สหประชาชาติ -- ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติคนปัจจุบัน กล่าวเมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมาว่ามติล่าสุดของคณะมนตรีฯ เกี่ยวกับการต่อต้าน การก่อการร้าย ให้สิทธิแก่ สหรัฐที่จะใช้กำลังทางทหาร เพื่อต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายในอัฟกานิสถาน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าคณะมนตรีฯ จะดำเนินการอย่างไรบ้าง เพื่อต่อต้านภัยคุกคาม ต่อความสงบสุข และความมั่นคง ของนานาชาติ ซึ่งเกิดจากสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน นาย ฌอง ดาวิด เลอวิตต์ ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติชาวฝรั่งเศสกล่าวว่าสมาชิกคณะมนตรีฯ บางประเทศเห็นว่าสหรัฐมีอำนาจที่จะดำเนินการทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อนำตัวผู้ก่อการ และผู้ให้การสนับสนุนการก่อการร้ายที่อาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์และกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ มาดำเนินการตามกฎหมาย
นายเลอวิตต์ได้กล่าวถึงข้อความในมติคณะมนตรีฯ ที่ 1368 ซึ่งได้รับความเห็นชอบ อย่างเป็น เอกฉันท์ เมื่อวันที่ 12 กันยายน 24 ชั่วโมงหลังการก่อการร้ายที่นิวยอร์ค วอชิงตัน และ เพ็นซิลเวเนีย
นายเลวิตต์กล่าวว่ามติดังกล่าวประณามการก่อการร้ายอย่างชัดเจนและเรียกร้องให้ "ทุกประเทศ ร่วมมือกัน เพื่อนำผู้ปฏิบัติการ ผู้วางแผนการ และผู้สนับสนุน การก่อการร้ายมาดำเนินการ ตามกฎหมายโดยด่วน" มติระบุว่า "ผู้มีส่วนในการให้ความช่วยเหลือ ให้การสนับสนุน หรือให้ ที่พักพิง แก่ผู้ปฏิบัติการ ผู้วางแผน และผู้สนับสนุน การกระทำเหล่านี้ จะต้องรับผิดชอบ ต่อการกระทำ ของตน" และเรียกร้องให้ประชาคมโลก "เพิ่มความพยายาม เป็นสองเท่า ในการป้องปราม การก่อการร้าย"
นายเลอวิตต์กล่าวว่า "ด้วยมติดังกล่าว สภายุโรป ซึ่งหมายถึงประมุข ของประเทศและหัวหน้า คณะรัฐบาล ของประเทศสมาชิกทั้ง 15 ประเทศของสหภาพยุโรป ได้แสดงท่าทีอย่างเป็นเอกฉันท์ ว่ารัฐบาลสหรัฐสามารถนำมตินี้ไปใช้ได้ถ้าคิดว่าตนควรใช้สิทธิในการป้องกันตนเองอย่างชอบธรรม"
นายเลอวิตต์กล่าวว่า คณะมนตรีความมั่นคงฯ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 15 ประเทศจะได้รับรายงาน สรุปจากเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของสหประชาชาติเกี่ยวกับเรื่องอัฟกานิสถานอย่างน้อย สัปดาห์ละครั้ง ในปัจจุบัน คณะมนตรีความมั่นคงประกอบไปด้วย สมาชิกถาวร 5 ประเทศได้แก่ จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา และ สมาชิกชั่วคราวอีก 10 ประเทศได้แก่ บังคลาเทศ โคลอมเบีย ไอร์แลนด์ จาเมกา มาลี มอริเชียส นอรเวย์ สิงคโปร์ ตูนีเซีย และยูเครน
โฆษกของสหประชาชาติรายงานเมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติ ที่เป็นคนท้องถิ่นได้ปิดล็อก อุปกรณ์สื่อสาร และสำนักงานของสหประชาชาติทั่วอัฟกานิสถาน ส่วนที่เมืองคันดาฮาร์ เจ้าหน้าที่ทางการอัฟกานิสถาน ได้เข้ายึดสำนักงาน ของสหประชาติ และองค์กรเอกชน ที่ให้ความความช่วยเหลือ ด้านมนุษยธรรมบางแห่ง
นายเฟร็ด เอ็คฮาร์ด โฆษกสหประชาชาติกล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา สหประชาชาติ ได้ส่งข่าว ครั้งสุดท้าย ถึงเจ้าหน้าที่ ของตนแนะนำให้เจ้าหน้าที่ ปฏิบัติตามคำสั่ง ของกลุ่มตาลีบัน ที่สั่งให้ พวกเขาหยุด การสื่อสาร กับโลกภายนอก เพราะการไม่ปฏิบัติ ตามคำสั่งดังกล่าว อาจทำให้ชีวิตของพวกเขา ตกอยู่ในอันตรายได้
เอ็คฮาร์ดกล่าวว่า นอกจากนี้ สหประชาชาติยังขอให้ กลุ่มตาลีบันอนุญาต ให้มีสถานีวิทยุ คลื่น ความถี่สูงเปิดดำเนินการ ในแต่ละท้องที่ๆ ละหนึ่งสถานีเพื่อให้ สามารถติดต่อสื่อสาร ได้บ้าง แต่สหประชาชาติยังไม่ได้คำตอบในเรื่องนี้
โฆษกสหประชาชาติกล่าวว่ากิจกรรมหลายอย่าง ของสหประชาชาติต้องหยุดลงอย่าง สิ้นเชิง ในขณะที่กิจกรรม บางอย่าง ยังคงดำเนินต่อไป องค์การอาหารโลก (WFO) ยังคงนำอาหารไปแจกจ่าย แก่ประชาชนกว่า 1 ล้านคนในอัฟกานิสถานแต่ต้องประสบความยากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่วันที่ 11 กันยายนเป็นต้นมา องค์การอาหารโลกได้นำอาหารไปแจกจ่ายกว่า 2,500 ตันแล้ว
การรณรงค์ฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคเริ่มขึ้นตามกำหนดเมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ ผ่านมา โดยใช้ เจ้าหน้าที่ จากกระทรวงสาธารณสุขของตาลีบัน สหประชาชาติคาดว่า เมื่อการฉีดวัคซีน สิ้นสุดลงในวันที่ 25 กันยายน จะมีเด็กกว่า 5 ล้านคนได้รับการฉีดวัคซีน
(HOME)
|