ในคัมภีร์ของโมเสส(Moses)กล่าวว่า
โนอาร์(Noah) เป็นชาวเซไมท์(Semite) ได้อพยพจากแหลมอารเบียเข้าไปอยู่ในเมืองอูร์
เมื่อราว 7,000-9,000 ปีมาแล้ว โนอาร์เห็นผู้คนในสังคมเมืองต่ำทรามและว่าพระเจ้าจะทรงลงโทษ
จึงต่อเรือขนาดใหญ่ตามพระบัญชาของพระผู้เป็นเจ้า และขึ้นอยู่ในเรือพร้อมกับสัตว์ต่างๆ
อย่างละคู่ แล้วพระผู้เป็นเจ้าจึงทรงบันดาลให้แม่น้ำยูเฟรติสเอ่อท้นท้วมเมืองอูร์
ผู้คนล้มตายกันหมด ซึ่งน้ำท่วมครั้งนี้พระคัมภีร์ไบเบิ้ลเรียกว่า
The Great Flood (ตำนานไทอาหมก็กล่าวถึงน้ำท่วมโลกเช่นกัน)
โนอาห์รอดตาย และชาวยิวถือว่า ผู้สืบเชื้อสายจากโนอาห์ ก็คือชนชาติที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือก
โนอาห์เป็นชาวเซไมท์ ฉะนั้น ชาวอาหรับทั้งหลายรวมทั้งชาวยิวทั้งหมด
ที่อยู่ในปาเลสไตล์ตั้งแต่สมัยนั้นจึงเป็นชาวเซไมท์
โนอาห์มีบุตรชาย 3 คน
คือ เซม เฮม และยาเฟธ ผู้สืบเชื้อสายของเฮมมีชื่อว่า พวกเฮไมท์
ผู้สืบเชื้อสายของเซม มีชื่อว่าพวกเซไมท์ ต่อมาผู้สืบเชื้อสายทั้งหมดของโนอาห์ถูกเรียกตามชื่อบุตรชายที่ชื่อเซมเท่านั้น
คือ พวกเซไมท์ทั้งหมด ทั้งนี้เป็นเพราะโนอาห์ได้ขับไล่เฮม
ซึ่งมีบุตรชื่อ คานาอันออกไป คานาอันได้ไปอยู่ดินแดนปาเลสไตน์แต่สมัยนั้นเรียกว่าคานาอัน
บุตรชายหลายคนของคานาอัน
ได้เป็นหัวหน้าเผ่า คือ คานาอาไนท์ อมอไรท์ ซึ่งต่อมากลายเป็นชาวซีเรียน
และสมาริตัน ส่วนน้องชายของคานาอัน ได้ตั้งเผ่าอนาไมท์และฟิลิสไตน์(ปาเลสไตน์มาจากชื่อนี้)
ผู้สืบเชื้อสายต่อมาของน้องชายของคานาอันที่ชื่อว่า คุช ได้ตั้งราชวงศ์ของพวกเซไมท์ขึ้นเรียกว่า
อัคคาด(Akkad) , อัสซูร (Assur) , ไนนิเวห์(Niniveh) ปกครองดินแดนที่ชื่อว่า
อัสซีเรีย และบาบิโลเนีย ดินแดนอารยธรรมอันยิ่งใหญ่ที่รู้จักกันดีนั่นเอง
ส่วนผู้สืบเชื้อสายคานาอันนั้นยังอยู่ในปาเลสไตน์
ซึ่งได้ผสมกลมกลืนไปกับชนเร่ร่อนอื่น ๆ ที่ผ่านมาดินแดนแถบนี้
ทั้งนี้นักประวัติศาสตร์เชื่อว่า ดินแดนคานาอันเกิดขึ้นเมื่อราว
9,000 ปีมาแล้ว และชาวคานาอาไนท์มาตั้งหลักแหล่งอยู่ในตอนปลายยุคหิน
ชนเหล่านี้มีวัฒนธรรมสูง นับถือเทพเจ้าบาล และเมื่อราว 6,000
ปีมานี้ดินแดนคานาอัน(ปาเลสไตล์) เคยเป็นหนึ่งในสี่แห่งของอารยธรรมเก่าแก่ของโลก
มีทำเลด ีคุมทางเข้าสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีสภาพดินฟ้าอากาศและภูมิประเทศ
ดีกว่าอียิปต์ เพราะอียิปต์เป็นทะเลทราย
พระคัมภีร์ไบเบิ้ลกล่าวถึงอับราฮัมว่า
พระผู้เป้นเจ้าได้ทรงปรากฏตัวต่ออับราฮัม และทรงสัญญาว่า จะมอบดินแดนคานาอันให้แก่ผู้สืบเชื้อยสายของท่าน
ในศตวรรษที่ 20-21 และอับราฮัมได้อพยพจากเมโสโปเตเมียไปอยู่ที่คานาอัน
และตั้งหลักแหล่งอยู่ในเมืองสิเชม (Sichem) ซึ่งปัจจุบันเรียกว่าเมืองนาบลุส(Nablus)
ในขณะเดียวกันชาวเผ่าเบดูอิน ซึ่งเป็นพวกเซไมท์จากทุ่งหญ้าอารเบียได้หลั่งไหลเข้ามาในดินแดนคานาอันอย่างมากมาย
อับราฮัมวิวาทกับชาวคานาอัน เพราะพวกคานาอันไม่ไว้ใจและเรียกอับราฮัมว่า"อิบริม"(Ibrim)
ซึ่งเป็นที่มาของคำว่าฮีบรู(อิบริมหรือเฮบรูแปลว่า ผู้ข้ามฟาก
คงจะหมายถึงข้ามแม่น้ำยูเฟรติสมา) และคัมภีร์ว่า อับราฮัมได้ย้ายไปอยู่ที่อียิปต์
มีบุตรชายชื่อ อิสมาอิลกับอิซซัค(ไอแซค) จากภริยาคนละคน แต่หลังจากนั้นอับราฮัมได้กลับคืนไปอยู่คานาอันอีกครั้ง
เพราะเชื่อว่า ดินแดนคานาอันคือดินแดนแห่งพันธสัญญาที่พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบให้
อับราฮัมเข้ากับชาวคานาอันไม่ได
้แต่อิซซัคผู้บุตรกลับเข้ากับชาวคานาอันได้ อิซซัคมีบุตรชายชื่อ
ยาคอบ และยาคอบเรียกตัวเองว่า "อิสราเอล"(แปลว่าผู้มั่นคงในพระเจ้า)
ยาคอบมีบุตรชายชื่อว่าโยเซฟ และโยเซฟมีพี่น้อง 12 คน ซึ่งต่อมาได้ตั้งเผ่าอิสลาเอลขึ้น
12 เผ่า