ปีที่ 2 ฉบับที่ 648 ประจำวันจันทร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2542
วิวาทะ
เช้าเข้าวัด-ตกบ่ายร้องเพลงลั่นโบสถ์
สงครามข่าวสาร กรณีวัดพระธรรมกายยืดเยื้อ มาตั้งแต่ปลายปีเสือโหด 41 สื่อมวลชนประกาศ จะทำหน้าที่ล้มล้างวัดพระธรรมกาย และจับพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (พระธัมมชโย) สึกจากเพศสมณะ
ความพยายามดังกล่าวขยายวงกว้างออกไป ไม่จำกัดอยู่แต่เฉพาะสื่อมวลชน ข้าราชการฝ่ายการเมือง ข้าราชการพลเรือน ก็กระโดดลงมา เล่นเรื่องนี้ด้วย
คณะกรรมาธิการศาสนาฯ เสนอความผิดพระและวัดแห่งนี้ ให้คณะกรรมการมหาเถรสมาคม องค์กรปกครองสูงสุด ของสงฆ์วินิจฉัยโทษ สถานหนัก
ผลการตัดสินของมส.กลับไม่หลงคล้อยตามกระแส หรือข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่!
อันเป็นสาเหตุให้ผู้ที่ส่งข้อมูลลอยๆ ให้กับมส. แสดงความไม่พอใจออกมาตอบโต้มส.ทันทีทันควัน ว่า พระเถระในมส.รับสินบน มีพระ ชราภาพหลายรูปนั่งอยู่ในมส. ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะทำงานตรงนี้ได้อีกต่อไป
ปมประเด็นวัดพระธรรมกาย นำมาซึ่งการฟ้องร้องนสพ.พิมพ์ไทย โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก ฟ้องทั้งคดีแพ่ง และคดีอาญา เรียกค่าเสียหาย หมิ่นประมาทกว่า 58 ล้าน
มีเหตุการณ์รุนแรงบ้านพักของ เสฐียรพงษ์ ถูกมือปาระเบิดใส่ จนรถยนต์ส่วนตัว บ้านได้รับความเสียหายในเวลาต่อมา...
เสฐียรพงษ์ ออกมาระบุอย่างมั่นใจว่า....
สาเหตุระเบิดดังกล่าวน่าจะมีประเด็นมากจากการวิพากษ์วิจารณ์วัดพระธรรมกาย
อีกสาเหตุเขาได้ฟ้องร้องหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งไว้ด้วย
จนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถสรุปผลการสืบสวนสอบสวนคดีได้
หลังวันนักข่าว 5 มีนาคม 42 เกิดอุบัติเหตุ หัวหน้าข่าวหนังสือพิมพ์มติชน ประสบอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำเสียชีวิต สร้างความเศร้าโศก ให้กับคนในวงการ?
ล่าสุดอาคารภายในวัดสวนแก้ว ของพระพิศาลธรรมวาที หรือหลวงพี่พยอม กัลยาโณ ซึ่งเป็นพระที่มีบทบาท โจมตีวัดพระธรรมกาย รูปหนึ่ง เกิดเหตุเพลิงไหม้ ได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท
เหตุการณ์ครั้งนั้น พระพิศาลธรมวาที ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า น่าจะมาจากการประมาทของคนงาน ภายในวัด คงไม่ใช่เรื่องการวางเพลิง
ที่ผมพูดมาก็เพื่อต้องการให้ทุกคนเห็นสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ระหว่างความคิดเห็นที่ต่างคนต่างเห็นว่า อีกฝ่ายผิด ชั่ว เลว แต่อีกฝ่าย ยังคงยืนยันว่า สิ่งที่เขาทั้งหลายปฏิบัติศรัทธายึดถืออยู่ นั้นคือทองของแท้ ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้
เป็นธรรมดาที่มนุษย์เราในฐานะที่ยกตนเองเป็นสัตว์ผู้ประเสริฐ เป็นผู้ที่ไม่รังแกผู้อื่นโดยง่าย ขาดเหตุผลข้อมูลความจริง
ขณะเดียวกัน ทุกคนก็ต่างเรียกร้องโหยหาความยุติธรรม...อยู่หนใด ไม่แต่เฉพาะกรณีวัดพระธรรมกายเท่านั้น
การเซ็นรับคำสั่งคำแนะนำระหว่างเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ถูกกล่าวหา และพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ในฐานะผู้บังคับบัญชา ถือเป็นการยอมรับความผิดไปแล้วระดับหนึ่ง
แม้จะไม่ตรงธงตรงประเด็นตามข้อกล่าวหาร้ายแรงของกระแสสังคมก็ตามที
แต่ภาพดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึง การยอมรับกฎระเบียบในการอยู่ร่วมกับหมู่สงฆ์ฝ่ายเถรวาท ก็น่าจะเป็นทางออก ที่ชาญฉลาดของ มส. แล้วมิใช่หรือ?
