พระไตรปิฏกฉบับ ดับทุกข์
ธรรมรักษา
TPD050
พระพุทธเจ้า ประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวัน เมืองราชคฤห์
พราหมณ์อสุรินทกะทราบว่าเพื่อนรัก ไปบวชในสำนักพระพุทธเจ้า
เขารู้สึกโกรธแค้นพระองค์มาก ได้รีบไปเฝ้าถึงที่ประทับ เมื่อพบพระพุทธเจ้าแล้ว
เขาก็ระดมคำด่าอันหยาบคาย ใส่พระองค์จนนับไม่ทัน
พระพุทธเจ้าทรงนิ่งให้เขาด่าข้างเดียว เขาด่าจนพอใจแล้วจึงคิดว่า พระพุทธเจ้ายอมแพ้ขาแล้วจึงพูดว่า
พระสมณะ! เราชนะท่านแล้ว พระสมณะ! เราชนะท่านแล้ว
พระพุทธองค์ตรัสตอบด้วยพระเมตตาว่า
คนพาลกล่าวคำหยาบด้วยวาจา ย่อมสำคัญว่าชนะท่าเดียว
-
แต่ความอดกลั้นไม่ได้ตอบโต้
เป็นความชนะของบัณฑิต
-
ผู้ใดโกรธตอบคนผู้โกรธแล้ว
ผู้นั้นเป็นคนเลวกว่าผู้โกรธก่อน
-
ผู้ไม่โกรธตอบคนที่โกรธแล้ว
ชื่อว่าชนะสงครามที่ชนะได้ยาก
-
ผู้ใดรู้ว่าผู้อื่นโกรธแล้ว
เป็นผู้มีสติสงบอยู่ได้ ย่อมเกิดคุณทั้งสองฝ่าย
สุดท้าย พราหมณ์อสุรินทกะเกิดความเลื่อมใส
ทูลขอบวช ครั้นบวชแล้วไม่นาน ปลีกตนไปบำเพ็ญเพียร ก็บรรลุเป็นพระอรหันต์.
อสุรินทกสูตร ๑๕/๒๒๖
เรื่องความโกรธนี้ ความคิดของชาวบ้าน มักจะสวนทางกับชาววัด
ชาวบ้านถือว่าใครด่าเรา แล้วเราได้ด่าตอบจึงถือว่าสาสมกัน
ยิ่งด่าจนอีกฝ่ายเงียบหมดคำด่า ถือว่าเป็นชัยชนะที่เด็ดขาด
แต่ทางพระหาได้ถืออย่างนั้นไม่
เมื่อมีใครด่าเรา ถ้าเรานิ่งเฉยได้ สงบได้ทั้งกายวาจาและใจ
ถือว่าเป็นชัยชนะที่ยอดเยี่ยม เพราะถือว่าชนะกิเลส คือความโกรธของตนเองได้
พระพุทธเจ้าและพระอริยเจ้าทั้งหลาย
ท่านใช้วิธีนี้และก็ได้ผลดีมาตลอด ควรที่ชาวพุทธจะดำเนินตาม
เวลาเป็นของมีค่า
อย่าปล่อยให้หมดไปกับสิ่งที่ไร้สาระและทำลายตนเอง