พระไตรปิฏกฉบับ ดับทุกข์
ธรรมรักษา
TPD004
พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน เมืองสารถี พระมาลุงกยบุตร ได้ไปเฝ้าทูลถามปัญหา
เรื่องโลกเที่ยงหรือไม่เที่ยง เรื่องสัตว์ตายแล้วเกิดหรือตายแล้วสูญ
เรื่องชาติหน้ามีหรือไม่มี เป็นต้น พระพุทธองค์ ทรงเปรียบเทียบเรื่องนี้ไว้น่าคิด พอสรุปได้ว่า
มาลุงกยบุตร! ปัญหาเรื่องนี้
ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องสนใจก่อน ขืนมัวไปสนใจจะตายเสียเปล่า
มาลุงกยบุตร!
เปรียบเหมือนคนถูกยิงด้วยลูกศร ซึ่งอาบด้วยยาพิษร้ายแรง พวกญาติได้พาคนเจ็บไปหาหมอผ่าตัดที่ชำนาญเพื่อผ่าตัดลูกศรออก
แต่คนเจ็บได้พูดว่า ช้าก่อนหมอ! เรายังไม่รู้จักคนยิงเรานั้น ว่าเป็นใคร
ชื่ออะไร สูงต่ำ ดำขาว อย่างไร บ้านเรือนเขาอยู่ที่ไหน ธนูที่ยิงเราเป็นชนิดไหน
สายที่ยิงทำด้วยอะไร ลูกธนูทำด้วยไม้อะไร หางธนูทำด้วยขนสัตว์อะไร
ถ้าเรายังไม่รู้ปัญหาเหล่านี้ก่อน เราจะไม่ยอมให้ท่านผ่าเอาลูกศรออก ดังนี้ ฉันใด?
มาลุงกยบุตร! คนผู้นั้นจะต้องตายเสียก่อนก็ฉันนั้น
ปัญหาเรื่องโลกเที่ยงไม่เที่ยง เรื่องสัตว์ตายเกิดหรือสูญ
เรื่องชาติหน้ามีหรือไม่มีนี้ เป็นปัญหาที่จะทำให้ผู้ขบคิดตายเสียก่อน
มาลุงกยบุตร! ปัญหานี้เราไม่ตอบ เพราะเหตุใด? เพราะว่าไม่เป็นประโยชน์
ไม่เป็นเหตุให้ประพฤติพรหมจรรย์ ไม่เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อคลายกำหนัด
เพื่อความดับทุกข์ เพื่อความสงบ เพื่อความบรรลุนิพพาน ส่วนความเห็นที่ว่านี้ทุกข์
นี้เหตุให้ทุกข์เกิด นี้ความดับทุกข์ นี้ทางให้ถึงความดับทุกข์
อย่างนี้เป็นปัญหาที่เราตอบ
จูฬมาลุงโกยวาทสูตร ๑๓/๑๓๒
พระสูตรนี้ น่าจะเป็นบทเรียนที่ดี สำหรับคนที่มักชอบทำตัวเป็นคน ห่วงหลังห่วงหน้า แล้วละทิ้ง ประโยชน์ ที่จะได้ใน ปัจจุบัน ไปเสีย
การ จัดลำดับงาน และการ รู้หน้าที่ ว่า อะไรควรทำก่อน อะไรควรทำหลัง เป็นทางหนึ่ง ที่จะช่วยย่นระยะของงาน
และชีวิตลงไปได้มาก
เพราะชีวิตนี้ เป็นของเล็กน้อย และทั้งไม่รู้วันตายอีกด้วย
ถ้ามัวไปสนใจในสิ่งที่ไม่ควรสนใจ ก็อาจจะตายเสียเปล่า สูญจากสาระที่ควรจะได้
อย่างในพระสูตรนี้.