บทความ
สาระข่าวสาร
ห้องสนทนา
ประกาศซื้อ-ขาย



:: ปัญญาประดุจดัง อาวุธ ::
 
ไก่ป่าสัญชาติเดิมธรรมชาติของสัตว์ป่า
กีฬาชนไก่มีมาแต่ครั้งใดยากที่จะสันนิษฐานได้ แต่การเลี้ยงไก่มีมานานกว่า 4,000 ปี จุดประสงค์แรกสุดของมนุษย์ในการนำไก่ป่ามาเลี้ยงเป็นไก่บ้านเพื่อเอามาเป็นไก่ชน จากหลักฐานที่พอหา ได้เชื่อว่าเลี้ยงมานานกว่า 1,000 ป
ี ผู้สันทัดกรณีประมาณกันว่า แหล่งกำเนิดของไก่ชนน่าจะอยู่ในเอเชียนี่เอง เหตุผลก็คือ นอกจากไทยแล้วยังมีประเทศใกล้เคียง เช่น พม่า ลาว เขมร ญวน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มีการเล่นตีไก่ กันทั่วไป แม้ที่ปราสาทนครวัด ซึ่งสร้างมาแล้วกว่า 1,000 ปี

ยังมีรูปสลักหินแสดงการตีไก่ปรากฏอยู่ ส่วนประเทศที่ไกลออกไปก็มีการเล่นตีไก่บ้าง ได้แก่ สเปน เม็กซิโก บราซิล ชิลี กัวเตมาลา เปรู ในอเมริกาใต้ถือว่า การชนไก่เป็นเกมกีฬาอย่างหนึ่ง การชนไก่ได้เข้าไปในยุโรปภายหลัง เข้าไปแพร่หลายอยู่ในอังกฤษและ ประเทศอื่น ๆ ที่นิยมกีฬาประเภทนี้ ส่วนในอเมริกานั้น เพิ่งจะนำเอาไก่เข้าไปเลี้ยงเมื่อสองร้อยกว่าปีมานี้เอง กีฬาชนไก่ในอเมริกาจึงเพิ่งมีขึ้นภายหลังประเทศอื่น ๆ ในยุโรป การผสมและคัดเลือกพันธุ์ การฝึกฝนและเลี้ยงไก่ได้กระทำกันอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศอังกฤษ

เมื่อประมาณ 400 ปีมาแล้ว
การชนไก่ได้รับความนิยมแพร่หลายมาก มีการคัดเลือกผสมและฝึกไก่ชนกันอย่างกว้างขวาง จนถึงกับว่าอาชีพเพาะ พันธุ์ไก่และฝึกไก่ชน เป็น อุตสาหกรรมที่สำคัญยิ่งอย่างหนึ่งของประเทศ การคัดพันธุ์และฝึกฝนไก่ชน ในประเทศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นยุคใดสมัยใดก็ตาม มักเน้นหนักในลักษณะที่คล้าย ๆ กันอยู่ 2-3 ประการคือ พยายามให้ได้พันธุ์ที่มีรูปร่างแข็งแรง อดทน เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว รวดเร็ว และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องคัดเลือกพันธุ์ และฝึกฝนให้มีสัญชาตญาณเป็นเพชรฆาตที่สามารถสังหารคู่ต่อสู้ได้ตลอดเวลา ส่วนวิธีการและกฏเกณฑ์ต่าง ๆ ที่จะให้ไก่ต่อสู้กันนั้น อาจแตกต่างกันไปบ้างแต่ละชาติแต่ละแห่ง บางทีเอาแต่เพียงอีกฝ่ายหนึ่งแพ้หรือไม่สู้ หรือหนี ก็ถือว่าชนะพอแล้ว แต่บางแห่งเอาแพ้ชนะกันถึงตาย สมัยก่อนชาวโรมันที่นิยมความรุนแรง ได้พลิกแพลงดัดแปลงให้กีฬาชนไก่เป็นกีฬาที่ตื่นเต้น เร้าใจมากยิ่งขึ้น มีการขลิบหรือตกแต่งเดือยเสียใหม่ เอาเหล็กกล้าหรือทองเหลืองมาแต่งจนแหลมคม ติดเข้าไปที่เดือยหรือแข้ง เวลาไก่ชนกัน ตัวไหนพลาดก็หน้าฉีก หรือคอขาดกระเด็นทันที

ในเมืองไทยเรา เริ่มเล่นไก่ชนมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย
การชนไก่ของไทยแต่โบราณถือเป็นการเล่นพื้นเมือง ประจำหมู่บ้านยามว่างจากการทำไร่ทำนา หรือในเทศกาลต่าง ๆ จะนำไก่ที่เลี้ยงไว้ตาม ใต้ถุนบ้านมาปล้ำกันเล่น เป็นการพักผ่อนคลายอารมณ์ ทำให้เกิดความตื่นเต้นสนุกสนาน พอเห็นไก่เหนื่อยก็พักให้น้ำ ตัวใดสู้ไม่ได้ก็จับเลิกกันไป ก่อนนำไก่มาชนกัน ก็ต้องเปรียบให้มีขนาดพอๆ กัน พันเดือย ปล่อยให้ตีกันแล้วจับแยกให้น้ำ สัญชาตญาณตามธรรมชาติของ ไก่ชนต้องต่อสู้ป้องกันตัวเองทุกตัว การปล้ำตีไก่ถ้าเกิดบาดแผลจากการจิกตีก็จะใช้สมุนไพร ขมิ้นกับปูนแดง ผสมกัน ทาที่แผล 2-3 วัน แผลก็จะหายเป็นปกติ จะเห็นว่าการชนไก่เป็นการพักผ่อนและกีฬาเท่านั้น

