หน้า 1

ระดมชาวพุทธ สู่สันติภาพ

รับสหัสวรรษใหม่ จุดประทีป 2 แสน

ธรรมกายเดินหน้าต่อ จุดประทีปรับสหัสวรรษใหม่ พร้อมกัน 5 ทวีป ทั่วโลก จำกัดแค่ 200,000 คนเท่านั้น "หลวงเตี่ย" ยำสื่อฯ ไม่เป็นกลาง ยุศิษย์วัดฟ้อง เพื่อรักษาสิทธิ์ "ผ่อง" ประกาศถวายชีวิตให้พระธัมมชโย ไปแล้ว ยินดีตายเพื่อพระศาสนา "มานิตย์" ระดมคนต่อ ล่ารายชื่อให้ครบ 1 แสน เพื่อปกป้องสิทธิในการเข้าวัดปฏิบัติธรรม "สนธยา โพธิ์แดง" ประกาศจุดยืนชัด อยู่ข้างวัดพระธรรมกายแน่นอนแล้ว ด้านชาวนาคู่พิพาทวัด จัดพิธีรำฮาวายแก้บน สะใจเจ้าอาวาสถูกดำเนินคดีอาญา

เวลา 09.00 น. วานนี้ (5 ก.ย.) ที่บริเวณถนนเลียบคลอง 2 หมู่ที่ 8 ตำบลคลอง 2 อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ได้มีกลุ่มอดีตชาวนาตำบลคลอง 2 คู่กรณีข้อพิพาท เรื่องที่ดิน กับวัดพระธรรมกายกว่า 100 คน จากหมู่ที่ 7-11 ตำบลคลอง 2 ได้รวมตัวกัน นิมนต์พระวัดคลองสอง มาทำบุญเลี้ยงพระเช้า เพื่อเป็นสิริมงคล ให้กับชุมชน

หลังเสร็จพิธีสงฆ์ นางศิริ คชทอง อายุ 52 ปี และนางสมพร ผันปัญญา อายุ 52 ปี พร้อมด้วยบรรดาลูกหลาน ที่เป็นผู้หญิงอีก 6-7 คน ได้นุ่งห่ม ด้วยเชือกฟาง สีสันต่าง ๆ แต่งเป็นชุด ฮาวาย เต้นตามจังหวะ เพลงแก้บน ที่บริเวณหน้าศาล เจ้าแม่ทิพย์ขันทอง ที่ชาวบ้านในบริเวณดังกล่าว ให้ความเชื่อถือ

โดยนางศิริ กล่าวว่า ที่พวกตนมาทำบุญ และแก้บนครั้งนี้ เนื่องจาก วัดพระธรรมกายต้องคดีอาญา ซึ่งพวกตนต่อสู้กับวัด มาด้วยความยากลำบาก ตั้งแต่ปี 2526 ไร้ที่อยู่ ที่ทำกิน กระทั่งปัจจุบัน เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย กำลังถูกดำเนินคดีอาญา ทำให้เห็นพฤติกรรมของวัดพระธรรมกายว่า ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่พวกตน ทำไม่ถูกต้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่ สภาธรรมกายสากล วัดพระธรรมกาย วันนี้ มีศิษยานุศิษย์ของวัด เดินทางมาปฏิบัติธรรม จำนวนมาก เป็นพิเศษ เนื่องจาก เป็นวันอาทิตย์ ต้นเดือน ซึ่งมีพิธีถวายข้าวพระพุทธเจ้า

เวลา 09.30 น. พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้ออกมา นำนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม โดยพระธัมมชโย กล่าวว่า วันนี้เป็นวันบูชาข้าวพระ ที่ยึดถือต่อเนื่องมาเป็นพันปี การบูชาข้าวพระคือ การที่ระลึกถึง พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในสมัยดำรงชีพ

