การสมัครขอส่งบุคลากรเข้ารับการฝึกอบรมให้หน่วยงาน สถานศึกษา หรือผู้แทนคณะบุคคล ติดต่อแจ้งความจำนงค์เป็นการล่วงหน้า เพื่อทางค่ายฯ จะได้จัดทำกำหนดการอบรมประจำปีการศึกษา

(1) นักเรียน นักศึกษา ปกติระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 หรือ ปวช. ขึ้นไป รุ่นละ 80 คน

(2) ครู อาจารย์ ข้าราชการ พนักงาน และประชาชนทั่วไป รุ่นละ 60 คน

ระยะเวลาการอบรม หลักสูตร 3 วัน 2 คืน (48 ชั่วโมง) เข้าวันศุกร์ เวลา 16.00 น. ออกวันอาทิตย์ เวลา 16.00 น. หลักสูตรพิเศษปรับระยะเวลา

ตามความต้องการของหน่วยที่ขอเข้ารับการอบรม

มีครู อาจารย์ ช่วยควบคุม ดูแลนักเรียน นักศึกษาอย่างน้อยรุ่นละ 2 คน ถ้ามีผู้เข้าอบรมเป็นหญิงรวมอยู่ด้วย ต้องมีครู อาจารย์หญิง อย่างน้อย1 ท่าน ครู อาจารย์ ต้องร่วมดูแลโดยใกล่ชิด และปฏิบัติธรรมเป็นแบบอย่าง

ให้แก่นักเรียน นักศึกษา และจัดพาหนะรถยนต์ประจำ 1 คัน

(1) เครื่องแบบนักเรียน นักศึกษา แต่งในพิธีปิดการอบรม และรับวุฒิบัตร

(2) เครื่องแต่งกายชุดลำลอง ใช้เสื้อผ้าแบบสุภาพ สีไม่ฉูดฉาด ไม่รัดรูป

จนเกินไป เหมาะสมตามฤดูกาล และสะดวกต่อการฝึกภาคปฏิบัติ เช่น ชุดวอร์ม เสื้อยืด ไม่อนุญาตกางเกงขาสั้นทั้งหญิงชาย

สิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวที่ต้องนำมาด้วย เช่น สมุด ปากกาผ้าห่ม(ฤดูหนาว)

ผ้าเช็ดตัว สบู่ แปรง-ยาสีฟัน ยารักษาโรคประจำตัว เป็นต้น

(1) สิ่งเสพย์ติด อบายมุขทุกชนิด เช่น เหล้า เบียร์ บุหรี่ ยาบ้า อุปกรณ์การพนันทุกประเภท เป็นต้น

(2) เครื่องนันทนาการและเครื่องมือสื่อสาร เช่น วิทยุ เทป เครื่องดนตรี หนังสือการ์ตูน เริงรมย์ วิทยุสื่อสาร โทรศัพท์มือถือ เพจเจอร์ เป็นต้น

(3) อาหาร เครื่องดื่ม ขนม ของขบเคี้ยวต่างๆ

หากนำสิ่งของดังกล่าวข้างต้นติดตัวมา ทางค่ายฯ จะเรียกเก็บรักษาไว้ และจะคืนให้เมื่อเสร็จการอบรมแล้ว สำหรับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะ ให้อนุญาตพิเศษ

ที่พักและการเข้าพัก ทางค่ายจัดที่พักและอุปกรณ์ให้ในลักษณะเรียบง่าย

แบบวัด ผู้เข้ารับการอบรมต้องเข้าพักตามกลุ่มที่แบ่งไว้ เข้านอน และตื่นตามเวลาที่ค่ายฯ กำหนด พักอยู่ในค่ายฯ ด้วยอาการสงบ ไม่ส่งเสียงดัง หรือหยอกล้อก่อให้เกิดความรำคาญ รบกวนผู้เข้าร่วมปฏิบัติ และช่วยกันรักษาความสะอาดและธรรมชาติสิ่งแวดล้อม

