สงครามรูปแบบใหม่
โดย นาย โดนัลด์ เอช.รัมส์เฟลด์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สหรัฐอเมริกา
บทความตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทมส์
(28 กันยายน พ.ศ. 2544)


วอชิงตัน -- ประธานาธิบดีบุช กำลังรณรงค์ให้ประชาชนต่อสู้กับการก่อการร้ายซึ่งทำร้าย วิถีชีวิต ของชาวอเมริกัน บางคนเชื่อว่าสิ่งแรกที่ตกเป็นเหยื่อของสงครามใดๆ ก็คือความจริง แต่ในสงครามครั้งนี้ ชัยชนะประการแรกกลับเป็นการพูดความจริง และความจริงก็คือ สงครามครั้งนี้จะไม่เหมือนครั้งใดๆ ที่ประเทศของเราเคยเผชิญมา ความจริงแล้ว จะเป็นการง่ายกว่าถ้าเราจะบอกว่าสิ่งที่รอเราอยู่ข้างหน้าไม่ได้เป็นอย่างเช่นไร แทนที่จะบอกว่ามันจะเป็นอย่างไร

ผู้ทำสงครามครั้งนี้จะไม่ใช่กลุ่มแนวร่วมพันธมิตรขนาดใหญ่ที่ร่วมกันต่อสู้กับ กลุ่มประเทศที่เป็นศัตรู แต่จะเป็นการทำสงครามที่มีประเทศแนวร่วมที่สลับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ละประเทศ จะมีบทบาทที่แตกต่างกันและทำหน้าที่ที่แตกต่างกัน บางประเทศจะให้ การสนับสนุน ด้านการทูต บางประเทศให้การสนับสนุนทางการเงิน และบางประเทศ ก็สนับสนุน ด้านส่งกำลังบำรุง หรือการทหาร บางประเทศจะให้การสนับสนุนแก่เราอย่างเปิดเผย ในขณะที่บางประเทศ อาจช่วยเรา แบบส่วนตัว และเป็นความลับเนื่องด้วยความจำเป็นบางอย่าง ในสงครามครั้งนี้ ภารกิจจะเป็น ตัวกำหนด แนวร่วม ไม่ใช่แนวร่วมเป็นตัวกำหนดภารกิจ

เราเข้าใจดีว่าประเทศที่เราถือเป็นมิตรอาจช่วยเราในบางเรื่อง หรืออาจนิ่งเฉยในบางเรื่อง ในขณะที่การกระทำอื่นๆ ของเราอาจขึ้นอยู่กับ การข้องเกี่ยว ของบางประเทศ ที่เราเห็นว่า ไม่ค่อยเป็นมิตร กับสหรัฐ

ในเรื่องนี้ การ ที่มิตรประเทศของสหรัฐเช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดีอาระเบีย ตัดสินใจตัด สัมพันธ์กับรัฐบาลตาลีบันคือความสำเร็จครั้งสำคัญของการรณรงค์นี้ แต่การตัดสินใจ ดังกล่าวไม่ควร จะเป็นสิ่งที่ชี้ว่า ประเทศทั้งสองจะเป็นส่วนหนึ่ง ของการดำเนินการ ทุกอย่างของเรา

สงครามครั้งนี้ เราไม่จำเป็นต้องศึกษาเป้าหมายทางทหาร และทุ่มกำลังเพื่อ ยึดเป้าหมาย เหล่านั้น ตรงกันข้าม กำลังทหารของเราจะเป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือหลายๆ อย่างที่เราใช้เพื่อ หยุดยั้งบุคคล กลุ่ม และประเทศที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย

การตอบโต้ของเราอาจรวมถึง การยิงขีปนาวุธไปที่เป้าหมายทางทหารที่ใดที่หนึ่งในโลก และเป็นไปได้เช่นกัน ที่เราจะทำการตอบโต้ ทางอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยการสกัดกั้นการลงทุน ที่ไหลเวียนผ่านหน่วยธนกิจนอกชายฝั่ง เครื่องแบบที่ใช้ ในการต่อสู้ครั้งนี้ จะมีทั้งเสื้อสูท ของนายธนาคาร เสื้อนักเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และชุดพราง

นี่ไม่ใช่การทำสงคราม กับบุคคล กลุ่ม ศาสนา หรือประเทศใดประเทศหนึ่ง คู่ต่อสู้ของ เราเป็น เครือข่าย องค์กร ก่อการร้ายระดับโลกและประเทศที่ให้การสนับสนุน ซึ่งมุ่งมั่น ที่จะทำให้ประชาชนที่เป็นอิสระไม่มีโอกาสที่จะใช้ชีวิตตามแบบที่ตนต้องการ ในขณะที่เราอาจ ใช้กำลังทางทหาร เพื่อต่อสู้กับ รัฐบาลของประเทศที่ให้การสนับสนุนการก่อการร้าย แต่ในเวลาเดียวกัน เราก็อาจพยายามดึง ประชาชนที่อยู่ ภายใต้การกดขี่ ของรัฐบาลเหล่านั้น เข้าเป็นพวก ด้วยเช่นกัน

แม้กระทั่งคำศัพท์ที่ใช้ในสงครามนี้ก็จะแตกต่างออกไป ในขณะที่เรา "บุกอาณาเขตของศัตรู" เราก็อาจกำลังบุกระบบคอมพิวเตอร์ของพวกเขาด้วย ครั้งนี้อาจไม่มีการยึดหัวหาดของศัตรู แต่อาจเป็นการตัดโอกาสและลู่ทางของศัตรูมากกว่า จงลืมคำว่า "ยุทธศาสตร์ในการถอนกำลัง" ได้เลย เพราะเรากำลังพูดถึงการทำสงครามแบบยาวนานและไม่มีกำหนดเส้นตาย เราไม่มีกฎแน่นอนว่าจะ วางกองกำลังของเรา อย่างไร ตรงกันข้าม เราจะกำหนดแนวทางขึ้น มาเพื่อตัดสิน ว่าการใช้กำลัง ทางทหาร จะเป็นวิธี ที่ดีที่สุดที่จะบรรลุในวัตถุประสงค์ในเรื่องดังกล่าวหรือไม่

ประชาชนอาจจะได้เห็นการใช้กำลังทางทหารอย่างดุเดือดในบางครั้งแต่กลับไม่เห็นชัยชนะอะไร ที่เด่นชัด หรืออาจ ไม่ทราบ ถึงการดำเนินการบางอย่างที่นำไปสู่ชัยชนะที่สำคัญ ผู้ที่ทำ "การสู้รบ" ได้แก่เจ้าหน้าที่ ศุลกากรที่คอยสกัดบุคคลน่าสงสัยตามด่านชายแดน และนักการทูต ที่แสวงหา ความร่วมมือในการปราบปรามการฟอกเงิน

แม้ว่าสงครามครั้งนี้จะมีรูปแบบที่แตกต่างออกไป แต่มีอย่างหนึ่งที่เหมือนเดิม นั่นคือ อเมริกายังคง เป็นประเทศ ที่ไม่มีผู้ใดสามารถเอาชนะได้ เราจะได้ชัยชนะมา และชาวอเมริกัน จะได้ใช้ชีวิต ตามปกติ ไปทำงาน เลี้ยงลูก และสร้างความฝันอย่างที่พวกเรา ประชาชนที่เป็นอิสระ และยิ่งใหญ่ เคยทำ เสมอมา

1