Home                                                              มาลาท่าพระจันทร์ (ตอนที่6)

 

·        เราไปเล (ทะเลจ้า) (Beach guys)

 

            สวัสดีอีกครั้งครับวันนี้ผมกับไอ้พิพัฒและเพื่อน ๆ พี่ ๆ สมาคมศิษย์เก่าเฮากันเอ๊งกันเองจะเดินทางไกลกันในวันนี้ และจุดหมายปลายทางของผองเราหลายสิบก็คือชายหาดชะอำ (Cha-um Beach) ครับ การเดินทางก็โดยรถไฟ  (Train)ไม่แพงไม่ยุ่งยากอะไรมากมายเลยครับ

            วันนี้ผมกะไอ้พิพัฒนัดกันไว้ว่าจะใส่เสื้อสีเดียวกัน รองเท้าแตะเหมือนกันตามสไตร์หนุ่มเซอร์    แต่สปอตร์ครับ วันนี้เรามีทั้งเพื่อนไทยเพื่อนเทศและพี่ไทยแต่พี่เทศไม่มีครับหากเป็นพี่ชอบเทศก์ล่ะมีเพียบเลย   ณ ชานชาลาวันนี้เนืองแน่นไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ก็ใช่สิ ถ้ามากหน้าแล้วตาเดียวผมคนนึงหล่ะขอเผ่นก่อนล่ะครับ รถไฟยังไม่มาเลย พวกเราจึงเตรียมซื้อข้าวปลาอาหารแห้งใส่ย่ามให้พร้อม และทำการตรวจนับจำนวนผู้โดยสารทั้งก๊วนใหม่เพื่อความแน่ใจ ไม่นานนักรถไฟก็แล่นเข้าจอดทอดหางยาวพืด ห่างจากปลายจมูกผมสามเมตรได้ พวกผมยังไม่ทันได้ขึ้นกันเลย รถไฟคันนั้นก็ผ่านไปอย่างไม่แยแส โธ่ก็ขบวนเนี้ยจุดหมายปลายทางไม่ได้ไปชะอำนี่ครับแต่ไปที่อื่น อันนี้ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันนะว่าไปที่ไหน  เอาเป็นว่าระหว่างรอรถไฟผมจะเล่าเรื่องราวก่อนออกจากบ้านมาสถานีให้ฟังก่อนล่ะกันว่ามัน ๆ ยังไงก่อนที่จะไปชะอำเที่ยวนี้

 

                          “เดินทาง..ไปทะเล

ตื่นเช้าเตร่..หน้าเย่ใหญ่

สายแล้ว..แจวเลยฉัน..ข้ามหนนไว

แป๊บเดียวไซร้..รถมา...ฟ้าประทาน

            นั่งรถ...รถโคตรซิ่ง

เร็วจริง ๆ ..ซิ่งฉิบ..บิดหนุกหนาน

ติดไฟแดง..แห่งเดียว..เดี๋ยวไม่นาน

ก็ถึงฐาน..ที่นัด..ตัดใจลง

            เจอเพื่อน...มาแล้วด้วย

นั่งเม้าส์ด้วย...เป็นฝุ่นผง

นั่งรถมา...ป้ายหน้าลง

รับเพื่อนตรง..พัฒนาการ

            เดินทาง..ต่อไปเรื่อย

นั่งแล้วเมื่อย..ลุกเผาผลาญ

เดินเม้าส์ต่อ..รอไป..ไม่ได้การ

เคหะถาน..ป้ายหน้า..พากันไป

            ลุกไป..เข้าซุปเปอร์

ซื้อนมเก้อ..กินกันใหญ่

เดินทาง..เดินต่อไป

(ส)ถานีไซร้... ถึงซักที”

 

            โอ้โห! กว่าจะถึงสถานีรถไฟเดินทางไปเดินทางมาตั้งหลายต่อแน่ะครับ  ก็ต้องไปรับเพื่อนตั้งหลายคนเพราะพวกมันด้อยประสบการณ์มาสถานีไม่ถูกกันครับ เด็กกรุงเทพฯ ซะเปล่านะเนี่ย  และแล้วรถไฟที่เรารอคอยกันมานานก็จอดเทียบท่าชานชาลา เสียงนายท่าประกาศก้องถึงสถานที่หรือจุดมุ่งหมายของรถไฟคันนี้ที่จะไป ทันทีที่เสียงรถไฟไม่ฉึกฉักเงียบลงได้สักพักพวกเราทั้งเจ็ดสิบกว่าชีวิตก็เตรียมโกยสัมภาระเพื่อที่จะขนขึ้นรถไฟกันล่ะครับ ว่าแล้วเวลาก็ไม่คอยท่าที่นั่งที่เหลืออยู่ข้างหน้าก็ไม่คอยใคร กลัวไม่มีที่นั่งครับต้องรีบขึ้นไปจองก่อน

