ปีที่ 2 ฉบับที่ 650 ประจำวันพุธที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2542

วิวาทะ

เรียนปริยัติเพื่ออะไรพระคุณเจ้า

มีข้อถกเถียงกันมามากมาย ระหว่างพระสายปฏิบัติ กับสายปฏิบัติ

ก่อนที่จะลงลึกไปขบคิดถึงปมประเด็นดังกล่าว ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจว่า พุทธศาสนาของเรา เป็นศาสนาที่มุ่งเน้นชำระจิต ให้หลุดพ้นจาก สังสารวัฏฏ์ เป้าหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา คือพระนิพพานนั่นเอง

ปริยัติธรรมมี 3 อย่างด้วยกันคือ

1) อลคฺคทูปมาปริยตฺติ

2) นิสฺสววรตฺถาปริยตฺติ

หากจะพูดถึงความหมายของการปริยัติ เพื่อให้เข้าใจด้วยภาษาง่ายๆ การปริยัติ แบบข้อที่ 1 ท่านเปรียบไว้เหมือน ผู้ที่ศึกษาพระธรรมวินัย หากมีวิธีการที่ไม่ดี ก็เปรียบเสมือน จับต้องอสรพิษร้าย จับไม่ดีก็จะถูกเขียวคมฉกกัดได้

ส่วนข้อ 2 เป็นการศึกษาปริยัติเพื่อความหลุดพ้นจากกองทุกข์

ส่วนข้อสุดท้าย เปรียบเสมือนผู้ที่ศึกษาท่องจำพระธรรมวินัยได้อย่างแม่นยำ แต่เปล่าประโยชน์ เพราะผู้ปริยัติเหล่านี้ ไม่ได้พิจารณาถึง จุดประสงค์ของ พระธรรมวินัย ทางพุทธศาสนา เปรียบเสมือนหน่วยความจำ Harddisk ของ Computer

ประโยชน์อะไรกับความรู้ หรือมหาสมบัติอันยิ่งใหญ่ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสรู้จริง เห็นแจ้ง แต่กลับถูกเก็บงำไว้ใน Computer หรือ การรู้จำจากใบลาน พระไตรปิฎก เล่าขานกันต่อไป

จึงมีคำถามถึงพระภิกษุ หรือผู้ปฏิบัติธรรมในทางพระบวรพุทธศาสนาว่า หากการปริยัติที่ยึดถือกันอยู่นี้ เพื่อการสอบให้ได้ประกาศนียบัตร และได้รับยศศักดิ์ ซึ่งก็สามารถเปรียบเทียบการปริยัติทำนองนี้กับ การปริยัติ 1-3 ข้างต้นนี่แหละ

การสอบเปรียญประโยคสูง ก็เป็นยศศักดิ์อีกประเภทหนึ่ง คือการรับประกาศนียบัตรแล้วก็พัศยศ ตรงนี้จะเข้าข่าย ข้อใดข้อหนึ่งในสามข้อ ก็ขึ้นอยู่กับ ปัจเจกบุคคลนั้นๆ จะน้อมนำความรู้ทางธรรมะ มาชำระล้างฆ่ากิเลส อวิชชาความมืดบอดได้อย่างไร

ทว่าไม่ได้น้อมนำพระธรรมวินัยมาปฏิบัติ ผู้ปริยัตินั้นๆ ก็คงจะไม่เข้าหลักการปริยัติข้อ 2 คือ เพื่อความหลุดพ้นจากกองทุกข์เป็นแน่

ทีนี้โยงมาถึงสถานการณ์ของ พุทธศาสนาในปัจจุบัน กำลังมีการโต้เถียงระหว่าง พระสายปฏิบัติกับพระสายปริยัติ

แม้จะไม่ดังเปรี้ยงปร้างเหมือนสายฟ้าที่ถล่มวัดพระธรรมกายอยู่ในช่วงเวลานี้ก็ตาม

แต่ลึภๆ แล้ว ความรู้สึกของสงฆ์ไทยสองฝ่าย กินแหนงแคลงใจกันมาช้านานแล้ว

น้อยท่านนักที่สามารถเดินทางปริยัติจนแตกฉานควบคู่ไปกับการปฏิบัติอย่างเอาจริงเอาจัง จนรู้จริงเห็นแจ้ง ตามพระอรหันต์ ตาม พระพุทธเจ้า

โปรดอย่าเข้าใจว่า สิ่งที่ผมพูดหรือเขียนอยู่ในที่นี้ กำลังพุ่งเป้าทำลายพระรูปใดหรือบุคคลใด

แต่อยากให้เข้าใจว่า พระพุทธศาสนาของเรา มุ่งเน้นให้มนุษย์ฝึกจิตให้ใสสะอาด ตามหลักพระธรรมคำสั่งสอน ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อความหลุดพ้นจากวัฏฏสงสาร

ไม่ต้องพูดถึงสายพระป่า สายพระปฏิบัติ พูดถึงพระนิพพาน เป็นอัตตาหรืออนัตตา เพราะผู้ที่ถกเถียงเรื่องพระนิพพาน ไม่มีใครไปถึง พระนิพพานแน่ๆ

ไม่ว่าจะเป็นนักการศาสนา มีดีกรีสูงถึง ป.ธ.9 บวชเรียนมากว่า 20 ปี ก็เปล่าประโยชน์ ที่จะนำบาลีมาตีความ เข้าข้างจริตตนเอง โดยหลงลืม ไปว่า ตนเองไม่อาจปฏิบัติตามพระธรรมวินัย หรือพระไตรปิฎกที่ตนเอง ร่ำเรียนมาได้แม้แต่น้อย

...ศีล 5 ยังถือครองไม่ตลอดรอดฝั่ง....

แล้วมาเสนอหน้าอวดอ้างตนเป็นพระไตรปิฎกเคลื่อนที่ สั่งสอนชาวพุทธไปทั่วโลก ให้ปฏิบัติตามตนเองกระนั้น ในเมื่อพ่อพิมพ์ ทำตัว อุบาทว์เป็นผู้ทุศีลเสียเอง

โซตัส

[หน้าหลัก] [วิวาทะ] [สหัสวรรษ]

1