ทุกสังคมย่อมหลีกเลี่ยงไม่พ้นที่จะเกิดปัญหาต่างๆ ยิ่งองค์กรขนาดใหญ่อย่าง วัดพระธรรมกาย แม้จะมีการจัดการต่างๆ ที่น่าทึ่ง แต่ก็ไม่อาจ หลีกเลี่ยงปัญหาได้
ที่ผมพูดลำดับเหตุการณ์ทุกข์ของทั้งสองฝ่ายที่เกิดขึ้น ในห้วงเวลาสั้นๆ ขณะหนึ่งนั้น มีเจตนาจะชี้ให้เห็นถึงวัฏสงสาร มีเกิด มีดับ หมุนเวียน อยู่อย่างนี้เอง
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
มนุษย์เราอยู่ท่ามกลางความทุกข์ เวียนว่ายตายเกิด ไม่ใช่ นิจจัง สุขัง อัตตา ไม่มีสุขใดเสมอเหมือน สุขแห่งพระนิพพานแท้
สังคมคิดอย่างเดียวว่า วัดพระธรรมกายมันช่างยิ่งใหญ่ เสียนี่กระไร มีคนเข้ามาปฏิบัติธรรมนับแสนคน
วัดแห่งนี้มีเงินมากมายมหาศาล?
วัดแห่งนี้ตั้งเป้าดูดเงินดูดทองจากชาวบ้าน?
ทว่า สังคมชาวบ้าน รวมถึงสื่อมวลชน ที่ต่างพากันด่าวัดและพระวัดนี้ทุศีล เลว ชั่ว กลับไม่ยอมเปิดใจ มองปัญหาดังกล่าว ด้วยความ เป็นธรรม ก่อนพิพากษา
เป้าหมายสูงสุดของวัดพระธรรมกายคืออะไร การเผยแผ่ธรรมะทางพุทธศาสนา ให้ทัดเทียมกับศาสนาอื่นๆ ที่ดำเนินการทุกอย่าง เพื่อให้ ศาสนาของเขา แผ่กิ่งก้านสาขาไปทั่วโลกหรือไม่
การโจทตีศาสนาพุทธของเรานี้ เขาก็ดำเนินการมาช้านานแล้ว ใช้เงินใช้ทองอย่างมหาศาล แทรกซึมเข้ามาในรูปของ การให้การศึกษา แก่ประชาชน เยาวชนของประเทศ
รัฐบาลเองกลับไม่เคยสนใจปัญหาเหล่านี้...
มองว่าเป็นเรื่องธรรมดาปกติ เช้าเข้าวัด ตกบ่ายแหกปากร้องเพลงประสานเสียงในโบสถ์!!!
บ้านใครยากจน อยากให้ลูกหลานมีอนาคต ได้รับการศึกษาสูง ก็ลืมพุทธเสีย ลืมพระห่มผ้าเหลืองผู้เห็นแก่ตัว เอาแต่แบมือขอชาวบ้าน เลี้ยงชีพไปวันๆ ท่านจงหันมานับถือเรา เป็นเนื้อนาบุญ แทนศาสนาของยูเถิด
จากนั้นอิทธิฤทธิ์ศาสดาที่ชื่อ เงิน เงิน เงิน ก็จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นยาวิเศษ บำบัดทุกข์ บำรุงสุขแทนพระพุทธศาสนา
เร่งรีบล้างพฤติกรรมที่ว่า ....คตนผิดชอบแก้ไข คนจัญไรชอบแก้ตัว... กันเถิดครับ
โซตัส