พระไตรปิฏกฉบับ ดับทุกข์

ธรรมรักษา

                TPD043

 

ธรรมที่ไม่เสื่อมของภิกษุ

 

พระพุทธเจ้า ประทับอยู่ ณ ภูเขาคิชกูฏ เมืองราชคฤห์ ได้ทรงแสดงถึงธรรมที่ภิกษุปฏิบัติแล้ว จะมีแต่ความเจริญฝ่ายเดียว ไม่มีความเสื่อมเลย เรียกว่า อปริหานิยธรรม มี ๗ ประการคือ

 

๑.     หมั่นประชุมกันเนืองนิตย์

๒.    พร้อมเพรียงกันประชุม

๓.    ไม่บัญญัติสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่บัญญัติขึ้น

๔.    เคารพภิกษุที่เป็นประธาน

๕.    ไม่ลุอำนาจแก่ความอยากที่เกิดขึ้น

๖.     ยินดีในเสนาสนะป่า

๗.    ระลึกถึงเพื่อนพรหมจารีผู้มีศีล ที่ยังไม่มาขอให้มา ที่มาแล้วขอให้อยู่เป็นสุข

 

ภิกขุสูตร ๒๓/๒๓

 

            ธรรม ๗ ประการนี้ ถ้าวัดใด สำนักใดปฏิบัติได้ ความเสื่อมก็ย่อมไม่เกิดขึ้นกับวัดนั้นหรือสำนักนั้นอย่างแน่นอน ผู้ที่ยังไม่แน่ใจว่า ธรรม ๗ ประการนี้ ถ้าปฏิบัติได้แล้ว จะไม่ทำให้เสื่อมได้จริงหรือ?

            ก็ขอได้โปรดพิจารณาด้วยความเป็นจริง ถึงวัดหรือสำนักต่าง ๆ ที่เสื่อมความเคารพนับถือของพระและชาวบ้านดูว่า วัดหรือสำนักเหล่านั้น มีคุณธรรมนี้อยู่ในหัวใจของตน ของคนที่อยู่ในวัดและสำนักเหล่านั้นหรือไม่?

            ธรรม ๗ ประการนี้ มิใช่ว่าจะใช้ได้เฉพาะภายในวัด หรือสำนักปฏิบัติธรรมเท่านั้น แม้ชาวบ้านที่รวมกันเป็นหมู่คณะก็นำไปใช้ได้เช่นเดียวกัน เพียงแต่ประยุกต์บ้างข้อให้เหมาะสมเท่านั้น

            นี่ก็เป็นเครื่องยืนยันถึงความเป็น “อกาลิโก” ของสัจจธรรม ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ แม้จะล่วงกาลผ่านสมัยมาตั้งหลายพันปี ก็ยังแจ่มและแจ๋วอยู่ตลอดกาล

            เอ้า... วัดหรือสำนักใด ขึ้นต้นก็ดูฟู่ฟ่าดี มีคนขึ้นคึกคักหนาแน่น แต่ไม่นานนักก็จิดจางโรยรา หาคนเข้ายาก ก็ขอได้โปรดนำเอาธรรมทั้ง ๗ ข้อนี้ เข้าไปเปรียบเทียบดู แล้วยพยายามขัดเกลียวเข้า และปฏิบัติอยู่อย่างสม่ำเสมอ ความเจริญก็ย่อมจะเกิดแก่วัด หรือสำนักนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย ขอแต่ว่าอย่าทำเป็น “หน้าไหว้ หลังหลอก” หรือ “มือถือสาก ปากถือศีล” ก็แล้วกัน รับรองว่าไม่เสื่อม และต้องเจริญแน่ ๆ.

 

 

1