ปีที่ 2 ฉบับที่ 649 ประจำวันอังคารที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2542

ปุจฉา

ยืมหนังสือ

สวัสดีครับ คุณอาทิดที่เคารพ

ผมขอขอบคุณอาทิดมาก ที่ตอบข้อสงสัย ทำให้มีความกระจ่างมากขึ้น และผมขอขอบคุณเรื่องหนังสือนะครับ ผมจะเก็บเงินซื้อ (คงอีกนาน กว่าจะได้อ่าน เพราะต้องรอทำบุญธรรมะคุ้มครองโลก ผ่านไปก่อน) ผมจำต้องขอรบกวนอาทิด ขอยืมหนังสือ "ตรีธา เล่าเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ" ไปอ่านก่อนนะครับ เรื่องค่าส่งหนังสือ ผมไม่รู้ว่าเท่าไหร่ และส่งธนาณัติให้อาทิด ในนามอาทิด หรือในนามใคร ขอให้อาช่วยบอกผมด้วยนะครับ แล้วผมจะส่งไปให้ (ผมเกรงใจมากเลยครับ) หวังว่า คงจะไม่รบกวนเกินไปนะครับ

เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ได้ไปวัดพระธรรมกาย ได้เจอหนังสือที่พิมพ์ไทยรวมเล่ม "ผ่าแผนพิฆาตธรรมกาย" ผมได้ซื้อมาอ่าน (ขนาดมติชน ผ่าอาณาจักร 70,000 ล้าน ผมยังซื้อเลย) ในความคิดผม เป็นหนังสือที่ดีเล่มหนึ่ง สามารถตอบข้อสงสัยได้มากจริงๆ เลยครับ นี่ถ้าคนที่ไม่เคยเข้าวัด ได้อ่าน คงช่วยให้เขาเหล่านั้นได้รู้อะไรมากขึ้น ชัวร์เลยครับ

สุดท้ายผมขอให้อาทิด และพิมพ์ไทย ยืนหยัดต่อสู้ เพื่อคุณธรรมต่อไปครับ

ด้วยความเคารพอย่างสูง

หลานมงคล นาคจุ้ย

เรียนหลานมงคล นาคจุ้ย พอดีช่วงนี้ติดสงกรานต์ เลยไม่สามารถส่งหนังสือให้ได้ เอาอย่างนี้ดีหรือไม่ครับ ถ้าอยากได้อ่านจริงๆ มาที่ กองบก. หลังสงกรานต์ มาหา คุณธีรพล พิชิตชัยโสภา ยืมเขาไปอ่านก่อน อยู่แค่ซอยอ่อนนุช 44 เอง "ไอ้ทิด" ถามคุณธีรพลแล้ว แกยินดีให้ยืม ไปอ่าน ครับ

ขอบคุณพิมพ์ไทย

เรียนบรรณาธิการ

แม้ข้าพเจ้าจะมิได้เป็นสมาชิกหนังสือ "พิมพ์ไทย" แต่การที่ท่านสะท้อนมุม ซึ่งเป็นการสวนกระแสสื่ออื่นๆ แต่สร้างความสมดุลย์ และเป็นธรรมในเรื่องข้อมูลแก่สังคม

จะผิดจะถูก ท่านก็ได้ทำแล้ว และเป็นการทำที่ถูกที่ควร

ข้าพเจ้าตื้นตัน ประทับใจท่าน ซื้อของท่านทุกวันทุกฉบับ ตามแหล่งข้างบ้าน แม้เพียง 1 ฉบับต่อวัน ข้าพเจ้าคิดว่า ได้กระทำถูกแล้ว ต่อ หนังสือพิมพ์และทีมงานพิมพ์ไทยของท่าน

โปรดรับทราบความรู้สึกอันน้อยนิด แต่จริงใจและจริงจังนี้ ขอท่านจงทำหน้าที่ต่อไป

นับถือ

คนไปวัด

ขอขอบคุณไปวัดมากครับ ที่สนับสนุนหนังสือพิมพ์ของเรา เรารับทราบความจริงใจอันนี้ และยืนยันว่า จะทำหน้าที่ของเรา ให้ดีที่สุด ตลอดไป

หมอประเวศ

เรียนบรรณาธิการพิมพ์ไทย "ไอ้ทิด"

ผมต้องขอกล่าวด้วยความขอบคุณว่า เดี๋ยวนี้ทุ่นค่าใช้จ่าย ซื้อหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ในแต่ละเดือนไปเยอะ เพราะเป็นสมาชิก หนังสือพิมพ์ไทยเพียงฉบับเดียว ซึ่งอ่านแล้วได้สาระ ไม่เคยตกข่าวในแต่ละวัน

เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2542 เวลา 11.00 น. ผมได้ฟังข่าวเกี่ยวกับ หมอประเวศ วสี ที่ออกอาการอคติว่า กิจใดซึ่งทางวัดพระธรรมกาย ปฏิบัติอยู่ นั้นอันตราย เปรียบเป็นคอมมิวนิสต์ไปโน่น นับว่ามีปากและความคิดเป็นภัยอย่างยิ่ง วิพากษ์วิจารณ์ในมุมมองแง่ลบของตน โดยไม่เคยเข้าไป สัมผัสเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด แสดงถึงความหลงตนขนาดหนักเกินแก้

เพราะเท่าที่ฟังหมอพูดถึงเรื่องนี้คราใดในระยะนี้ เหมือนไม่อยู่กับร่องรอยในการมองเห็นหลักธรรมที่ผู้อื่นมี ก็เลยสงสัยว่า ท่านมีจิตศรัทธา อะไรอยู่ หรือเป็นพวกที่อยู่ในกลุ่มไม่ถูกใจ ระทมทุกข์ไปด้วยความอิจฉา เพราะวัดพระธรรมกาย และสาธุชนทำบุญสร้างบารมี เกินหน้ากว่า ที่ตน ตลอดจนพวกแนวร่วมจะทำได้ "ไอ้ทิด" เห็นเป็นอย่างไร ช่วยกรุณาออกความเห็นด้วย

ขอแสดงความนับถือ

จันทร์ พุ่มเข็ม

คุณหมอประเวศ เป็นบุคคลที่สังคมให้การยกย่องมาตลอด เพราะในอดีตที่ผ่านมา ท่านทำงานเพื่อสังคมอย่างสม่ำเสมอ จนสื่อมวลชน ยกย่อง ท่านเป็น "ราษฎรอาวุโส" ไอ้ทิด ก็เห็นเป็นอย่างนี้เช่นเดียวกัน

แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ "ไอ้ทิด" ขอสะกิดคุณหมอไว้บ้างก็คือ "เรื่องวัดพระธรรมกาย" เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ก่อนจะวิพากษ์วิจารณ์ คุณหมอ ควรเข้าไปสัมผัสด้วยตนเองบ้าง

และที่ว่าเป็น "คอมมิวนิสต์" นั้น "ไอ้ทิด" ขอติแรงๆ เลยคือ คุณหมอพูดผิด 100% เพราะว่าเมืองไทยคอมมิวนิสต์ หมดไปนานแล้ว แกนนำ คอมมิวนิสต์ หันไปเล่นการเมืองและเป็นครูบาอาจารย์กันหมดแล้ว คุณหมอก็ทราบเรื่องนี้ดีกว่า "ไอ้ทิด" เสียอีก ไม่รู้ว่า คุณหมอพูดออกมาได้ อย่างไร คนระดับคุณหมอไม่น่าจะพลาดอะไรได้ง่ายๆ ลองตรวจสอบตัวเองดูทีซิว่า มีอะไรไปดลจิตดลใจ ในส่วนลึกของท่านหรือเปล่า น่าเป็น ห่วงนะครับ

คุณหมอถือเป็นผู้มีคุณธรรมสูงคนหนึ่งในสังคมเท่าที่ "ไอ้ทิด" ทราบ คุณหมอรักการปฏิบัติธรรมอีกด้วย ในเมื่อรักการปฏิบัติธรรม เมื่อเห็น คนอื่นเขาปฏิบัติ ควรจะส่งเสริมครับ ไม่ใช่ทำลาย

ถ้าคุณหมอติดตามเรื่องวัดพระธรรมกายมาโดยตลอด จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า มีการเปลี่ยนแปลงตัวละครมาตลอดตั้งแต่ เสถียรพงษ์ ส.ศิวรักษ์ พระพยอม เจิมศักดิ์ สุภาพ สุทธิชัย ขรรชัย ซึ่งนานวัน ตัวละครเหล่านี้ หมดความน่าเชื่อถือลงไปตามลำดับ เพราะว่า ไปร่วมกับ ขบวนการ กล่าวเท็จ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

หากว่าคุณหมอกลัวจะตกขบวน จะโดดร่วมรถไฟขบวนเดียวกัน "ไอ้ทิด" ก็ไม่ว่า เพียงแต่อยากเตือนให้คุณหมอระวังตัวไว้ให้ดี เพราะ อาจจะเสียรังวัดในเรื่องนี้ก็ได้ ขบวนการนี้มันน่ากลัวจริงๆ ครับ