รายการพิเศษ

ในวันนี้ จะมีรายการพิเศษ ตอนภาคบ่าย นายสนธยา โพธิ์แดง ทนายความของ วัดพระธรรมกาย จะมาเล่าเรื่องราว เกี่ยวกับ ศาลรัฐธรรมนูญ จะพูดความในใจ เกี่ยวกับ การเซ็นชื่อ เพื่อเรียกร้องสิทธิ อันควรได้ เพื่อให้รัฐธรรมนูญนั้น ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น จะได้เอามาใช้ เพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทย จะได้รับรู้ทำความเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วก็มี นายผ่อง เล่งอี้ อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ จะมากล่าว ความในใจ ที่จะเป็นประโยชน์ เกิดขึ้นต่อพระพุทธศาสนา ต่อประเทศชาติบ้านเมือง จนกระทั่งต่อโลก

แล้วปิดท้ายรายการ ด้วยธรรมเทศนาของ พระธรรมราชนุวัตร หรือหลวงเตี่ย รองเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ใครมีคำถามอะไร จะซักถาม ก็จะได้ทำ ความ กระจ่าง หลวงพ่ออยากให้ทุกคน ได้อยู่ อยู่กันทุกคน อย่าได้ขาด

ฉลองสหัสวรรษใหม่

อีกเรื่องหนึ่งเป็นข่าวดีสำหรับลูกทุกคน จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบเวลานี้ เพราะเหลือเวลาอีกไม่มาก คือมูลนิธิธรรมกาย ในฐานะเอ็นจีโอ แห่งองค์การ สหประชาชาติ ได้ร่วมกับ องค์กรเอ็นจีโอแห่ง สหประชาชาติ กว่า 300 องค์กร ที่ทำงานด้าน การปลูกฝังศีลธรรม และคุณธรรม ให้แก่ชาวโลก และร่วมกับสภาสหัสวรรษ ขององค์การ สหประชาชาติ

ได้ร่วมมือกัน จัดงานเฉลิมฉลอง การเข้าสู่ สหัสวรรษแห่งสันติภาพ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2542 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2543 โดยจะร่วมกันจุดแสงสว่าง แห่งสันติภาพ หรือที่เรียก ว่า เดอะไลท์ออฟพีซ ในคืนวันที่ 31 ธันวาคมนี้ เวลา 23.59 น. พร้อมกันทั่วโลก จะจุดประทีปแสงสว่าง แห่งสันติภาพ จะมีการถ่ายทอด ออกไปสู่ชาวโลก โดยผ่าน ดาวเทียม เคเบิลทีวี

โลกแห่งสันติภาพ

หลวงพ่อ ขอเชิญลูก ๆ ทั้งหลายล่วงหน้า ภายในและต่างประเทศ มาร่วมกัน เฉลิมฉลองการเข้าสู่ สหัสวรรษแห่งสันติภาพ มาร่วมกัน จุดแสงสว่างแห่งสันติภาพ โดยไม่แบ่ง แยก เชื้อชาติและศาสนา หรือแม้แต่พรหมแดน ใน 5 ทวีป โดยมาร่วมกัน อยู่ธุดงค์ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ฟังธรรม ใส่บาตร พร้อมกับ แผ่เมตตาจิต นำบุญกุศล ที่ได้ทำมา ไปแผ่ขยายสู่ พี่น้องทั่วโลก ให้ได้พบสันติสุข ความสุขภายใน อันเป็นแหล่ง พลังงานยิ่งใหญ่ ที่ทำให้เกิด สันติภาพ ที่แท้จริงเกิดขึ้น ในโลกนี้

ในวันนั้น เราจะจุดกันรอบ มหาธรรมกายเจดีย์ เมื่อเราปักดวงประทีป แล้วแบ่งให้เป็นระเบียบแบบแผน ตรงนั้น มันมีที่จำกัด นะลูกนะ จะต้องมีการจองกันล่วงหน้า เพราะ ที่นั่ง มันมีจำกัด หลวงพ่อจะกำหนดไว้ แค่หลักแสนเท่านั้น ประมาณ 200,000 คน แต่ว่าวันนี้ หลวงพ่อยังไม่รับจอง ให้หลวงพ่อทำบัตรให้เรียบร้อยแล้ว อาจจะเป็นอาทิตย์หน้า

