ก่อนอื่นก็ต้องขอสวีดัส..สวัสดีท่านผู้อ่านก่อนนะครับ
ผมหรือดิฉันเป็นนักเขียนซะเมื่อไหร่
ก็แค่นักศึกษาปัญญาชนชั้นกลางก็ทำนองนั้นแหละครับ ที่เขียนนี่ก็เขียนเล่น ๆ
เป็นเชิงวิชาการนิดหน่อย พอสังเขปก็เท่านั้น
ณ เรื่องนี้ก็มีอยู่ว่า
อันชายงามนามเพราะชื่อพิพัฒน์ รูปสมบัติจัดว่าครบดูดีหลาย
หลงรักหญิงนามหนึ่งซึ้งมากมาย เจ้าหล่อนขายมาลัยใกล้โรงเรียน
เรื่องมันก็เริ่มต้นจากไอ้เพื่อนคนนี้ของผมนั่นแหละ
มาเข้าเรื่องกันดีกว่า ผมกับไอ้พิพัฒน์ ขอใช้คำไทยแท้แต่สมัยพ่อขุนหน่อยนะครับ
หวังว่าคงไม่ว่ากะไรกัน ผมกับไอ้พิพัฒเป็นเพื่อนกันและก็อยู่โรงเรียนเดียวกันก็แถว
ๆ ท่าพระจันทร์เนี่ยแหละครับ อย่าไปสนใจอะไรมากมาสนใจเรื่องไอ้พิพัฒน์มันดีกว่า
เพื่อนของผมคนนี้มันแปลกมากครับ
ยังไงนะหรอ ก็เมื่อผมมาโรงเรียนผมก็เห็นหน้ามันก่อนใคร ๆ
ซึ่งผิดปกติซะยิ่งกว่าหิมะตกที่เมืองไทยซะอีกที่มันมาโรงเรียนแต่เช้า
ผมก็เกิดสงสัยขึ้นมาหรือเรียกอีกนัยหนึ่งว่าเสือกอะไรประมาณนั้นแหล่ะ โธ่! ก็เพื่อนกันนี่ครับอะไรแปลกหูแปลกตาไปมันก็อดไม่ได้ที่จะอยากรู้อยากเห็น
จริงไหม
ผมจึงรีบรี่เดินตรงปรี่เข้าไปหามันแล้วถามอย่างที่เพื่อนทั่ว ๆ
ไปเค้าใคร่จะปาศรัยกัน
ผม : เฮ้ยพิพัฒน์ ทำไมวันนี้คุณมาโรงเรียนแต่เช้าได้อ่ะ
พิพัฒน์ : มึงไม่เกี่ยวอย่าเสือกเรื่องของกู
ท่าทางมันจะเอาจริงเอาจังมากครับแต่มันหารู้ไม่ว่าคนหัวใสอย่างผมรู้หมดแล้วครับ
ผมก็เลยตอบกลับไปแบบคนหัวไวว่า
ผม :
นั่นแน่รีบมาหาแม่ค้ามาลาหน้าหวานหรือไง ทำไม่บอกแต่กูรู้โว้ย
ทำมาเป็นปกปิดเพื่อนฝูงนะมึง (สุภาพได้ไม่นานครับ)
พิพัฒน์ : เออ! มึงรู้แล้วกูจะได้รีบไป
พอไอ้พิพัฒเดินไปได้ก็หน้าบานเป็นจานพวงผกาของดาลี่เลยครับ
ดอกนี่สะพรั่งเชียว พอถึงหน้าร้านดอกไม้ของแม่มาลาเท่านั้น
มันก็ฟาดคารมคมในฝักใส่ให้โครมเบ่อเร่อ
ลองฟังดูนะครับมันช่างหาข้อเรียบเทียบได้เนี้ยบจริง ๆ
อันความคิดวิทยาเหมือนอาวุธ ประเสริฐสุดซ่อนใส่เสียในฝัก
เป็นเพราะเจ้าคนเดียวที่ข้ารัก แม่ดอกรักแม่ดอกฟ้ามาลาลัย
แหม! กลอนมันมั่วดีจริง ๆ นะครับ
แต่คารมมันก็สามารถทำให้แม่มาลามาลัยร้อยห้อยเป็นพวงขายอยุ่ที่ท่าพระจันทร์หลงคารมได้เหมือนกัน
