Inflation Targeting (2)
ดังนั้น ตามระบบนี้จึงมีการแบ่งหน้าที่และความรับผิดชอบที่ชัดเจน
ระหว่างผู้กำหนดเป้าหมายกับผู้รับผิดชอบที่จะต้องปฏิบัติให้ได
้ตามเป้าหมาย และผู้ปฏิบัตินั้น มีความเป็นอิสระที่จะดำเนินการให้
ได้ผล ขบวนการที่มีความโปร่งใส ทำให้ประชาชนเข้าใจเหตุผลใน การตัดสินใจแต่ละครั้ง
ประเทศใดบ้างที่ใช้ Inflation targeting
ประเทศที่ใช้ระบบค่าเงิน ลอยตัวหลายประเทศใช้ระบบนี้ โดยนิวซีแลนด์เป็นประเทศแรกที่เริ่ม
ใช้ในปี 2532 หลังจากนั้นมีประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศ ที่ใช้ตาม
เช่น ประเทศแคนาดา ออสเตรเลีย อังกฤษ สเปนฟินแลนด์ อิสราเอล
และเม็กซิโก รวมทั้งประเทศซึ่งเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ และหันไปใช้
ระบบค่าเงินลอยตัวนี้ เช่น สาธารณรัฐเช็ค บราซิล โปแลนด์
นอกจากนี้ประเทศสหรัฐอเมริกา European CentralBank รวมทั้งประเทศในภูมิภาค
เช่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ได้เริ่มหารือกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะนำกรอบดังกล่าว
มาใช้ในอนาคต จึงนับได้ว่า Inflation targeting เป็นกรอบ นโยบายการเงินที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่งจากประเทศต่าง
ๆในขณะนี้
เครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ นอกเหนือจาก
InflationTargeting ทางเลือกอื่น
ๆ ในการดำเนินนโยบายการเงินได้แก่ (ก) การกำหนด เป้าหมายปริมาณเงินและ(ข)
การกำหนดเป้าหมายการขยายตัว ของเศรษฐกิจ จากประสบการณ์ในหลายประเทศพบว่า
เทคนิคในการ กำหนดเป้าหมายโดยใช้ตัวเลขปริมาณเงินนั้น ไม่ได้ประสิทธิผลดีเท่า
กับInflation Targeting เนื่องจากความต้องการสินเชื่อของภาคเอก
ชนและความสามารถของระบบสถาบันการเงิน
ในการปล่อยสินเชื่อใน แต่ละช่วงเวลาอาจมีความผันผวนได้มาก ทำให้การคาดคะเนผลที่จะเกิดขึ้นจากการเพิ่ม
หรือลดปริมาณ เงินได้ผล ที่มีความแม่นยำน้อยกว่าการใช้ Inflation
Targeting
ส่วนการกำหนดเป้าหมายโดยใช้ตัวเลขอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ
(อัตราเพิ่มของ GDP)ถึงแม้เป็นที่เข้า ใจได้ง่ายก็ตาม แต่เป็นเรื่อง
ที่กว้างขวางกว่ากรอบของนโยบายการเงิน จึงเป็นเรื่องยากที่ผู้ที่รับ
ผิดชอบภายในธนาคารกลางจะดำเนินการได้เพียงลำพัง ประเทศ ที่ใช้วิธีนี้จึงมีไม่มากนัก
ความสำคัญของเสถียรภาพระดับราคา เสถียรภาพด้านราคา(หรือ
อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำ) มีประโยชน์หลายด้านกล่าวคือ ช่วยให้ภาวะค่า
ครองชีพของประชาชนไม่ผันผวนเกินไปรักษาขีดความสามารถ ในการแข่งขันของผู้ส่งออก
สร้างบรรยากาศการผลิต การจ้างงาน และการลงทุน ช่วยให้อัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย
มีเสถียรภาพ การรักษาอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำไว้ได้นาน ๆ จึงมีผลทำให้เศรษฐกิจเติบ
โตได้ดีที่สุด และเป็นการเติบโตที่มีเสถียรภาพ
InflationTargeting และอัตราการเจริญเติบโตของประเทศ
การใช้อัตราเงินเฟ้อเป็นเป้าหมายหลักในการดำเนินนโยบายการ
เงินนั้น ไม่ได้หมายความว่าธนาคารกลางจะไม่ให้ความสำคัญกับ การลงทุน
หรือการจ้างงาน หรือ อัตราการเจริญเติบโตของประเทศ (GDP) แต่จากประสบการณ์ในประเทศต่าง
ๆ พบว่าการที่ประเทศ มีอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเป็นเวลานาน ในระยะยาว
จะทำให้ประเทศสามารถ เจริญเติบโตได้สูงที่สุด และเป็นการเจริญเติบโต
ที่มีเสถียรภาพ ซึ่งจะนำไปสู่การขยายการลงทุนและการจ้างงานได้มากที่สุด
ขั้นตอนการเตรียมการนำ Inflation Targeting
มาใช้การที่จะนำ Inflation targeting มาเป็นกรอบนโยบายการเงินธนาคารแห่ง
ประเทศไทยได้เตรียมการอย่างรอบคอบในหลายๆ ด้าน โดยได้ดำเนิน
การปรับปรุงโครงสร้าง ของการดำเนินนโยบายการเงิน โดยได้เสนอ
ปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อจัดตั้งคณะ
กรรมการนโยบายการเงินประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก และ ภายในธนาคารแห่งประเทศไทย
มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดทิศทาง การดำเนินนโยบายการเงิน ได้จัดทำแบบจำลองมหภาคMacro
Model เพื่อใช้พยากรณ์การเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อและอัตราการขยายตัว
ของระบบเศรษฐกิจ เป็นช่วง 2 ปีข้างหน้า ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญใน
การกำหนดนโยบายการเงิน
นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการพัฒนาเครื่องมือและกลไกการดำเนิน นโยบายการเงิน
ให้สอดคล้องเหมาะสมกับกรอบดังกล่าวโดยได้ทำการ พัฒนาระบบงานที่จะทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยสามารถที่จะเข้า
ไปซื้อขายพันธบัตรรัฐบาล ในตลาดเองโดยตรงเพื่อปรับปริมาณเงิน (หรืออีกนัยหนึ่งคือการทำOpen
Market Operation) โดยกระทำผ่าน ระบบสถาบันการเงินคู่ค้า (Primary
Dealers) และการเผยแพร่ข้อมูล เกี่ยวกับราคาซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละวัน(Yield
curve) เป็นประจำ เพื่อเป็นอัตรา ดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับตลาดเงิน
เป็นต้น
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย
|