The Light of Peace

บัตรจองที่นั่ง ในการที่จะจุดแสงสว่าง แห่งสันติภาพ หรือเดอะไลท์ออฟพีซ ในการเข้าสู่สหัสวรรษแห่งอัญมณี หรือ มีเลอเดียมออฟเจมส์ คือ สหัสวรรษแห่งอัญมณี หมาย ความว่า ต่อไปนี้ อีก 1,000 ปี ทุกคนจะเข้าถึง รัตนะภายใน และภายนอก ก็จะสมบูรณ์ด้วย ความสุขความบันเทิง ทั้งหลาย และเมื่อแจกบัตรไปในอาทิตย์หน้า ก็ให้ทุกคนรักษา บัตร เอาไว้ เก็บรักษาบัตรเอาไว้ให้ดี ก็จะมีของขวัญ ให้กับผู้ที่มีบัตรด้วย

หลวงเตี่ยยุฟ้องสื่อฯ

พระธรรมราชานุวัตร (หลวงเตี่ย) กล่าวว่า สื่อมวลชนไม่เคารพกติกา ประหารคนอื่น โดยไม่มีความผิด ชี้นำให้คนหลงไหล พระยังดีอยู่ กลับเรียกนาน กล่าวหาคนอื่น เป็น สัทธรรมปฏิรูป แต่พวกที่กล่าวหานั่นแหละปฏิรูปสัทธรรม

การเดินทางมาในวันนี้ ได้เจอกัลยาณมิตรแก้ว เพราะได้เห็นการร่วมทุกข์ร่วมสุข ซึ่งกันและกัน อาตมาเอง ในอดีตก็เคยถูกฟ้องร้องเหมือนกัน แต่เรื่องเกิดในอเมริกา โดยเขา ฟ้อง อาตมาว่า ทำให้บ้านเมืองสกปรกขัดขวางการจราจร เนื่องจากที่วัดในอเมริกา มีการจัดงานบ่อย มีคนร่วมงานเป็นหมื่น จอดรถเต็มถนน

แต่เชื่อหรือไม่ว่า ในอเมริกา เขาเคารพสิทธิของคนอื่น ลูกขุนเขาพูดตอนขึ้นศาลว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 1 ให้สิทธิเสรีภาพในการถือศาสนาของบุคคลทั่วไป ของเราเรื่องนี้ เป็นเรื่องใหม่ ก็เลยตื่นเต้นกันมาก

พระธรรมราชานุวัตร กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องสื่อมวลชนนั้น ในเมื่อกฎหมายอนุญาตให้เราฟ้องได้ เราก็ควรจะฟ้อง เพื่อรักษาสิทธิ์ เพื่อไม่ให้เขาใช้สิทธิ์มากเกินไป แต่เราต้อง ฟ้องแบบอุเบกขา มันก็เป็นเรื่องน่าแปลก ที่คนบริจาคเงิน ไม่ได้ใครฟ้องวัด แต่คนไม่เคยบริจาค กลับฟ้องร้อง

ในช่วงบ่ายที่สภาธรรมกายสากล ได้มีการจัดรายการเสวนาชื่อว่า “กล้าตะวัน” ซึ่งจัดเป็นเวทีบริเวณหน้า สภาธรรมกายสากล โดยมี นายผ่อง เล่งอี้ อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ นายสนธยา โพธิ์แดง ทนายความวัดพระธรรมกาย นายมานิตย์ รัตนสุวรรณ ศิษย์เอก เป็นผู้ร่วมรายการ

