูมิภาคขณะนี้ต้องตัดสินใจ ถ้าท่านไม่อยู่กับเรา ท่าก็อยู่กับผู้ก่อการร้าย จากวันนี้ต่อไป ทุกประเทศที่ยังให้ที่พำนักหรือให้ความช่วยเหลือการก่อการร้ายจะถูกสหรัฐอเมริกาตีตราว่าเป็นอาณาจักรที่เป็นภัย

ขณะนี้ประเทศชาติของเราได้รับสารแล้วว่าเราไม่มีภูมิคุ้นกันต่อการโจมตีแบบนี้ แต่เราจะใช้มาตรการณ์ทุกอย่างในการต่อต้านการก่อการร้ายเพื่อปกป้องชาวอเมริกัน

วันนี้ กระทรวงและสำนักงานของรัฐบาลกลางหลายสิบแห่งรวมทั้งสำนักงาน รัฐบาลของรัฐและท้องถิ่นต่างๆมีความรับผิดชอบต่อความมั่นคงของมาตุภูมิ ความพยายามเหล่านี้จะต้องผ่านการประสานงานในระดับสูง ดังนั้นในคืนนี้ข้าพเจ้าขอประกาศจัดตั้งตำแหน่งในระดับรัฐมนตรีร่วมคณะรัฐบาลที่รายงานโดยตรงต่อข้าพเจ้าขึ้นหนึ่งตำแหน่ง นั่นก็คือสำนักงานความมั่นคงมาตุภูมิ (Office of Homeland Security)

มาตรการณ์หล่านี้เป็นเรื่องสำคัญ แต่หนทางเดียวที่จะได้รับชัยชนะเหนือการก่อการร้ายในฐานะกระแสคุกคามวิถีทางชีวิตของพวกเราก็คือการหยุดยั้งมันและทำลายมันเสียในที่ซึ่งมันเจริญเติบโต

หลายคนคงจะต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวในความพยายามครั้งนี้ จากสำนักงานสอบสวนกลางรัฐบาลสหรัฐ (FBI) ไปจนถึงหน่วยข่าวต่างๆและหน่วยกองหนุนที่จะถูกเรียกตัวมาปฏิบัติหน้าที่ เราขอขอบคุณพวกเขาทุกคนและขอขอบคุณผู้ที่สวดมนต์ให้เราทุกคน และในคืนนี้ ณ ที่นี่ซึ่งอยู่ห่างจากตึกเพนตากอนที่ได้รับความเสียหายเพียงสองสามไมล์ ข้าพเจ้ามีสารให้แก่กองทัพของเรา จงเตรียมพร้อม ข้าพเจ้าได้สั่งให้กองทัพอยู่ในสาภาพที่เตรียมพร้อมและมันก็มีเหตุผลอยู่เบื้องหลัง ชั่งโมงที่อเมริกาจะทำการกำลังจะมาถึงและพวกท่านจะทำให้พวกเราภาคภูมิ

อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่การสู้รบของอเมริกาแต่เพียงฝ่ายเดียว และเดิมพันของมันก็ไม่ใช่เพียงแค่เสรีภาพของอเมริกาเท่านั้น แต่นี่เป็นการต่อสู้กับโลกทั้งใบ มันเป็นการต่อสู้เพื่อมวลมนุษยชาติ นี่เป็นการต่อสู้ของทุกๆ คนที่เชื่อในการพัฒนา ระบบการเมืองแบบพหุนิยม ความอดกลั้นและเสรีภาพ

เราขอเรียกร้องให้ทุกชาติร่วมกับเรา เราจะเรียกร้องและเราจะต้องการความช่วยเหลือของกองตำรวจ หน่วยงานด้านการข่าว ระบบต่างๆ ของธนาคารพาณิชย์ทั่วโลก สหรัฐอเมริกาขอขอบคุณที่หลายประเทศและหลายองค์กรระหว่างประเทศได้มีปฏิกิริยาโต้ตอบด้วย ความเห็นอกเห็นใจและด้วยแรงสนับสนุน นานาประเทศจากละตินอเมริกา เอเซีย แอฟริกา ไปจนถึงยุโรป ถึงโลกอิสลาม บางที่กฎบัตรนาโต (องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ) น่าจะสะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกของโลกได้ในช่วงนี้ นั่นก็คือ การโจมตีต่อหนึ่งประเทศเท่ากับการโจมตีต่อทั้งหมด