จนต้องต่อคารี้สีคารมเชือดเฉือนกันสนั่นอยู่หน้าร้านของน้องมาลาเป็นห้านานหกนานนั่นแหละครับ
แต่ของแม่มาลาเค้าก็ไม่น้อยหน้าไอ้พิพัฒเพื่อนผมเลยแม้แต่น้อย ลองฟังกันดูนะครับ
แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ เหมือนเข็มหมุดทิ่มแทงในใจนั้น
ถ้ามาแซวแล้วไม่ซื้อเดี๋ยวเจอกัน แม่จะหั่นเป็นชิ้นให้ดิ้นตาย
ยังไม่จบนะครับยังมีแถมท้ายอีกหนึ่งบทอีกต่างหาก
จนไอ้เจ้าพิพัฒมันหน้าซีดเผือดเหมือนไก่เจอน้ำเดือนก็มิปานเลยล่ะ
อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก แต่รสสากมากนะน้องอยากลองไหม
หรือว่าจะลองอีโต้ดูเป็นไง ถ้าสงสัยไม่เคลียร์เดี้ยคอยดู
พอแม่มาลาเค้าว่าจบเท่านั้นแหล่ะครับ
คุณพิพัฒก็เตรียมจัดแจงควักสตางค์ลงทุนซื้อมาลัยของน้องมาลาตั้งพวงแน่ะ
ผมละปลื้มมันเสียจริง ขนาดจีบหญิงทั้งทีลงทุนตั้งห้าบาท
แม่มาลาเธอก็หน้าบานขายได้แต่เช้า
แต่ไม่เป็นไรครับเค้าว่ากันว่าการจีบสาวคือการลงทุน ประหนึ่งอยากกินขนุนก็ต้องปีนต้น
ไม่ก็เดินไปซื้อมันมาเท่านั้นก็ได้กินแล้ว ใช่ไหม
เพื่อมิให้เป็นการเสียเวลาร่ายมนต์มหาเสน่ห์
นายพิพัฒน์หนุ่มมาดเทห์ก็วาดลวดลายหนุ่มลิเกต่อในบัดดล
แบบว่าน้ำตาลมิตรผลก็มิตรผลเหอะยังหวานไม่ได้ครึ่งเลยครับ
มาลัยมาลาหอม ชวนให้ พี่พิศ
หากพี่ไม่มีสิทธ์ ในเจ้า
โอ้แม่พฤกษา หัวใจข้า
เหี่ยวตาย
เป็นไงล่ะ
เป็นไงเป็นอึ้งกันเป็นแถว ๆ
ขนาดผมยังเคลิ้มเลยแล้วแม่มาลาล่ะครับจะทนได้อย่างไรกัน
มันช่างปากหวานปานมดตดให้ดมเสียจริง ๆ น้องมาลาเธอก็หน้าแดงไปนานเชียวครับ
ไม่ทันไรมันก็วาดลวดลายแบบกลอน ๆ ขึ้นมาอีกบท ใจร้อนจริงครับเพื่อนผม
ขนาดบทแรกผมก็อ่อนปวกเปียกไปหมดแล้ว แล้วบทสองล่ะครับจะหวานขนาดไหนกันนี่ โอ้ย! ผมล่ะปวดฉี่จริง ๆ ให้ตายเถอะ
มาลัยเมื่อเช้านี้ ช่างหอม ชวนชม
เหมือนแม่ค้าหน้าคม คนนี้
หอมไหมขอดม ได้หรือเปล่า
อื้หือ! อ่ะนะไห้มันได้อย่างนี้สิเพื่อนผม
เจาะประเด็นเสียจริงยิ่งกว่าไอ้เสือบุกเสียอีก
แบบว่าเวลาเสือเค้าบุกกันยังตะโกนบอกกล่าว แต่นี่อะไรไม่อ้อมไม่ค้อมเอาเสียเลย
ชวนได้หน้าตาเฉยเลยเพื่อนผม มันน่าจะถาม ชวนผมบ้างนะครับเพื่อนมันแท้ ๆ