"ผ่อง" ลั่นสร้างบารมี

นายผ่อง กล่าวอภิปรายว่า วันนี้เป็นวันครบรอบ 1 ปี ที่เกิดเหตุการณ์ อัศจรรย์ตะวันแก้ว ตลอดระยะเวลาเกือบปีที่ผ่านมา วัดพระธรรมกาย ถูกโจมตีอย่างรุนแรง แต่ตนยึดมั่น ในการสร้างบารมี ตำแหน่งและทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ในโลกนี้ สำหรับตนนั้น มีไว้สำหรับสร้างบารมีทั้งสิ้น โดยมีอุดมการณ์ในใจว่า "เป้าหมายเป็นหลัก อุปสรรคไม่มี" ทำให้ สามารถ ยืนหยัดมาได้จนทุกวันนี้

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ได้ขยายบานปลายออกไปมาก ไม่ใช่เฉพาะเจาะจงแต่วัดพระธรรมกายเท่านั้น ชาวพุทธทั้งประเทศ ก็ถูกคุกคามเช่นเดียวกัน ซึ่งอยากให้ชาวพุทธ ทุกคนทำใจ และเชื่อมั่นเสมอว่า “ทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟ” ให้กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

สิ่งที่ตนรู้สึกภูมิใจมากที่สุดในชีวิตก็คือ ได้มีโอกาสเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อธัมมชโย เป็นหลานคุณยายจันทร์ ขนนกยูง รู้สึกสนิทสนมเหมือนเคยเจอมาแล้วในอดีต จึงไม่น่า แปลกใจ ว่า ที่ตนถวายทุกอย่างให้วัด เป็นเพราะความสนิทสนมคุ้นเคยดังกล่าวนั่นเอง

ยอมตายเพื่อหลวงพ่อ

นายผ่องกล่าวต่อไปว่า ตนยินดีถวายทุกอย่างให้หลวงพ่อ และเคยปฏิภาณตนว่า ตนขอถวายชีวิตให้กับหลวงพ่อ ขนาดลูกของตนเอง ถ้าหลวงพ่อคิดว่า คนไหนเหมาะสม ก็ยินดีถวาย ซึ่งก็ได้ถวายไปแล้ว เมื่อตอนปฏิบัติธรรมที่ดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่

สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น ตนจะสู้จนตัวตัว แต่ไม่ใช่การฆ่าตัวตายแบบบางลัทธิ ก่อนหน้านี้ เคยคิดว่า หลังจากเกษียณอายุราชการแล้ว จะมีชีวิตสุขสบาย ตั้งใจจะบวช แต่ก็ต้องมาสู้กับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ก็ถือว่า ดี เพราะได้สร้างบารมีให้มากยิ่งขึ้นไป

ส่วนประชามติที่นำไปยื่นต่อประธานรัฐสภานั้น ทำไปเพื่อป้องกันสิทธิอันชอบธรรม ในการนับถือศาสนา ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ทำไปเพื่อต้องการแยกนิกาย ขอยืน ยันว่า จะไม่มีการแยกนิกายอย่างเด็ดขาด วัดพระธรรมกายเป็นวัดที่ถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนา และตามกฎหมายทุกประการ

จวก รมช.ศึกษาฯ อย่าหลงตำแหน่ง

"ผมอยากให้สื่อมวลชนช่วยถ่ายทอดความคิดไปยัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ด้วย เพราะฟังท่านพูดแล้วรู้สึกไม่สบายใจ มีลักษณะคล้ายกับ จะไล่พระออกไป เพื่อมายึดทรัพย์ของวัดให้หมด ผมเคยรับราชการมาก่อน ตำแหน่งเป็นเรื่องชั่วคราว เป็นของสาธารณะ คนที่ครองตำแหน่ง ควรจะเอาตำแหน่ง ไปทำความดี อย่าใช้อำนาจหน้าที่ สร้าง ความแตกแยก ให้คนในชาติขาดความสามัคคี เพราะนอกจากไม่ถูกต้อง ในการรับราชการแล้ว ยังเป็นการละเมิดสิทธิคนอื่น ตามระบอบรัฐธรรมนูญด้วย " นายผ่อง กล่าว

