พระไตรปิฏกฉบับ ดับทุกข์

ธรรมรักษา

                TPD060

ชำระศีลให้ดีก่อนจึงทำวิปัสสนา

 

พระพุทธเจ้า ประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน เมืองสาวัตถี ภิกษุรูปหนึ่งได้เข้าไปเฝ้าและกราบทูล ขอให้ทรงแสดงธรรม เพื่อปลีกตัวออกไปปฏิบัติคนเดียว ด้วยความไม่ประมาท พระพุทธองค์ตรัสว่า

 

“ภิกษุ! ก่อนอื่นเธอจงทำเหตุเบื้องต้น แห่งกุศลธรรมให้บริสุทธิ์ก่อน เหตุเบื้องต้นของกุศลธรรม คือ ศีลที่บริสุทธิ์ดี และ ความเห็นตรง

 

เมื่อใด ศีลของเธอบริสุทธิ์ดีแล้ว และความเห็นของเธอก็ตรงดีแล้ว เมื่อนั้นเธออาศัยศีล ตั้งอยู่ในศีลแล้ว พึงเจริญสติปัฏฐาน ๔ มีกาย เวทนา จิต และ ธรรม ต่อไป

 

ภิกษุ! เมื่อใด เธออาศัยศีลและตั้งอยู่ในศีลแล้ว จะเจริญสติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้โดยส่วน ๓ อย่างนี้

 

เมื่อนั้น เธอพึงหวังความเจริญในกุศลธรรมทั้งหลายอย่างเดียว ตลอดคืน หรือ วัน อันจะมาถึง ไม่มีความเสื่อมเลย”

 

ภิกษุนั้นยินดีชื่นชม รับไปปฏิบัติอยู่ไม่นาน ก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในโลก

 

ภิกขุสูตร ๑๙/๑๘๕

 

คำว่า “พุทธะ” ท่านแปลว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น และผู้เบิกบาน  โดยเฉพาะคำว่า “ผู้รู้” นั้น ดูเหมือนว่าจะสมพระนามยิ่งนัก เพราะทรงรอบรู้ทั้งเบื้องต่ำ เบื้องสูง ทั้งภายนอก และภายใน ชาติก่อน ชาตินี้ และชาติหน้า อย่างเจนจบ ลึกซึ้งจริง ๆ

ด้วยเหตุนี้ คำสอนของพระองค์จึงมีมากมาย ยังไม่เคยมีศาสดาองค์ใดในโลก จะมีคำสอนมากมายเท่าพระองค์เลย แต่ถึงแม้คำสอนจะมีมาก ลำดับของการปฏิบัติก็มีขั้นตอนที่ศาสนิกจะเลือกศึกษา และนำไปปฏิบัติ ให้เหมาะกับจริตนิสัย และ บารมีได้ทุกคน ตั้งแต่ระดับต่ำสุด จนถึงขั้นสูงสุด

อย่างในพระสูตรนี้ ผู้ที่จะเจริญวิปัสสนา อันเป็นข้อปฏิบัติเพื่อกำจัดกิเลสตัณหาให้หมดสิ้น สำหรับผู้ที่ยังมีบารมีอ่อน ท่านก็จะสอนให้สำรวมระวังศีลให้บริสุทธิ์บริบูรณ์หมดจดก่อน แล้วจึงค่อยก้าวขึ้นไปเจริญวิปัสสนาต่อไป

แต่ท่านผู้อ่านก็ต้องไม่ลืมว่า คำสอนแนวนี้ ท่านจะสอนแก่พระเป็นส่วนมาก ถ้าสอนชาวบ้านท่านก็จะตั้งต้นที่ ทาน คือ การเสียสละบริจาคด้านวัตถุก่อน แล้วจึงจะเลื่อนขึ้นมาศีล สมาธิ และ วิปัสสนาต่อไป

พระสูตรนี้ น่าจะเป็นบทเรียนที่ดี ของผู้ที่มักจะเห็นว่าศีลเป็นของต่ำ เป็นของไม่จำเป็น ไม่น่าสนใจ สู้เจริญสมาธิหรือวิปัสสนาไม่ได้ หรือไม่ก็คิดว่า เมื่อเราเจริญสมาธิและวิปัสสนาอยู่ ศีลมันก็มีอยู่พร้อมแล้ว เพราะไม่อาจจะล่วงศีลได้ แต่อย่าลืมว่า การปฏิบัติธรรมนั้น ในระดับปุถุชนแล้ว ไม่มีใครจะทำอยู่ตลอดวันตลอดคืนได้ ศีลจึงควรจะมีอยู่ตลอดเวลา

1