            เมื่อได้ที่นั่งกันแล้ว ผมกะไอ้พิพัฒก็คว้าอุปกรณ์ เครื่องเคียงหลายหลากลากออกมาจากเป้ใบใหญ่ จะอะไรซะอีกล่ะครับก็ข้าวเหนียวหมูปิ้ง กับทอปปิ้งสุดอร่อยของผมกะไอ้พิพัฒไง ไม่รู้เข้ากันตรงไหนนะเนี่ยแต่ก็พอถูพอไถกินกันตายได้ล่ะกัน รถไฟเริ่มออกแล้ว สุดเสียงของนายท่าที่ได้ยินเริ่มอ่อนลง อ่อนลง รถไฟเคลื่อนตัวออกจากสถานีอย่างช้า ๆ เหมือนประหนึ่งว่าให้แก้วตาซึ่งลาจากยาใจ (Daring) อำลาอาลัยกันอีกครั้งด้วยสายตาที่อาทร และท่าทางโบกสบัดกวัดไกวด้วยมือไหว ๆ อยู่ริบ ๆ เป็นการบอกว่าลาก่อน และไม่รู้ว่าจะได้พบกันเมื่อไหร่ ผมเริ่มคิดถึงแม่จัง ผมคงไม่ได้ลิ้มรสฝีมือแม่ตั้งสองคืนสามวันแน่ะ แต่ก็ดีจะได้ผอมซะบ้างเพราะผมคงกินอะไรไม่ลงนัก (คิดในใจ) ว่าแล้วผมก็หยิบปากกาขึ้นมานิราศเป็นกลอนประภาสชะอำฉบับเด็กหกขมำตีลังกา (up side down) ภาษาเด็กเจ้าบทเจ้ากลอนล่ะครับ