อาหารและการรับประทานอาหาร ทางแม่ครัวจะจัดอาหารเรียบง่าย พอเพียงแก่ความจำเป็นของชีวิตตามแบบของผู้ปฏิบัติธรรม ผู้เข้าอบรมต้องปฏิบัติ ดังนี้

(1) รับมอบภาชนะและอุปกรณ์สำหรับรับประทานอาหาร 1 ชุด ใช้แล้วทำความสะอาดและเก็บรักษาด้วยตนเอง และส่งคืนเมื่อเสร็จการอบรม

(2) เข้าแถวรับอาหารจากแม่ครัว รอจนเสร็จพร้อมกัน กล่าวคำพิจารณาอาหารเสร็จแล้วจึงลงมือรับประทานอย่างตั้งใจ เสร็จแล้วรอพิจารณาและล้างภาชนะด้วยอาการอันสงบ

(3) รับประทานอาหารอย่างสำรวม มีสติ ไม่พูดคุย ระวังไม่ให้มีเสียงดัง รับอาหารมาแค่พออิ่มเพื่อไม่เหลือทิ้งขว้าง

(1) นั่งฟังด้วยความตั้งใจ ไม่พูดคุย ไม่เล่นหรือหยอกล้อกัน

(2) จดบันทึกหัวข้อ สาระสำคัญ ถามตอบด้วยความสุภาพ

(3) รักษาระเบียบ วินัย และมารยาทตลอดเวลาในการฟังและทำกิจกรรม

(1) ทางค่ายฯ จะแจ้งกฎ กติกา มารยาทในการอบรมให้เข้าใจก่อนการอบรม

(2) ผู้เข้ารับการอบรมฝึกใช้สติ ปัญญา สัมปชัญญะ และสมาธิ ควบคุมตนเองตลอดเวลา

(3) กรณีฝ่าฝืนหรือขาดสติ กระทำในสิ่งที่ไม่ร้ายแรง จะะมีการให้ใบเหลืองเป็นการเตือนสติ และเพิ่มบารมีโดยการทำสมาธิ

(4) กรณีเจตนาฝ่าฝีนกฎกติกา มารยาทร้ายแรง เช่น เสพของมึนเมา สูบบุหรี่ เล่นการพนัน ทะเลาะวิวาท เป็นต้น ไม่สามารถให้อบรมต่อได้ จะให้ใบแดง ไม่ผ่านการอบรม ไม่มีสิทธิรับวุฒิบัตร หรืออาจส่งตัวกลับก่อนจบการอบรม

(1) ค่าอาหาร ทางผุ้เข้ารับการอบรมออกเอง ให้ครูอาจารย์ ผู้ควบคุมจ่ายที่แม่ครัวโดยตรง

(2) ค่าใช้จ่ายอื่น ค่าบำรุงหรือถวายพระวิทยากร บริจาค หรือถวายตามศรัทธา

(1) ทางค่ายฯ ประเมินผลโดยการสังเกต ติดตามและรับฟังจากรายงานของผุ้เข้ารับ

การอบรม

(2) หน่วยงาน สถานศึกษา ประเมินจากรายงานของครูอาจารย์ผู้ควบคุมหรืออกแบบ

สอบถาม

การออกแบบสอบถามควรสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของค่ายฯ และจุดมุ่งหมายของกิจกรรมที่มุ่งสร้างค่านิยม ปรับทัศนคติ และเปลี่ยนแปลงลักษณะนิสัยตามหลักธรรม ซึ่งทวนกระแสวัตถุนิยมหรือบริโภคนิยมในปัจจุบัน ควรให้ครูอาจารย์ที่อยุ่ควบคุมนักเรียนอย่างใกล้ชิดเป็นผู้ออกแบบสอบถามและสรุป

ประเมินผลด้วย

ทางค่ายฝึกอบรมคุณธรรมจะออกวุฒิบัตรให้แก่ผู้เข้ารับการอบรมซึ่งผ่านเกณฑ์

มาตรฐานทุกกิจกรรมตามหลักสูตรที่กำหนดไว้.