อารยประเทศกำลังรณรงค์อยู่เคียงข้างอเมริกา พวกเขาเข้าใจดีว่าหากการก่อการร้ายยังลอยนวลต่อไปได้โดยไม่ได้รับการลงโทษ เมืองต่างๆ ของพวกเขา ราษฎรของพวกเขาอาจจะกลายเป็นเป้าหมายต่อไป การก่อการร้ายไม่เพียงแต่จะทลายอาคารลงมาได้เท่านั้น แต่มันยังสั่นคลอนความมั่นคงของรัฐบาลที่เข้ารับหน้าที่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเราจะไม่อนุญาตให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น

คนอเมริกันกำลังตั้งคำถามว่า พวกเราคาดหวังอะไร?

ข้าพเจ้าขอเรียกร้องให้พวกท่านใช้ชีวิตตามปกติ จงกอดบุตรหลานของพวกท่าน ข้าพเจ้าทราบดีว่าราษฎรจำนวนมากใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ความหวาดกลัวในคืนนี้ และข้าพเจ้าขอเรียกร้องให้พวกท่านอยู่ในความสงบ แม้จะต้องเผชิญหน้ากับกระแสคุกคามที่ดำเนินอย่างต่อเนื่อง

ข้าพเจ้าขอเรียกร้องให้พวกท่านดำรงไว้ซึ่งคุณค่าเอกลักษณ์ของอเมริกา และโปรดรำลึกไว้ว่าเหตุใดหลายคนจึงมารวมกันอยู่ที่นี่ เรากำลังอยู่ในการสู้รบเพื่อหลักการของเรา และความรับผิดชอบประการแรกของเราก็คือการธำรงไว้ซึ่งหลักการดังกล่าวนั้น จะต้องไม่มีใครปฏิบัติอย่างไร้ความยุติธรรมหรือใช้วาจาที่เชือดเฉือนต่อคนอื่นเพียงเพราะ พวกเขาเหล่านั้นมีเชื้อชาติที่แตกต่าง มีศาสนาที่แตกต่าง

ข้าพเจ้าขอเรียกร้องให้ท่านสนับสนุนเหยื่อของโศกนาฎกรรมครั้งนี้ต่อไปด้วยความช่วยเหลือทุก ประเภท ผู้ที่ต้องการช่วยเหลือสามารถติดต่อศูนย์กลางข้อมูลที่ libertyunites.org เพื่อค้นรายชื่อกลุ่มองค์กรจัดหาความช่วยเหลือในนิวยอร์ก เพนซิลวาเนีย และเวอร์จิเนีย

เจ้าหน้าที่ FBI นับพันคนที่กำลังสอบสวนกรณีนี้อยู่ อาจจะต้องการความร่วมมือจากพวกท่าน และข้าพเจ้าขอร้องให้พวกท่านให้ความร่วมมือแก่เจ้าหน้าที่เหล่านี้

ข้าพเจ้าขอร้องให้พวกท่านอดทนต่อความล่าช้าและความไม่สะดวกซึ่งอาจมากับมาตรการณ์รักษา ความปลอดภัยที่เข้มงวด และขอร้องให้พวกท่านอดทนกับการต่อสู้ที่ยาวนาน

ข้าพเจ้าร้องขอการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องและความมั่นใจในระบบเศรษฐกิจอเมริกาจากพวกท่าน ผู้ก่อการร้ายโจมตีสัญลักษณ์แห่งความเฟื่องฟูของอเมริกา แต่พวกเขายังไม่ได้แตะต้องแหล่งที่มาของความเฟื่องฟู อเมริกาประสบความสำเร็จได้เพราะการทำงานหนัก ความคิดสร้างสรรค์และจิตใจด้านธุรกิจของประชาชนของพวกเรา เหล่านี้คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเศรษฐกิจของเราก่อนเหตุการณ์วันที่ 11 กันยายน และเหล่านี้ก็ยังคงเป็นความแข็งแกร่งของเราในวันนี้

สุดท้ายนี้ ขอความกรุณาสวดมนต์ต่อไปให้แก่เหยื่อก่อการร้ายและครอบครัวของพวกเขา ให้แก่ประชาชนที่อยู่ในเครื่องแบบของเราและแก่ประเทศอันยิ่งใหญ่ของเรา ผู้สวดมนต์ช่วยปลอบประโลมเราในเวลาแห่งความทุกข์ยากและจะช่วยทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นสำหรับ การเดินทางในอนาคตข้างหน้า

คืนนี้ ข้าพเจ้าขอขอบคุณชาวอเมริกันร่วมชาติในสิ่งที่พวกท่านได้ทำมาแล้วและจะทำในอนาคต และท่าสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษแห่งรัฐสภา ข้าเจ้าขอขอบคุณพวกท่านในสิ่งที่พวกท่านได้ทำไปแล้วและในสิ่งที่เราจะทำร่วมกัน

คืนนี้ เราเผชิญหน้ากับสิ่งท้าทายระกับชาติครั้งใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน เราจะร่วมกันพัฒนาความปลอดภัยในการเดินทางทางอากาศด้วยการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ประจำบน เครื่องบินโดยสาร และจะเพิ่มมาตรการณ์ใหม่ๆ เพื่อป้องกันการจี้เครื่องบิน เราจะทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมความมั่นคงและทำให้สายการบินต่างๆ ดำเนินการต่อไปได้ภายใต้ความช่วยเหลือโดยตรงระหว่างภาวะฉุกเฉินครั้งนี้

เราจะทำงานร่วมกันสำหรับมาตรการณ์ที่จะทำให้เศรษฐกิจอเมริกันแข็งแกร่ง ทำให้ประชาชนเดินทางกลับไปทำงานได้ดั่งเดิม

คืนนี้ ณ ที่แห่งนี้ เราขอต้อนรับสองผู้นำที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนิวยอร์ก ผู้ว่าฯ จอร์จ ปาตากี และนายกเทศมนตรีรูดี จูลิอานี ในฐานะสัญลักษณ์แห่งการแก้ไขปัญหา รัฐบาลของข้าพเจ้า จะทำงานร่วมกับสภาคองเกรส และผู้นำทั้งสองคนนี้เพื่อแสดง ให้โลก ได้เห็นว่า เราจะสร้างกรุงนิวยอร์กขึ้นมาใหม่

หลังจากที่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เพิ่งผ่านไป หลังจากหลายชีวิตถูกพรากและความหวังและโอกาสได้ถูกสังหารไปพร้อมกับพวกเขา มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องสงสัยว่าอนาคตอเมริกาจะน่าสะพรึงกลัวหรือไม่ บางคนอาจพูดถึงยุคแห่งความหวาดกลัว ข้าพเจ้าทราบดีว่าการต่อสู้ยังมีอยู่ข้างหน้า ภยันตรายจะต้องถูกเผชิญหน้า แต่ประเทศแห่งนี้จะตัดสินให้นิยามเวลาและยุคของเราเอง ไม่ใช่ให้พวกเขาพวกเขามาตัดสินและให้นิยาม ตราบเท่าที่สหรัฐอเมริกามุ่งมั่นและแข็งแกร่ง มันจะไม่มียุคแห่งความหวาดกลัว จะมีแต่ยุคแห่งเสรีภาพทั้งที่นี่และที่อื่นๆ ทั่วโลก