                                      “ เดินทาง..ไปชะอำ

                                    หน้าแดงกร่ำ..นั่งตากแดด

                                    นั่งบน..รถไฟแคบ

                                    เพื่อนสุดแสบ..พากันไป

                                                ฝั่งขวา..เป็นถนน

                                    ฝั่งซ้ายปน..บ้านหลังใหญ่

                                    ฉึกฉัก..เสียงรถไฟ

                                    บางซื่อ..ไซร้สถานี

                                                รถออก..ก็ฉึกฉัก

            หิวน้ำนัก..หิวแป๊ปซี่

            พิพัฒ..อารมณ์ดี

            เราปวดฉี่..ปวดจะตาย

                                                มองขวาเห็น..รถติด

            มากมลพิษ..จนสุดหาย

                                    ใจออก..หมอกกระจาย

                                    ควันพิษร้าย..ฟุ้งเต็มเมือง

                        พี่คนหนึ่ง..ยืนห้อยโหน

            เดี่ยวไมโครโฟน..จนหน้าเหลือง

            พูดหรั่ง..อย่างปราดเปรื่อง

            เราไม่รู้เรื่อง..ฟังอย่างเดียว

                        รถไฟจอด..ชานชาลา

            เสียงใครหว่า..ฟังแล้วเสียว

                                    มองฟ้า..ฟ้าสีเดียว

            ไร้สีเขียว..เปลี่ยวตามทาง

                        มองไป..เห็น B-Ray

       ถือบอลเท่ห์..อยู่ระหว่าง

ทางเดิน..เดินตามทาง

พูดเม๊าส์อย่าง..สบายใจ

            นายตรวจ..เดินมาเรื่อย

            หน้าดูเมื่อย..ตัวดูใหญ่

            ใส่แว่น..หนาจับใจ

            คนขายไก่...ก็เดินมา

                        มือหนึ่ง...หาบของขาย

            คือมือซ้าย...ถือตระกร้า

            ไม่ซื้อ...เดี๋ยวแม่ว่า

            ตังค์ให้มา...เหลือต้องทอน

                        รางสูง...เหนือดินพื้น

            เอาหน้ายื่น...เลยไม้หมอน

            เห็นน้ำคล้ำ...เป็นตอน

            สะพานกร่อน...ดูผุดี

            รถไฟ...ก็ฉึกฉัก

คิดถึงนัก...คน ๆ นี้

ใครเอ่ย...ใครคนดี

คน ๆ นี้...คิดถึงจัง

            ถึงพราง...บางบำหรุ

ก็สาธุ...อรหัง

สถานี...นี้ดีจัง

ไม้สองฝั่ง...ดูเขียวดี

            มองขวา...เจอ Caleb

ทั้งสองเล็บ...เปื้อนเต็มที่

ข้าวเหนียว...ปั้นพอดี

เขาปากปรี่...เคี้ยวสุดมัน

            มองทแยง...เห็นไอ้ไก่

หลับแล้วไง... ทำหน้าหัน

ไอ้แป๊ะ...กินหมูมัน

ข้าวกล่องนั้น...มันจริง ๆ

            รถไฟ...วิ่งไวเรื่อย

ลมเอื่อย ๆ.. ที่อ้อยอิ่ง

พัดแรง ๆ... จริง ๆ

พัดทุกสิ่ง...ปลิวกระจาย

            ท้องฟ้า...ปนเมฆขาว

นกบินกราว...สีหลากหลาย

ทุ่งหญ้า...ทางข้างซ้าย

เขียวสุดสาย...ตาของเรา

            David... เดินมาทัก

                           Hi! June จัก...แป๊ปเดียวเขา

                                                ก็เดิน...ดูดน้ำเปล่า

                                                เรากินข้าว...อย่างเมามัน

                                                            ศาลายา...สถานี

                                                มองอีกที...ไอ้ไก่นั่น

                                                นอนหลับ...จากขวาหัน

                                                เปลี่ยนซ้ายพลัน...จนฉันงง

                                                            เห็นวัด...สุวรรณาราม

                                                ทองอร่าม...งามระหง

                                                ป้ายนี้...ยังไม่ลง

                                                ถานีตรง...วัดสุวรรณ

                                                            นายตรวจ...เดินถือคีม

                                                เสียงปิ้ม ๆ... ซ้ายขวาหัน

                                                ยิ้มแฉ่ง...แต่งหน้ามัน

                                                ถึงแล้วนั่น...สถานี

                                                            ถึงคลอง...มหาสวัส

                                                ดีอีกนัด...บรรทัดไม่พอที่

                                                เห็นวัด...สวัสดี

                                                ก็ไหว้ที...แล้วขอพร

                                                            สถานี...วัดงิ้วราย

                                                แดดเริ่มคลาย...กายเริ่มอ่อน

                                                ง่วง ๆ ...แต่ไม่นอน

                                                อีกสิบก่อน...สิบเอ็ดโมง

                                                            เห็นป้าย...สถานี

                                                นครชัยศรี...มีติ้งโหน่ง

                                                ประกาศ...เสียงโทง ๆ

                                                เลยทางโค้ง...เย็นสบาย

                                                            รถไฟ..ฉึก ๆ ฉัก

                                                เมื่อยกันนัก...เมื่อยกันหลาย

                                                เพื่อนหลับ...กันเรียงราย

                                                เหลือกลุ่มร้าย...เล่นกันเรา

                                                เขียน ๆ ...แล้วก็เมื่อย

                                                เขียนเรื่อย ๆ... เมื่อยมือเฉา

                                                สถานี...ข้างหน้าเรา

                                                นครปฐมเก่า...สถานี

                                                            ถึงพระ...ราชวัง

                                                สนามจันทร์ตั้ง...อยู่กับที่

                                                เลยมา...ก็เห็นมี

                                                ศิลปากรนี้...มหาลัย

                                                            โพรงมะเดื่อ...สถานี

                                                ชื่อแปลกดี...มีโพรงไว้