ผมซะอีกที่ยังไม่ได้กินเลยตั้งแต่เช้าเพราะไปไม่ทันข้าวก้นบาตร
ถูกไอ้หยวกลูกป้าตองกับลุงกล้วยฟาดเรียบ ตัดหน้าไปตั้งกะเช้า
ท้องผมยังกิ่วหน้าก็ยังนิ่วอยู่เชียว แต่มันไม่ได้ชวนผมนี่ครับแห้วเลย นั่นแน่น้องมาลาเธอเตรียมจะออกท้องพระโรงแล้วครับ
เสียงเอื้อนส่งขึ้นบรรเลงแล้ว แหม! ลิเกโรงนี้ช่างมันหยดจริงเทียวครับ
มาลัยเมื่อเช้านี้ พี่ซื้อ
ห้าบาท
มันยังไม่หมดถาด เลยพี่
ซื้อไปหมดกระจาด ได้หรือเปล่า
ถ้าหมดคงดี น้องนี้อาจไป
เมื่อได้ฟังดังนั้น
พระอภัยนามไอ้พิพัฒน์ก็อุหมัดอุแหม่ในใจคิดยั้งชั่งใจไม่ทันนาน มือหนึ่งตบพระอุระ
มือสองจะควักกระเป๋า แบบว่าจ่ายหมดถาดเลยครับ
มีเท่าไหร่เจ้าบุญทุ่มคนนี้เป็นเหมาหมด
แล้วเราจะไปกินที่ไหนกันดีล่ะจ๊ะ ไอ้พิพัฒน์เอ่ยเสียงออดอ้อน
หวานเจี้ยบบบบ ส่วนน้องมาลาเค้าก็ตอบเป็นตำรับตำราภาษากลอนเหมือนเดิม
ประหนึ่งว่าจบมาจากสำนักเดียวกันเลยก็ว่าได้อ่ะนะครับ
ไปกิน เค เอฟ ซี ก็ดี
หรือเป็นเอ็มเค
สุกี้ ก็ได้
จะได้ซื้อเก็บไว้ ฝากแม่ ฝากน้อง
ไอ้พิพัฒน์ได้ยินเสียงแว่วดังแผ่วมาแต่ใกล้
ๆ ดังนั้น น้ำบ่อใหญ่ข้างในผิวกายก็แวกว่ายผุดผายกระเซ็น กระซิก แหม ! คุณเธอเล่นของหรั่งเลยแถมเจ้าหล่อนยังคิดจะซื้อฝากแม่
ฝากน้องอีก โห! ช่างเป็นหญิงที่กตัญญูเสียจริงครับ
ครั้นพูดจบ ลิเกฉากใหญ่ก็จบลง เสียงระนาดเอก ปี่ แตร กลอง กรับ ก็เก็บสำหรับสำรับเข้าหลังโรงไป
เหลือแต่คนเชิดหน้าโรง หน้าใสอย่างผม
ไปกันแล้วครับสองคนนั่นตามภาษาคนจบสำนักเดียวกัน
ไอ้พิพัฒน์ก็กระหยิ่มยิ้มย่อง ส่วนผมท้องก็ร้องไปตามระเบียบ
ก็ผมมันไม่รวยอย่างมันนี่ครับ ก็ต้องกินข้าวราดแกงแห้ง ๆ คาจานที่ร้านน้องส้มเจ้าเก่านี่แหละ
มันนี่ใจดำจริง ๆ นะครับ น่าจะชวนกันบ้าง
เป็นพิธีก็ดีให้ผมปฏิเสธเล่นสักคำสองคำอย่างไม่เต็มใจทำซักกะหน่อยก็ยังดี ว้าว! นั่นน้องส้มเอาแกงส้มกับชะอมชุบไข่มาให้ผมแล้ว ออเดอร์บาทวิถี
ชุบชีวิให้พระสังฆ์อย่างผมมาแล้ว
ขออนุญาตนะครับ เอาเป็นว่าจบตอนก่อนดีกว่า เพราะโบราณท่านว่าไว้ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง
เห็นด้วยไหมครับ เอาไว้ต่อกระดาษแผ่นหน้าล่ะกันนะครับ