|
ระบบข้อมูลที่สนับสนุนการทำงานในทุกหน่วยหน้าที่การทำงาน (functional units) ของกิจการได้ถูกกล่าวถึงในชื่อของ Enterprise Resource Planning systems หรือ ระบบ ERP ซึ่งหลายๆคนมองเห็นการทำงานของระบบ ERP ผ่าน ERP software อย่าง SAP R/3, Baan IV จาก Baan Software, MFG/PRO จาก QAD, Marshal จาก Ramco หรือ MAMIS จาก Mastek เป็นต้น กล่าวได้ว่า ERP software เป็นตัวแทนของเทคโนโลยี software ที่แพงที่สุด โดยจะเห็นได้จากการที่ต้นทุนส่วนใหญ่มักจะอยู่ในระดับสูง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว องค์กรที่นำ ERP มาใช้ จะต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนมากไปในการซื้อ servers ที่มีศักยภาพ, OS software, RDBMS และ network ที่มีประสิทธิภาพสูง ต้นทุนในเรื่องเครื่องคอมพิวเตอร์และค่า consultants ที่ implement ERP software ให้ ย่อมถือว่าเป็นการลงทุนที่จำเป็นด้วย ซึ่งกล่าวโดยสรุปก็คือ การตัดสินใจ implement ERP software ถือเป็นการลงทุนที่มีมูลค่าสูง ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว ระบบ ERP ไม่ได้ถูกวางแผนและตัดสินใจโดยหัวหน้าแผนกใดแผนกหนึ่ง หรือคณะกรรมการที่ตัดสินใจเกี่ยวกับด้านการจัดซื้อ แต่มักจะเป็นไปโดย board of directors หรือ CEO ขององค์กร สิ่งเหล่านี้สามารถเป็นตัวอธิบายได้ถึงความจำเป็นที่จะต้องมี courses, seminar, และ workshops ในเรื่องของ ERP ที่เกิดขึ้นมากมายในปัจจุบัน ขนาดของตลาด ERP software ได้ขยายขนาดขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา และถูกคาดหมายว่าจะมีอัตราการเติบโตถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยอย่างน้อยในผู้ค้ารายหนึ่งจะมียอดขายสะสมในช่วงปี 1996-2001 มากกว่า 60 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (USD) ซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ERP เป็นตัวแทนของส่วนแบ่งตลาด software ของโลกที่มีมูลค่าสูงและน่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก กลุ่มผู้นำที่อยู่ในตลาดนี้ประกอบไปด้วยบริษัท ERP software อย่าง SAP ซึ่งเป็นผู้นำอยู่ในขณะนี้, Oracle, BaaN, SAA, QAD, DataLogix, และ RAMCO โดยตลาดได้ถูกแบ่งออกอย่างคร่าวๆเป็นแบบ high-end, medium-end, และ low-end ในกลุ่ม high-end software ก็จะประกอบไปด้วย SAP R/3, Oracle Applications, BaaN IV, และ Marshal จาก Ramco Systems ส่วนในกลุ่ม medium-end สามารถพิจารณาถึง Cimpro จาก DataLogix และ SSA BPCS และถ้าจะมองถึงกลุ่ม low-end แล้ว MFG/PRO จาก QAD จะเป็นตัวแทนได้เป็นอย่างดี ซึ่ง high-end software อย่าง SAP R/3 นั้น จะถูกแบ่งออกด้วยความมีลักษณะเด่นในด้านการลงทุนใน software, IT Infrastructure และ การร่วมมือกับบริษัท consultant ระยะเวลาที่ใช้ในการ implement ระบบนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 12-18 เดือน จุดที่เห็นได้ชัดในเรื่องของการพัฒนาศักยภาพการทำงานของแต่ละแผนกในองค์กรนั้นจะสามารถเห็นได้ง่ายจากการใช่ ERP software ในกลุ่มระดับ high-end ในขณะที่กลุ่ม software แบบ low-end อย่าง MFG/PRO จาก QAD นั้น โดยทั่วไปสามารถ implement และใช้ได้ในระยะเวลาเพียง 12 สัปดาห์เท่านั้น อย่างไรก็ดี การลงทุนใน software และ hardware เป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องไปด้วยกันอย่างเหมาะสมในทุกๆ องค์กร KEY EVALUATION CRITERIA ในการพิจารณาซอฟต์แวร์ ERP ต้องทำการพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เพื่อนำมาเปรียบเทียบกันในแต่ละยี่ห้อ ซึ่งปัจจัยต่างๆ ที่ควรนำมาพิจารณาทั้งหมด 3 ด้านคือ 1.Product Evaluation ขั้นตอนต้องพิจารณาถึงลักษณะของผลิตภัณฑ์ ซึ่งก็คือ ซอฟต์แวร์ตัวนั้นๆ ซึ่งจะต้องพิจารณาถึง
2.Ease of Implementation การนำระบบเข้ามาพัฒนาในองค์กรก็เป็นปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง รวมทั้งบริการและการสนับสนุนภายหลังของ Software Provider และ Solution Provider แต่ละราย ซึ่งประกอบด้วยรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
3.Future Road Map นอกจากพิจารณาถึงลักษณะของผลิตภัณฑ์ และการให้บริการแล้ว การพิจารณา ERP แต่ละตัวยังต้องพิจารณาถึงแนวโน้มในอนาคตของ ERP ด้วย จึงสามารถพิจารณาจาก
|