สวัสดีท่านที่หลวมตัวเข้ามาอ่านทุกท่าน นี่เป็นนิยายเรื่องแรกที่ข้าพเจ้า kazoshi แต่งขึ้น อาจจะไม่ดีเท่าที่ควร และที่สำคัญยังไม่มีชื่อเรื่องเลย อยากจะให้ท่านผู้อ่าน ช่วยกันคิดชื่อเรื่อง และส่งมาประกวดกันเข้ามาได้ที่ kazoshi_me@yahoo.com ก็เชิญอ่านเลยละกัน

นิยาย

Past1

"ดูหน้าตาไม่ค่อยสดใสเลยนะ zo มีปัญหาอะไรรึเปล่า หมู่นี้ดูเงียบไปไม่มาช่วยงานที่ร้านเลย"

"ชั้นลาออกจากงานของริวแล้วแหละ Hak"

"นี่ก็หมายความว่าตกงานเหรอ" zo พยักหน้ารับหงอยๆ"ใช่ไปสมัครงานอยู่หลายที่แต่เค้าก็บอกให้รอ"zo เล่ารายละเอียดให้ hak ฟัง เพราะไม่รู้จะปิดบังไปทำไม ในเมื่อเค้าเป็น xxx สนิทกันที่สุดก็ว่าได้

"เรากลุ้มใจมากเลย กำลังต้องการใช้เงินด้วย" sugizo อดบ่นไม่ได้ "ไม่มีปัญหานี่ มาช่วยงานที่ร้านผมสิ ส่วนเงินเดือนน่ะ บอกมาเลยต้องการเท่าไหร่ หรือถ้าคุณมีความจำเป็นต้องใช้เงินเร็วๆยืมผมก่อนก็ได้นะ"sugizo มองหน้า hakuei อย่างซาบซึ้งใจเป็นที่สุด ทุกครั้งที่ sugizo มาหา hakuei จะต้องมีปัญหาตลอด และทุกครั้งเค้าก็ช่วยเหลือโดยไม่คิดสิ่งใดตอบแทน ยิ่งเป็นอย่างนี้ sugizo ยิ่งมีความเกรงใจ hakuei มากกว่าที่จะดีใจ ที่เค้ายื่นมือเข้ามาช่วย "แค่นี้ก็เกรงใจจะแย่แล้ว ถ้าอยากจะช่วยๆจริงๆหางานให้ผมดีกว่านะ" hakuei ทำถ้าคิด "มีน่ะมีแน่ แต่นายน่ะจะเอารึเปล่า" "งานอะไร"sugizo มีอาการดีใจจนออกนอกหน้า"สอนภาษาอังกฤษ" hakuei มองหน้าสุงิโซ่(อย่างไม่ค่อยมั่นใจ)" "o.k. เลย" "ทำไมใจง่ายจัง รู้แล้วเหรอว่าสอนยังไง ที่ไหน เท่าไหร่" sugizo ส่ายหน้าอรามดีใจที่ได้งาน ก็เลยตอบตกลงง่ายๆ "เงินเดือนแล้วแต่นายนะ เพราะเค้าเนี่ยค่อนข้างฐานะดีมากๆ เค้ามีน้องชายอยู่คนหนึ่ง เรื่องภาษานี่ไม่ค่อยดี ก็เลยอยากได้ครูมาสอนพิเศษให้ ก็ไม่ใช่เด็กอย่างที่คิดหรอกนะ อายุ 18 แล้ว แต่โซ่จะทำได้มั้ย เค้าว่าคฤหาสน์นี้มีเรื่องอาถรรพ์อยู่ตลอด ครูพิเศษเจอเรื่องสยองขวัญจนจับไข้หัวโกร๋น ... zo(ตะโกน)" "ฮะ..อะไรนะ" sugizo สะดุ้งสุดตัว "ฟังอยู่รึเปล่า" hakuei ถามพลางหัวเราะ " ฟังสิ" sugizo รู้สึกขนลุกขนพองอย่างประหลาดใจกับเรื่องที่ hakuei เล่า"ว่าไง ยังอยากที่จะทำงานที่นี้อยู่หรือเปล่า" "มีเรื่องแบบนี้จริงๆหรือhak" sugizoถามเพื่อความแน่ใจ "ไม่รู้สิ ยังไม่ได้เจอกับตัวเอง แต่บ้านเนี่ยน่ากลัวมากนะ ผมเคยไปมาครั้งนึง อยู่ซอยลึกเกือบจะถึงก้นซอยเชียวนะ บ้านหลังใหญ่มากกก...ปลูกมาหลาย 10 ปีแล้วล่ะ ต้นไม้ปกคลุมจนมองไม่เห็นตัวบ้าน ดูมันวังเวงเย็นยะเยือกยังไงไม่รู้สิ พูดแล้วขนลุก ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกนั้นเค้าอยู่กันได้ยังไง" sugizo พยายามชั่งใจตัวเอง และเลือกที่จะเผชิญกับเรื่องลี้ลับที่เค้าล่ำลือกันอย่างมั่นใจ ไม่มีสิ่งพวกนี้อยู่ในโลกที่พัฒนาแล้วอย่างแน่นอน "ตกลง ผมจะทำที่นี่" "ไม่กลัวหรอ" hakuei ถามลองเชิง "กลัวอะไร เด็กคนนั้นน่ะเหรอ เค้าสร้างเรื่องขึ้นมาน่ะสิ ผีสางเรื่องสยองขวัญฉันไม่เชื่อหรอก นายตอบตกลงเค้าไม่เลย เริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้เลย"

