บทที่ ๘ ( ปราบพกาพรหม ด้วยญาณ )
พระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นสู่พรหมโลก ท้าวพกาพรหมเห็นพระพุทธองค์เสด็จมา จึงเรียกร้องด้วยคำกระด้าง แล้วกำบังกาย แต่ก็มิสามารถกำบังกายได้ หมู่พรหมทั้งหลายก็หัวเราะเยาะเย้ย ท้าวผกาพรหมได้รับความอับอายยิ่งนัก แล้วพระพุทธเจ้าจึงเทศนาธรรมทรมานพกาพรหม และพรหม ๑,๐๐๐ ให้สำเร็จมรรคผล |
คำสวด
๏ ทุคฺคาหทิฏฺฐิภุชเคน สุทฏฺฐหตฺถํ พฺรหฺมํ วิสุทฺธิชุติ มิทฺธิพกาภิธานํ ญาณาคเทน วิธินา ชิตวามุนินฺโท ตนฺเตชสา ภวตุ เต ชยมงฺคลานิ |
คำแปล
๏ ปางเมื่อพรหมชื่อพกะผู้สำคัญตนว่ามีความบริสุทธิ์ มีรัศมีอำนาจ และมีฤทธิ์ไม่มีใครยิ่งกว่า เลยเกิดความเห็นผิดไปว่า ชีวิตของพรหมเป็นสัสสตะ เป็นอมตะ เป็นปฏิปักษ์กับพระพุทธศาสนา เปรียบเสมือนว่าถูกงูกัดเอาที่ข้อมือแล้ว พระจอมมุนีทรงใช้วิธีวางยา คือพระญาณ แสดงความรู้ที่กว้างกว่า และลึกกว่า ทำให้พรหมหายจากความเห็นผิด ได้ชัยชนะ ด้วยเดชแห่งองค์พระผู้พิชิตพรหมนั้น ขอชัยมงคล จงมีแก่ท่าน |
บทส่งท้ายคาถาพาหุง
คำสวด ๏ เอตาปิ พุทฺธชยมงฺคล อฏฺฐคถา โย วาจโน ทินทิเน สรเตมตนฺที หิตฺวานเนกวิวิธานิ จุปทฺทวานิ โมกขํ สุขํ อธิคเมยฺย นโร สปญฺโญ |
คำแปล
๏ แม้นรชนใดไม่เกียจคร้าน สวดก็ดี ระลึก ( คือบริกรรมในใจ ) ก็ดี ซึ่งพุทธชัยมงคลคาถา ๘ บทนี้ทุกวัน ๆ นรชนนั้นจะถึงละล่วงเสียได้ซึ่งอุปัทวะทุกสิ่งทุกอย่าง จะเป็นผู้มีปัญญาถึงชึ่งความสุขอันเป็นโมกษะ แล. |