1. อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย (เมืองเก่าสุโขทัย) อยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 12 กิโลเมตร
ไปตามทางสายสุโขทัย-ตาก (ทางหลวงหมายเลข 12) ถนน หลวงตัดผ่านกลางเมืองจากตะวันออกไปตะวันตก
เมื่อผ่านเข้าเขตเมืองเก่าจะแลเห็นยอดพระเจดีย์แบบต่างๆ อันสง่า งามและวิหารอันศักดิ์สิทธิ์
กำแพงเมืองสุโขทัยตั้งอยู่ตำบลเมืองเก่า เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เป็นกำแพงดิน 3 ชั้น
(ในศิลาจารึกเรียกว่า "ตรีบูร") โดยการขุดเอาดินขึ้นมาถมเป็นกำแพงและพื้นดินที่ขุดขึ้นยังเป็นคูน้ำไว้ใช้สอย
มีประตู เมือง 4 ประตู ด้านเหนือเรียกว่า "ประตูศาลหลวง" ด้านใต้เรียกว่า "ประตูนะโม" ด้านทิศตะวันออกเรียกว่า
"ประตูกำแพงหัก" ด้านทิศตะวันตกเรียกว่า "ประตูอ้อ" ภายนอกกำแพงเมืองในรัศมี 5 กิโลเมตร มีโบราณ
สถานประมาณ 70 แห่ง สร้างขึ้นไว้ในพุทธศาสนาและศาสนาพราหมณ์ ได้รับการบูรณะซ่อมแซมโดยกรมศิลปากร
และได้รับการจัดตั้งให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO ในปี 2537 การเดินทางไปอุทยานฯ จากตัวเมืองสุโขทัย
นักท่องเที่ยว สามารถนั่งรถประจำทางสายเมืองเก่า (รถสองแถว) จอด บริเวณท่ารถใกล้ป้อมยามตำรวจ ห่างจากสะพานข้ามแม่น้ำยม
ไปทางฝั่งตะวันตกราว 200 เมตร มีรถออกทุก 20 นาที ตั้งแต่ 06.00-18.00 น. ทุกวัน อุทยานเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 8.30-16.30 น.
สอบถามรายละเอียด โทร. (055) 613241
2. วัดศรีชุม ตั้งอยู่ห่างจากวัดพระพายหลวงไปทางทิศตะวันตก 800 เมตร เป็นวัดที่ ประดิษฐานพระอจนะ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย
ลักษณะของวิหารที่ ประดิษฐานพระอจนะนั้น สร้างเป็นทรงมณฑป สันนิษฐานว่าคงสร้างขึ้นคลุม องค์พระทีหลัง ผนังทางด้านใต้มีช่อง
ให้คนเข้าไปภายใน และเดินขึ้นไปตาม ทางบันไดแคบๆ ถึงผนังด้านข้างขององค์พระอจนะ ภายในช่องกำแพงตามฝา ผนังมีภาพเขียนเก่าแก่
แต่เลือนไปเกือบหมด ภาพเขียนนี้มีอายุเกือบ 700 ปี นอก จากนี้แล้วบนเพดานช่องบันไดยังมีแผ่นหินชนวนขนาดใหญ่แกะสลักลวดลาย
ต่างๆ ไว้มีจำนวนทั้งหมด 50 ภาพ เหตุที่สร้างช่องทางหลังองค์พระนั้น หากพิจารณากันอย่างลึกซึ้งแล้วจะพบว่า พระมหากษัตริย์ในราชวงศ์พระร่วง
ทรงพระปรีชาสามารถในด้านปลุกปลอบใจ ทหารหาญและด้านอื่นๆ อีกมาก เพราะผนังด้านข้างขององค์พระอจนะมีช่อง เล็กๆ ถ้าหากใครแอบเข้า
ไปทางอุโมงค์และพูดออกมาดังๆ ผู้ที่อยู่ภายในวิหารจะ ต้องนึกว่าพระอจนะพูดได้ และเสียงพูดนั้นจะกังวานน่าเกรงขาม เพราะวิหารนี้ ไม่มีหน้าต่าง
แต่เดิมคงมีหลังคาเป็นรูปโค้งคล้ายโดม
3. อุทยานแห่งชาติรามคำแหง (เขาหลวง จังหวัดสุโขทัย) มีเนื้อที่ประมาณ 341 ตารางกิโลเมตร ในสมัยก่อนเรียกป่านี้ว่า "ป่าเขาหลวง"
แต่เมื่อทางการเข้ามาดำเนินการสงวน พื้นที่แห่งนี้ไว้เพื่อประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาตินั้นได้ตั้งชื่อเสียใหม่ว่า "รามคำแหง"
เพราะชื่อเดิมนั้นซ้ำกับ ชื่อ อุทยานแห่งชาติเขาหลวงที่จังหวัดนครศรีธรรมราช อุทยานฯ แห่งนี้ประกอบด้วยขุนเขาสูงชันและเด่นเป็นสง่า
ท้าทายนักปีนเขาทั้งหลาย เขาหลวงนี้ประกอบด้วยยอดเขาถึง 4 ยอดด้วยกัน คือ ยอดเขานารายณ์ ยอดเขาพระแม่ย่า ยอดเขาภูกา
และยอดเขาพระเจดีย์ เมื่อมองจากยอดเขาเหล่านี้ลงไปสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่งดงาม จะเห็นทำนบ กั้นน้ำที่สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัยที่เรียกกันว่า
"สรีดภงค์" และตัวจังหวัดสุโขทัยได้อย่างชัดเจน สถานที่น่าสนใจในเขตอุทยาน ได้แก่ ยอดเขานารายณ์ มีหน้าผาที่สวยงามและสูงชัน
สามารถมองเห็นทิวทัศน์รอบ เขา ยอดเขาพระแม่ย่า ตามประวัติเล่าว่าในสมัยก่อนที่นี่เป็นที่ประทับและจำศีลภาวนาของพระแม่ย่า สวนลุ่มหรือ
สวนลุมพินีวัน เป็นสวนว่านยาสมุนไพรอีกแห่งหนึ่งอยู่ที่เชิงเขาหลวง น้ำตกสายรุ้ง เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงและสวย งามมากที่สุดอยู่ทางทิศตะวันตกของเขาหลวง
ไหลลงสู่แม่น้ำยมที่บ้านพุ อำเภอคีรีมาศ การเดินทางใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 101 (สายสุโขทัย-กำแพงเพชร) กิโลเมตรที่ 400 มีป้ายบอกทางแยกเข้าไป
ประมาณ 13 กิโลเมตร ถนนเข้าเป็นทางลูกรังสลับทางลาดยางบางช่วง มีหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ น้ำตกมี 4 ชั้น ต้องเดินเท้าจากหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ขึ้นไปตามธารน้ำ