สุดท้ายนี้ อยากฝากให้ชาวธรรมกาย 3 เรื่องคือ ขอให้พวกเรามั่นใจว่า เราทำถูกทางแล้ว ถ้ารัฐสภาไม่ส่งเรื่องในศาลรัฐธรรมนูญตีความ ก็ไม่ต้องตกใจ เขาจะต้องมีเหตุผล ชี้แจง อย่าหวั่นไหว เพราะมีแต่ข่าวลือเท่านั้นเองในขณะนี้

นอกจากนี้ ให้เร่งสร้างบ้านกัลยาณามิตรให้มากขึ้น และทางวัดพระธรรมกาย จะยึดกฎหมายบ้านเมือง เป็นแนวทางในการต่อสู้ ไม่ใช้ความรุนแรงอย่างเด็ดขาด ตามแนวทาง ของพระพุทธเจ้า ขอให้พวกเรารวมใจเป็นหนึ่ง ทำหน้าที่ต่อไปอย่าท้อถอย

มานิตย์ ระดม 1 แสนชื่อ

นายมานิตย์กล่าวว่า ตอนนี้คนถือศีล ทำสมาธิถูกกล่าวหาว่าเพี้ยน ดังนั้น ตนอยากให้ชาวธรรมกายร่วมกันแสดงออก โดยการร่วมลงรายชื่อให้ครบ 5 หมื่นรายชื่อ และเราจะ ทำให้ถึงแสน จริงๆ แล้วเราไม่ต้องใช้กฎหมายรัฐธรรมกายนูญก็ได้ ถ้ามีคนฟ้องคดีอาญามา เราก็ฟ้องกลับสามารถฟ้องร้องได้ทุกคดี เพราะเป็นสิทธิโดยชอบธรรม แต่หลวงพ่อ ไม่ได้ทำ เพราะเป็นพระจึงได้ทำเรื่องยื่นศาลรัฐธรรมนูญตามขั้นตอน

คนไทยดูถูกกันเอง

นายสนธยากล่าวว่า ทุกวันนี้คนไทยดูถูกกันเอง โดยที่ไม่มีความผิด ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรุนแรงเกินไป ตนเชื่อมั่นว่า สักวันหนึ่งความยิ่งใหญ่จะต้องกลับคืนสู่ชาวธรรมกาย สิ่งที่ดี ในเมืองไทย กำลังถูกทำลาย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ผู้ทำลายต้องการอะไรกันแน่

ดังนั้น จึงอยากเตือนว่า อย่าเอาวัดพระธรรมกาย ไปเทียบกับวัดอื่น ที่กล่าวหาว่า สอนไม่เหมือนวัดอื่น เป็นการสอนผิด แต่ก็ไม่เห็นระบุให้ชัดเจนว่า ผิดตรงไหน มีการพูดกัน แบบรวมๆ

ไม่ฟ้องสื่อมวลชน

เราจะไม่ฟ้องร้องสื่อมวลชน เพราะสื่อมวลชน ไม่มีศาสนา เราเป็นวัดไม่อยากเอาเรื่องของวัด ไปยุ่งกับโลก จริงๆ แล้ว เมื่อเขากล่าวหาได้ เราก็กล่าวหาเขาได้เช่นกัน

ส่วนเรื่องการล่ารายชื่อ เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญนั้น ตนอยากได้รายชื่อซัก 1 ล้านรายชื่อ เพื่อรัฐจะได้เข้ามาปกป้องสิทธิในการนับถือศาสนาของเรา ตนขอยืนยันว่า แนวทางของวัดถูกต้องแล้ว ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป สามารถลงชื่อได้ทุกคน ถ้ามีใครมาข่มขู่ว่า จะมีปัญหาตามมาภายหลังให้บอกตน ตนจะดำเนินการ ตามกฎหมาย ต่อไปทันที