ปีที่ 2 ฉบับที่ 695 ประจำวันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2542

วิวาทะ

มองต่างมุมพระธรรมปิฎกกรณีวัดพระธรรมกาย (6)

วิจารณ์พระไตรปิฎกในความเห็นของผม ซึ่งมีข้อมูลอ้างอิงจากพระพุทธทาสไปแล้ว ท่านเจ้าคุณพระธรรมปิฎก คงเข้าใจถึงที่ไปที่มา ของ พระไตรปิฎก และการที่ผมหยิบยกเรื่ององคุลีมาล มาพิจารณาถึงการดำเนินให้ถึงมรรค ผล นิพพาน ตามหลักพระพุทธศาสนา

ประเด็นต่อมาที่ท่านเจ้าคุณลิขิตไว้ในหนังสือกรณีธรรมกาย ฉบับสมบูรณ์ หน้าที่ 46-66 ธรรมกาย เรื่องที่สูงแต่ไม่ใหญ่

ท่านเจ้าคุณยกธรรมกายในพระไตรปิฎก ตามศัพท์แปลว่า "กองธรรม" มีหลักฐานปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก 4 แห่ง และในคัมภีร์อรรถกถา และฎีกาอีกมากมาย

วัดพระธรรมกายเผยแพร่เอกสารต่างๆ เกี่ยวกับวิชชาธรรมกาย เป็นการจาบจ้วงพระธรรมวินัย โดยเฉพาะประเด็นธรรมกาย เป็นคำพูด รวมๆ หมายถึงธรรมต่างๆ   ที่ประสงค์จะกล่าวถึงทั้งชุด หรือทั้งหมวด เช่น โลกุตตรธรรมทั้ง 9 และธรรมโลกุตตรธรรม 9 นั่นแหละ ที่ท่านจัดวาง ระบบ วิธีปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงเรียบร้อยแล้ว

พระธรรมปิฎกระบุว่า "เมื่อมรรค ผล นิพพาน มีวิธีปฏิบัติเพื่อให้บรรลุถึงพร้อมบริบูรณ์อยู่แล้ว จึงไม่ต้องมีวิธีปฏิบัติเพื่อเข้าถึงธรรมกาย ขึ้นมาต่างหาก มีแต่ว่า ผู้ที่ปฏิบัติเข้าถึงมรรค ผล นิพพานแล้ว ก็จะมีธรรมกายที่ประกอบด้วยธรรม คือ คุณสมบัติต่างๆ มากมาย ตามแต่จะเลือก พรรณา

ดังกล่าวแล้วว่า "ธรรมกาย" ไม่ใช่หลักธรรมอันใดอันหนึ่งโดยเฉพาะ

ธรรมกายตามวิชชาที่ท่านว่าเพิ่งค้นพบใหม่ ตามแบบของสำนักพระธรรมกายนั้น ไม่มีมาในพระพุทธศาสนาดั้งเดิม แต่เป็นคำสอน และแนว ปฏิบัติตามหลักที่เรียกว่า "วิชชาธรรมกาย" ซึ่งทางสำนักกล่าวว่า อาจารย์ใหญ่ของสำนักได้ค้นพบเมื่อ พ.ศ.2460 หลังจากที่สูญหายไป หลังจาก พุทธปรินิพพานได้ 500 ปี โดยพระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อสด จนฺทสโร วัดปากน้ำ)

ท่านเจ้าคุณยกธรรมกายตามความหมายของพระไตรปิฎก เปรียบเทียบกับวิชชาธรรมกายของวัดปากน้ำ สรุปไม่ยอมรับหลักวิชชาดังกล่าว

และชี้นำด้วยว่า... "จะเอาธรรมกายของพระพุทธเจ้าหรือธรรมกายแบบไหน ก็มีเสรีภาพเลือกได้ แต่ขอให้บอกไปตามตรง"

ความเห็นเช่นนี้ ท่านเจ้าคุณต้องการจะสื่อให้วัดพระธรรมกาย แยกนิกายหลุดพ้นจากฝ่ายเถรวาทโดยแท้

ผมจะไม่วิจารณ์รายละเอียดกรณีนี้ให้ยืดยาว เพราะความเห็นของท่านเต็มไปด้วยวิชาการ และพระไตรปิฎกฉบับของแท้ ที่ท่านเจ้าคุณ เคารพบูชา โดยหากสำนักใด มีแนวทางที่ผิดเพี้ยนไปจาก แนวทางความเห็นท่าน เขาเหล่านั้นถือเป็นการตู่ บิดเบือนพระศาสนา

แต่ขอให้วิญญูชนระลึกไว้ถงแนวทางการศึกษา พระพุทธศาสนา ให้ขึ้นใจว่า เราจะไม่ศึกษาพระศาสนาเพื่ออยากดัง หรือได้เปรียญธรรม ชั้นสูง หรือรับปริญญาทางสงฆ์หรือทางโลก

ทว่าพุทธบริษัทต้องเรียนรู้ศึกษาพระพุทธศาสนา เพื่อรับปริญญาบัตรจากพระพุทธเจ้า ปริญญาบัตรของพระพุทธเจ้ามีชื่อเรียกว่า "พระนิพพาน"