   .... ลุงชินยะ ผมได้งานทำแล้วนะ เป็นครูสอนภาษาอังกฤษเงินเดือนดีด้วย ตั้ง 150,000 เยนแหนะ " "เรานี่มันแน่จริงๆแฮะ ไม่กี่วันก็หางานทำได้ละ แล้วนี่จะเริ่มสอนเมื่อไหร่ล่ะ" "พรุ่งนี้ลุง เค้าจะให้คนมารับ แหมหรูจังเลยนะลุง คนมีเงินทำอะไรก็ดูดีไปหมดไม่เหมือนพวกจนๆอย่างเรา" sugizo นึกปลง

เย็นวันต่อมามีคนมารับ sugizo ที่บ้าน รถยุโรปราคาแพงเสียด้วย ตลอดทางเค้านั่งนึกไปเรื่อยเปื่อย เป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีโอกาสนั่งรถราคาแพง และมีคนขับให้นั่งอย่างสบาย แต่นั่นมันก็ไม่ตื่นเต้นเท่ากับสิ่งที่เค้าพบอยู่ในเวลานี้หรอก คนขับรถหน้าตาเฉยเมยคนนี้ ขับรถเข้ามาจอดในบ้านทรงสเปนเก่าแก่หลังหนึ่ง ซึ่งปลูกอยู่ในดงไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านใบหนาทึบจนดูร่มครึ้มไปทั่วบริเวณ รู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมาทันทีทันใด เมื่อมายืนอยู่บริเวณหน้าบ้าน ไม่สิ ต้องเรียกว่าคฤหาสน์ เพราะมันดูใหญ่โตจนดูหน้าสะพรึงกลัว เมื่อแหงนหน้าขึ้นไปมองชั้นบนที่เวลานี้ หน้าต่างทุกบานถูกปิดสนิทจนหมด ความเก่าแก่ของตัวตึกจึงทำให้เขารู้ขลาดๆขึ้นมามิได้ เมื่อหันกลับมามองคนขับรถเพื่อจะหาเพื่อนคุยกลบเกลือนเค้าก็ไม่พบคนขับรถเสีย แล้ว ข่มไม่ให้หวาดกลัว ก่อนจะก้าวเข้าไปตัวตึกช้าๆ จนกระทั่งมาถึงห้องโถงใหญ่ ที่ตกแต่งไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ที่มาจากของโบราณเกือบทั้งสิ้น "ไหนกันเจ้าหนูฮิซาชิที่จะให้เรามาสอน น่าจะมารอรับเรานะ" sugizo อดที่จะบ่นกับตัวเองมิได้ และนายจ้างที่เค้าอยากพบ ทำไมจึงไม่ปรากฏตัวเสียที ทั้งๆเค้าก็มาถึงบ้านแล้ว ดูอะไรๆมันช่างสับสนเสียจริงๆ เค้าคิดจนกระทั่ง "มาหาใครหรือคุณ"น้ำเสียงช่างเหมือนภูติผีปีศาจในหนังสยองขวัญซะนี่กระไร และเมื่อเค้าหันไป ร่างที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า หญิงสาวรึเปล่า ผมหล่อนยาว หน้าขาวจนซีด ตัวสูง ไม่แน่ใจว่าสูงด้วยรองเท้ารึเปล่า ปากและตาสีฟ้า หน้าตาไม่ต่างจากผีมากนัก หล่อนอยู่ในชุดสีฟ้ายาว ไม่ต่างอะไรกับยุคฝรั่งเศสกำลังเฟื่องฟู หล่อนหันมามองที่เค้าอย่างดุดันและจริงจัง เสมือนสัตว์ดุร้ายที่กำลังจ้องเหยื่ออันโอชะ เค้าถอยหลังกรู เมื่อหล่อนย่าง 3 ขุมเข้ามาหา "คุณยังไม่ตอบชั้นเลยนะว่าคุณมาหาใคร" สาวในชุดสีฟ้าถามเค้าเป็นครั้งที่ 2 "เออ...gackt จ้างให้ผมมาสอนภาษาอังกฤษให้กับฮิซาชิ แล้วคุณเป็นใครฮะ" เค้าถามออกไปเสียงสั่น เหงื่อแตกซึมจนเต็มใบหน้า "ครูสอนพิเศษคนใหม่รึ ฉันชื่อ mana " หล่อนแผดเสียงหัวเราะแหลมปรี๊ด จนแสบแก้วหู "เอ่อ คุณจะพาผมไปพบเค้าหน่อยได้มั้ยฮะ" "มาสิ ฉันจะพาไป" mana เดินสาวเท้าเข้ามาอย่างรวดเร็ว วูบหนึ่งเขาได้กลิ่นสาบในตัว mana อย่างรุนแรงซะจนหายใจไม่ออก ก่อนที่จะคิดอะไรออกไปอีก มืออันเย็นเฉียบและเล็บยาวแหลมสีดำสนิทก็คว้าหมับเข้าที่ลำแขนของเค้า ก่อนที่จะลากเค้าไปตามทางที่ค่อนข้างมืด เดินมาได้ไม่ไกลมากนัก mana ก็หยุดเดินและหันมา อ้าปากของหล่อนออกกว้าง ทำท่าเหมือนจะกัดที่ลำคอของเค้า เค้าพูดอะไรไม่ออก มันอึกอักอยู่ในลำคอเหมือนถูกตรึงไว้ด้วยมนสะกด พยายามจะออกเสียงร้องแต่ก็ไม่สามารถจะทำได้ "mana หยุดนะ" เสียงหนึ่งดังขึ้นและก่อนที่จะเกิดภาพสยดสยองกับลำคอของเค้า เมื่อตรงเชิงบันได มีร่างเล็กของใครคนหนึ่งยืนอยู่ เกือบจะในทันที mana มีอันต้องถอยอ่านออกไป เพียงได้ยินน้ำเสียงประกาศิตร้องห้ามเท่านั้น "ฮิซาชิ" mana อุทานเสียงอ่อนลง ใบหน้าดูหวาดกลัวจนทำอะไรไม่ถูก ชายหนุ่มร่างเล็กตัวขาวๆคนนั้น คือเจ้าฮิซาชิเองเหรอ ในความคิดของเค้า คิดอยู่เสมอว่าหน้าตากะโปโลดูไม่ได้ แต่ทว่าฮิซาชิคนนี้ไม่ใช่ ท่าทางวางตัวเงียบขรึม ใบหน้าก้อเรียบเฉยจนเย็นชา นี่น่ะหรือเด็กหนุ่มวัย 18 ปี "กลับไปเดี๋ยวนี้นะ บอกแล้วใช่มั้ย ว่าไม่ให้มาจุ้นจ้านที่นี่" ฮิซาชิ ตวาดใส่ mana อย่างไม่ใยดี จากนั้นหล่อนก้อหายไปในมุมตึกทันที sugizo เริ่มหายใจไม่ทั่วท้องและคิดว่าเค้าคิดถูกรึเปล่าที่รับงานนี้ ดูเจ้าฮิซาชิคนนี้ไม่ใช่เด็กหนุ่มะรรมดาเสียแล้ว จากท่าทางและสายตาที่มองมาดูท่าทางไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย "ขอโทษนะเรื่องเมื่อครู่นี้" ฮิซาชิกล่าวอย่างสุภาพ "mana เหรอ" sugizo ถาม "จำไว้ว่า ถ้าอยากอยู่อย่างสบายอย่าได้สอดรู้สอดเห็นเรื่องราวในบ้านหลังนี้ คุณมีหน้าที่เป็นครูสอนหนังสือเพียงอย่างเดียวเท่านั้น"

To be continue

1