                                                มะเดื่อ...เปรี้ยวหรือไม่

                                                ไม่รู้ไซร้...ชิมเอาเอง

                                                            ถึงคลอง ๆ ..บางตาล

                                                คลองคงหวาน...เหมือนส้มเช้ง

                                                รถไฟ..วิ่งโครงเครง

                                                ฉึกฉักเพลง...คนรถไฟ

                                                            ชุมทาง...หนองปลาดุก

                                                ปลาคงชุก ๆ.. แค่ไหน

                                                ไม่รู้ ๆ... ทำไม

                                                เยอะแค่ไหน...ก็ช่างมัน

                                                            บ้านโป่ง ๆ ...สมชื่อ

                                                โป่งร่ำลือ...คือไอ้นั่น

                                    ก็โอ่ง...ยังไงกัน

                                    โอ่งใบนั้น...ลายมังกร

                                                ถึงป้าย...นครชุมน์

                                    คนยืนรุม...หน้าสลอน

                                    มองไกล... ไกลเป็นดอน

                                    แดดเริ่มอ่อน...นอนเลยเรา

                                                ถึงคลอง...คลองตาคด

                                    ตาประชด...หรือว่าเขา

                                    ไม่ตรง...ซักทีเอ้า

                                    คดกี่เท่า...เดาล่ะกัน

                                                เห็นเพื่อน...เล่นอะไร

                                    มอง ๆ ...ไปเล่นด้วยฉัน

                                    เดินเป็ด.....เดินกันมัน

                                    ใครผ่านนั่น...ต้องเดินมา

                                                Katherine… ก็เดินเป็ด

                          Racho said ...ไม่เอาหนา

                                    ไม่กล้า...เลยวิ่งมา

                                    หัวเราะร่า...เริงพวกเรา

                                                ร้องเพลง...ก๊าบ ก๊าบ ก๊าบ

                                    เป็ดมาอาบ...น้ำหลังเขา

                                    เป็ดเดิน...เหมือนคนเมา

                          Caleb ...เขาเดินเป็ดมา

                                                เหล่ป้าย...โพธาราม

                                    หนึ่งสองสาม...หลับดีกว่า

                                    หลับไป...ก็หลับมา

                                    หลับตอนฟ้า...เมฆบางเบา

                                                ถึงถึง...เจ็ดเสมียน

                                    เจ็ดคนเพียร...เสมียนเก่า

                                    ช่างคิด..ช่างตั้งเอา

                                    มองภูเขา..เต็มตาดี

                                                ถึงกรมการ..ทหารช่าง

                                    คือค่ายภา..ณุรังสี

                                    ถึงสะพาน..ราชบุรี

                                    ป้ายบอกที..ฉันก็ดู

                                                สถานี..ราชบุรี

                                    เมืองนี้มี..โอ่งมากขู

                                    มากมาก..มากพรั่งพรู

                                    จบแล้วหนู...หลับไปเลย

                                                ต่อไป...ก็ไม่รู้

                                    ก็หลับ..อยู่หลับเฉย ๆ

                                    หลับไป...หลับจนเคย

                                    หลับจนเลย...สถานี

                                                ต่อไป..ไม่ได้จด

                                    เลยจบสด... ณ บัดนี้

                          The End… End ซักที

                                    ขอบคุณที่...อ่านมานาน”

           

            นี่แค่เดินทางไปนะครับยังยาวขนาดนี้   ผมว่าการเดินทางด้วยรถไฟนี่ก็ดีนะครับประหยัดดีแถมยังได้ชมธรรมชาติได้เต็มตาอีก แถมมีกิจกรรมการละเล่นกันบนรถไฟก็ได้ด้วยไม่ผิดกฎหมายครับ กว่าผมกับเพื่อน ๆ  พี่ ๆ     จะไปถึงที่พักก็ปาเข้าไปสี่ชั่วโมงเศษ ๆ ครับไม่นานเท่าไหร่เลยเห็นไหม เที่ยวเมืองไทยเนี่ย ท่านผู้อ่านที่นิยมของนอกลองหันมานิยมของไทยเที่ยวเมืองไทยแต่ไปกะคนนอก (ประเทศ) ก็เหมือนกับเที่ยวเมืองนอกได้เหมือนกัน อย่างผมไง ลองเที่ยวกันดูนะครับ  มุขนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ครับ

            ไม่ต้องแปลกใจนะครับว่าทำไมนาย Dave  ถึงเรียกผมว่าจูน ก็ มิถุนาภาษาอังกฤษเค้า  calling ว่า June ไงครับ แบบว่าอินเตอร์ครับ ก็เลยอยากมีชื่อหรั่งกะเค้ามั่ง อย่าว่ากันนะครับ

ครั้นเมื่อถึงจุดหมายปลายทางแล้วพวกเราก็ไม่ต้องกางเต๊นท์แต่อย่างไรเพราะพี่ ๆ เค้าเข้ามาปูทางให้เรียบร้อยแล้ว ทั้งเต๊นท์ใหญ่เต๊นท์เล็ก แบ่งชายหญิงซะเรียบร้อยโรงเรียนจีนเลยทีเดียว แบบว่าเที่ยวสำเร็จรูปเลยครับทริปนี้ ขอบอก! แหมไม่อยากจะบรรยายบรรยากาศเลยครับว่าสายลม (wind) แสงแดด (sun shine) ต้นไม้ (tree) แล้วก็หาดทราย (sand) มันเข้ากันได้ดีขนาดไหน เดี๋ยวจะมีใครอิจฉาผมที่ได้มาสูดมาดมอากาศจากธรรมชาติสะอาดใสสุดลูกหูตาไกล ณ ที่แห่งนี้  เอาเป็นว่าผมขอใช้ชีวิตแบบชาวเต๊นท์สำเร็จรูปซักสองคืนสามวันก่อนล่ะกันนะครับ ไว้ฉบับหน้าเราค่อยมาว่ากันใหม่ ตอนนี้ผมจะแปลงร่างเป็น Le o Na Do De Car Pri O ในหนังเรื่อง The Beach ก่อนล่ะกันเผื่อจะเจอสาวสวยแบบนางเอกในหนังเรื่องนี้บ้าง ไปล่ะครับ

                                   

                                                                                    ...........................

 

มิถุนายน คนเขียน

4 เมษายน 2544                                                                                                                                                                                      Home

           

 

 

 

 

 

 

 

 

 

1