พูดให้ชัดกว่านี้ การที่ท่านเจ้าคุณวิจารณ์วิชชาธรรมกาย และป่าวประกาศให้สาธุชนเลือกว่า... จะนับถือธรรมกายแบบไหน ผมมิบังอาจว่า ท่านเจ้าคุณมาความรู้สึกมาจากมานะ ทิฏฐิ แต่ผมอ่านได้ความเข้าใจอย่างนั้น

จะไม่ให้รู้สึกออกมามีเป้าหมาย วัตถุประสงค์แบ่งแยกนิกายอย่างชัดแจ้งทุกเรื่อง ทุกประเด็น ทุกกรณี ตั้งแต่หน้าแรก ยันหน้าสุดท้าย ของงานเขียน

การที่ท่านเจ้าคุณมีความเห็นไม่รับหลวงพ่อสด และพยายามสื่องานเขียน ให้ผู้อ่านเคารพบูชาพระศาสดา เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ไม่สมควร อย่างยิ่งที่จะลบหลู่พระไตรปิฎก ที่ท่านเคารพบูชา

โดยเฉพาะประเด็นจะเชื่อธรรมกายของใคร?

"สัญญา" (ไม่ใช่ชื่อเพลงสัญญาเมื่อสายัณของพี่ไทนะครับ) แต่ผมหมายถึง "การรู้จำ" อักษรไทย บาลี ฯลฯ ก็เป็นการรู้จำอย่างหนึ่ง มนุษย์ เราอุปโลกขึ้นมาทั้งสิ้น ทั้งคำว่า "อัตตา-อนัตตา" หรือแม้แต่อักษรที่ปรากฏในพระไตรปิฎก รวมถึงคำว่า "นิพพาน" เรากำหนดขึ้นมา เพื่อสื่อสาร กันในสังคมมนุษย์โลกใบนี้

หนังสือกรณีธรรมกาย ฉบับสมบูรณ์ ปฏิเสธความคิดเห็นเกจิอาจารย์สายปฏิบัติทั้งหมด ไม่ปิดกั้นไปหน่อยหรือท่านเจ้าคุณพระธรรมปิฎก

พระสายปฏิบัติท่านบำเพ็ญเพียร ตามหลักพระพุทธเจ้า จนรู้จริงเห็นแจ้ง ได้มรรค ผล นิพพาน ตามปรารถนาแล้วไม่รู้กี่หมื่นกี่พันรูป

แม้แต่สังขารบางท่านก็ไม่เน่าเปื่อย บ้างกระดูกกลายเป็นเกล็ดมีสีสดใส หรือเป็นพระธาตุ ซึ่งวิชาวิทยาศาสตร์ ไม่สามารถตอบคำถาม เหล่านี้ได้

ภูเขาทองยังมีทางขึ้นถึงสองทาง การไปสู่แดนแห่งนิพพาน มีทางของท่านเจ้าคุณเพียงทางเดียวกระนั้นหรือ?

ถ้าท่านยืนยันว่า ทางเดียว ก็ต้องประกาศไปเลยว่า "สายอื่นที่ปฏิบัติ ยุบหนอ พองหนอ สัมมาอะระหัง พุทโธ เพี้ยนกันไปหมด" หรือว่า มีการกำหนดอย่างไร เพื่อเป็นหนทางสู่พระนิพพานได้จริง ตามความเห็นของท่านเจ้าคุณพระธรรมปิฎก

ใครกำหนดผิดเพี้ยนจากความเห็นและตำราของท่าน เป็น "เดรัจฉาน เดรัจถีย์" ก็พูโกันให้มันชัดไปเลย

"พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า ธรรมที่พระองค์สอนเปรียบเสมือนใบไม้ในกำมือ แต่ธรรมที่พระองค์ค้นพบเปรียบเสมือนใบไม้ในป่าใหญ่"

พระไตรปิฎกจะฉบับใดก็ตาม ก็เปรียบเสมือนใบไม้ในกำมือ และใบไม้ในกำมือนี่แหละที่เราจะต้องนำไปศึกษาด้วยวิริยะ ปัญญา และ ลงมือปฏิบัติควบคู่ไปกับปริยัติ

หรือพุทธบริษัทจะมองพระนิพพานกันอย่าง "เสฐียรพงษ์ วรรณปก" ศึกษาแผนที่เพื่อไปพระนิพพานมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน แต่แล้ว วันดีนดี ท่านก็กลับมาเคาะประตูบ้าน เพื่อรับความอบอุ่นจากศรีภรรยา และบุตรสาวผู้น่ารัก

และกลับมีความคิดปัญญาหยาบ บังอาจเสนอปลดพระสังฆราช เพื่อกดดันปาราชิกเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย พอๆ กับดร.เจิมศํกดิ์เมาหมัด ประกาศล้มรัฐบาล หากแก้ปัญหาธรรมกายไม่ลุ

ถามประเทศชาติเป็นของนายสองตนเท่านั้นหรือ....?

(วิจารณ์ต่อฉบับหน้า)

โซตัส

[หน้าหลัก] [หน้า1][วิวาทะ][ปุจฉา][พิเศษ]

1