อยากฝึกธรรมกาย

เรียนไอ้ทิด

ผมเพิ่งเริ่มปฏิบัติธรรม ได้ติดตามอ่านคอลัมน์ "ไอ้ทิด" มาตลอด เห็นสอดแทรกธรรมะที่น่าสนใจได้ดี ผมมีอยู่เรื่องหนึ่ง อยากรบกวน "ไอ้ทิด" คือ ผมยังไม่รู้ว่า จะเลือกฝึกกรรมฐานแบบไหนดี เพราะยังสับสนต่อข่าวคราวที่เกิดขึ้น แรกๆ ก็สนใจวิชชาธรรมกาย ของหลวงพ่อ วัดปากน้ำ ที่อ่านดูแล้วละเอียดละออดี แต่เมื่อมีคนมาบอกว่า วิชชานี้ผิด ทำให้ผมลังเลครับ วาน "ไอ้ทิด" ช่วยแนะนำด้วย

ด้วยความนับถือ

มือใหม่หัดขับ

เป้าหมายของการฝึกสมาธินั้น มี 2 แบบครับ คือ

แบบแรก ฝึกเพื่อให้หมดกิเลส ซึ่งผู้ฝึกจะต้องมองให้เห็นภัยในวัฏฏสงสาร ที่เต็มไปด้วยกองทุกข์ มีสุขน้อยทุกข์มาก จิตใจจึงต้องการ หาทาง หลุดพ้นจากกรงขัง ไร้สภาพอันนี้ เพื่อพบสุขอันถาวร ที่พระพุทธเจ้าท่านเรียกว่า "พระนิพพาน" นั่นแหละครับ ฝึกแบบนี้เรียกว่า วิปัสสนา กัมมัฏฐาน ซึ่งจะต้องได้ฐานมาจากการฝึกแบบที่สอง

แบบที่สอง ฝึกเพื่อให้ใจสงบ มีสมาธิในการประกอบหน้าที่การงาน หรือฝึกให้มีฤทธิ์มีเดช มีญานหยั่งรู้ แบบนี้เรียกว่า สมถะกรรมฐาน

เรื่องแบบนี้ "ไอ้ทิด" คงแนะนำให้ไม่ได้หรอกครับ เพราะตัว "ไอ้ทิด" เอง ยังเอาตัวไม่ค่อยจะรอด คุณจะเลือกฝึกแบบไหน ควรจะไปหา ครูบาอาจารย์ที่ท่านมีความช่ำชองชำนาญ ซึ่งท่านจะแนะนำให้คุณเอง

ถ้าคุณสนใจวิชชาธรรมกาย ก็ลองไปที่วัดปากน้ำ วัดสระเกศ วัดพระธรรมกาย หรือวัดหลวงพ่อสด ธรรมกายาราม ที่ อ.ดำเนินสะดวก ไปที่ไหนก็ได้ครับ ที่ใกล้บ้าน

การที่คุณลังเล มันเป็นการสมควรอยู่แล้ว เพราะเราต้องเลือกก่อน สำหรับวิธีที่แก้ลังเลสงสัย ที่ดีที่สุดนั้น คุณมือใหม่หัดขับ ควรจะไปดู ไปศึกษา ให้รู้มากกว่านี้อีกนิดหนึ่ง ถ้าชอบก็ลงมือทำ ถ้าไม่ชอบที่หาที่เหมาะสมกับจริตใหม่

โบราณว่า "สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น" ครับ

ภูเก็ตมีพระธาตุองค์แรก

คุณอัญชลี วานิชเทพบุตร ส.ส.ภูเก็ต เผยว่า ตามที่ได้กราบทูลอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ จากสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งอัญเชิญมาจาก ประเทศศรีลังกา เพื่อมาประดิษฐาน ณ วัดไชยธาราราม (วัดฉลอง) อ.เมือง จ.ภูเก็ต ให้เป็นสิริมงคลแก่บรรดาพุทธบริษัท ในภูเก็ต และฝั่งทะเล อันดามัน เนื่องจาก ยังไม่เคยมีการ ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ มาก่อน

พระบรมสารีริกธาตุนี้ จึงเป็นองค์แรกที่อัญเขิญมาจากประเทศศรีลังกา ตามกำหนดการอัญเชิญ ออกจากสนามบินดอนเมือง ไปยัง สนามบินภูเก็ต เมื่อวันศุกร์ที่ 9 เม.ย.2542 เวลา 11.00 น.

การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุครั้งนี้ พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้ไปรับ พระบรมสารีริกธาตุ ยังประเทศ ศรีลังกา ณ วัดสัมโพธิวิหาร

โดยจะนำไปประดิษฐาน ณ วัดป่าบ้านค้อ จ.อุดรธานี จำนวน 3 องค์ และวัดไชยาธาราราม (วัดฉลอง) อีก 1 องค์

ไอ้ทิด

[หน้าหลัก] [ปุจฉา]