ตามประวัติศาสตร์ กีฬาชนไก่
อยู่ในความนิยมของบุคคลผู้มีใจเหี้ยมหาญ รักการต่อสู้ เป็นกีฬาของชายชาตรี ผู้สูงศักดิ์ จนถึงคนสามัญ ข้อนี้แม้แต่ในพงศาวดารก็สามารถยื่นยันได้ เช่น ในพระราชประวัติตอนหนึ่งของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ที่ใคร ๆ พากันเรียกว่า "พระองค์ดำ" ต้องเสด็จไปอยู่กับ พระเจ้าบุเรงนองในกรุงหงสาวดี ในฐานะตัวประกัน วันหนึ่งทรงเล่นชนไก่กับมังสามเกียด (พระมหาอุปราชา) ยุพราชของพม่า ปรากฏว่าไก่ของพระองค์ตีไก่มังสามเกียดพ่ายแพ้อย่างหมดทางสู้ มังสามเกียดคั่งแค้น เดือนดาลมาก จึงถึงกับเอ่ยปากถากถางว่า "ไก่เชลยนี้เก่งจริงหนอ" พระนเรศวรทรงโต้ตอบเป็นเชิงท้าทายอยู่ใน ทีว่า "ไก่เชลยตัวนี้ อย่าว่าแต่จะตีอย่างวันนี้เลย ตีเอาบ้านเอาเมืองก็ยังได้" นอกจากในพงศาวดารแล้ว

ในพระราชนิพนธ์เรื่องอิเหนาของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
ก็ยังทรงกล่าวเรื่องการชนไก่ไว้ในเรื่องรถเสนนั้น พระอินทร์ถึงกับลงทุนยอมจำแลงกายเป็นไก่ชน ให้พระรถเสนใช้ชนชนะไก่คู่ต่อสู้ทุก ๆ วัน เพื่อพนันเอาอาหารไปเลี้ยงมารดาในยามตกยาก ในเรื่องขุนช้างขุนแผน มีการกล่าวถึงตำบลสำคัญตำบลหนึ่ง ชื่อเขาชนไก่ ในเมืองกาญจนบุรี ที่ขุนแผนกับมารดาหลบหนีอาญาหลวงจากสุพรรณบุรีไปตั้งตัวจะเห็นได้ว่า ดั้งเดิมมาการชนไก่ไม่ใช่เรื่อง ของการพนันขันต่อใด ๆ ก็นำเอาไก่มาปล้ำกัน เจตนาแท้จริงก็เพียงการฝึกซ้อมให้ไก่รู้จักชั้นเชิงการต่อสู้ เพราะไม่มีเรื่องของเงินทองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ในปัจจุบันการชนไก่จะเป็นเรื่องของการพนัน ขันต่อเสียส่วนมาก

ตามกติกาการชนไก่
ไก่ที่พนันจะต้องชนกันไปจนกว่าจะแพ้ชนะกัน ซึ่งต้องใช้เวลามาก ไก่จะต้องชนกันหลายอัน หลายหลายยก หรือตามกติกาโดยทั่ว ๆ ไป จะชนะกัน 12 อัน หรือ 12 ยก ยกหนึ่งจะใช้เวลาราว 10-25 นาที ชนยกพักยก เนื่องจากการชนไก่ตามกติกานานถึง 12 อัน ทำให้ ไก่บอบช้ำมากและได้รับบาดเจ็บ บางตัวถึงตาย หากพิจารณาดูให้ถ่องแท้ก็จะเห็นว่าไม่ใช่เป็นเกมกีฬาเสียแล้ว แต่กลับเป็นการทรมานสัตว์ เมื่อมีการพนันขันต่อทำให้คนติด หมกมุ่นในการพนัน บางคนไม่เป็นทำมาหากิน ทั้งวันเพราะไก่ชนกัน 12 อัน จะใช้เวลาเกือบ 1 วัน เป็นการเสียเวลา สมัยก่อนสังเวียนหรือบ่อน ไก่ชนมีอยู่มากเกือบทุกตำบลหรืออำเภอก็ว่าได้ เพราะจัดตั้งได้โดยเสรี หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลเพ่งเล็งไป ในแง่ทรมานสัตว์ อันเป็นลักษณะของคนในอารยประเทศ และเห็นว่าถ้าปล่อยให้กีฬานี้รุ่งเรืองไป ชาวนาชาวไร่จะพากันหมกมุ่นไม่เป็นอันทำมาหากิน เอาแต่เล่นพนันกันจนหมดตัว เกียรติของชาวนาชาวไร่ทีถือ ว่าเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ก็จะลดลง ไม่น่าภูมิใจดังแต่ก่อน รัฐบาลสมัยนั้นจึงออกกฏหมายควบคุม การตั้งบ่อนไก่ว่า จะต้องขออนุญาตเสียก่อน และจะต้องปฏิบัติตามกฏหมายทุกประการ

 
Copyright @ 2004 leelapama.com All rights reserved
Please contact our:leelapama@yahoo.com with questions or comments.
1