ความร้ายแรงอันยิ่งใหญ่ถูกกระทำต่อเรา เราสูญเสียครั้งสำคัญ และในความโศกเศร้าและความโกรธแค้นนี้ พวกเราได้ค้นพบปฏิบัติการและช่วงเวลาใหม่ของเรา เสรีภาพและความกลัวกำลังเข้าสงครามกัน พัฒนาการในเสรีภาพของมวลมนุษย์ ความสำเร็จในยุคของเรา และความหวังอันยิ่งใหญ่กว่าทุกยุคขณะนี้ขึ้นอยู่กับเราทั้งสิ้น ประเทศชาติของเรา ประชาชนในยุคของเราจะกำจัดกระแสคุกคามแห่งความรุนแรงอันดำมืดออกไปจากประชาชนของเราและอนาคต ของพวกเรา เราจะรณรงค์ทั่วโลกเพื่อจุด ยืนนี้โดย ใช้ความพยายามและ ความกล้าหาญ ของเราเป็นเครื่องมือ เราจะไม่มีวันเหนื่อยหน่าย เราจะไม่มีวันหวาดหวั่น และเราจะไม่มีวันล้มเหลว

มันเป็นความหวังของข้าพเจ้าว่าในช่วงเดือนปีข้างหน้า ชีวิตจะกลับคืนสู่ภาวะเกือบจะปกติ พวกเราจะกลับคืนสู่วิถีชีวิตและกำหนดการณ์เดิมๆ นั่นเป็นเรื่องที่ดี แม้ความโศกเศร้า จะจางลงเมื่อเวลาผ่านไป แต่ความตั้งใจของเราจะคงเดิม พวกเราทุกคน จะจดจำสิ่งที่เกิดขึ้น ในวันนั้น และคนที่เป็นเหยื่อของการกระทำ พวกเราจะจดจำ ช่วงเวลาที่มีข่าวเข้ามา จำที่ซึ่งพวกเรายืนอยู่ และสิ่งที่พวกเรากำลังทำอยู่ในช่วงนั้น บางคนอาจจะจดจำ ภาพของเปลวเพลิง เรื่องราวของการกู้ภัย บางคนจะจากรึก ใบหน้าและน้ำเสียง ที่จากไปแล้วชั่วนิรันดร์เอาไว้ในความทรงจำตลอดไป

สิ่งที่ข้าพเจ้าจะถือติดตัวตลอดไปนับจากวันนี้คือสิ่งนี้ มันเป็นตราตำรวจ ของผู้ชายที่ชื่อว่าจอร์จ ฮาวาร์ดซึ่ง เสียชีวิตที่ตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ขณะพยายามจะช่วยชีวิตผู้อื่น อาร์ลีนมารดาของเขา เป็นผู้มอบให้ข้าพเจ้าในฐานะ สิ่งของแห่งความทรงจำที่จะมีต่อบุตรชายของเธอ นี่เป็นสิ่งที่ช่วยให้ ข้าพเจ้าจดจำชีวิตจำนวนมากที่สูญสิ้นไป และภารกิจที่ไม่มีวันจบสิ้น

ข้าพำเจ้าจะไม่ลืมเลือนบาดแผลครั้งนี้ของประเทศ จะไม่ลืมผู้ที่ได้รับผลกระทบ ข้าพเจ้าจะไม่ยอมแพ้ จะไม่พักผ่อน จะไม่ผ่อนปรนในการต่อสู้ เพื่อเสรีภาพและ ความปลอดภัยของชาวอเมริกา

หนทางแห่งการพิพาทครั้งนี้ยังไม่ปรากฏแน่ชัด แต่ผลลัพธ์ของมันเด่นชัดอยู่แล้ว เสรีภาพกับความหวาดกลัว ความยุติธรรมและความโหดร้ายทำสงครามกันอยู่เสมอมา และเราก็ทราบดีว่าพระผู้เป็นเจ้าไม่เคยให้ความเป็นกลางต่อสงครามดังกล่าวนี้

เพื่อนชาวอเมริกันที่รัก เราจะเผชิญหน้ากับความรุนแรงด้วยความยุติธรรม จะสร้างหลักประกันเพื่อความถูกต้องในวิถีของเราแลฃะเราเชื่อมั่นว่าชัยชนะกำลังจะมาถึง สำหรับสิ่งที่รอพวกเราอยู่ข้างหน้า ขอพระเจ้าทรงประทานพร ให้แก่พวกเราและ ขอให้พระองค์ทรงสอดส่องดูแลสหรัฐอเมริกา


ขอบคุณ

 
1