'สติ' จำต้องปรารถนา ในที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อ         

สติ - สติปัฏฐานสี่

การเจริญสติ หรือ สติปัฏฐานสี่

เป็นวิธีการที่พระพุทธองค์ทรงกล่าวไว้ว่า เป็นทางสายเอก คือเป็นเส้นทางสายเดียว เป็นวิธีการเดียว ที่จะพาสรรพสัตว์ ไปสู่การพ้นทุกข์ คือ การค่อยๆ รู้เท่าทันเกี่ยวกับความทุกข์ การค่อยๆ ลดความทุกข์ในทุกๆ แง่ให้เบาบางลงไป จนในที่สุดเมื่อถึงสุดทางแล้ว สติปัฏฐานสี่นี้เอง สามารถนำสรรพสัตว์ผู้ฝึกฝนอบรมตนไปสู่การพ้นทุกข์อันแท้จริง คือ การไม่ต้องเกิดอีก คือ ได้ถึงซึ่งพระนิพพาน

สติปัฏฐานมี ๔ ประการ คือ

กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน - มีสติระลึกรู้กายของตนอยู่
เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน - มีสติระลึกรู้ในเวทนาที่กำลังเกิดแก่ตน
จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน - มีสติระลึกรู้ในอาการทางใจที่กำลังเกิดกับตน
ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน - มีสติระลึกรู้ธรรมที่กำลังเกิดกับตน

พูดโดยสั้นและให้เข้าใจง่าย

สติปัฏฐานสี่ ก็คือ การเพียรพยายามมีสติระลึกรู้อยู่ในกายและใจตน ว่า ณ ขณะปัจจุบันวินาทีนี้ กายหรือใจก็ตาม กำลังมีอาการอย่างไร กำลังเป็นไปอย่างไร กำลังมีอาการหรือสภาพอาการใดๆ เกิดขึ้นอยู่ตรงกายกับใจตน ณ ขณะนี้ๆ เป็นขณะๆ ไป

สติปัฏฐานสี่นี้ สำหรับผู้ฝึกใหม่ก็จะค่อนข้างเป็นเรื่องยาก ที่ว่ายาก คือ ยังไม่ค่อยชัดเจนว่าจะเจริญสติปัฏฐานสี่หรือเจริญสติอย่างไร วิธีการเป็นอย่างไร ระลึกรู้อย่างไร แต่เมื่อได้ลงมือลองฝึกฝนเจริญสติดู ด้วยตนเอง เมื่อติดขัดก็สอบถามกับครูบาอาจารย์หรือผู้ที่รู้และเข้าใจถูกต้อง ที่สามารถแนะนำทางที่ถูกให้ได้ ก็จะค่อยๆ เจริญสติได้คล่องแคล่วขึ้น ผู้ฝึกฝนมักต้องใช้เวลากันเป็นปีๆ กว่าที่จะอยู่ตัว คือ เจริญสติจนกระทั่ง สติอยู่ตัว มีสติได้พอสมควรในทุกๆ ขณะในชีวิตประจำวัน ดังนั้น แรกๆ ในการเจริญสติ เป็นเรื่องของความเพียรพยายามฝึกฝน ซึ่งก็เป็นการฝึกฝนที่สนุกสนานและบันเทิงใจมาก และต่อๆ ไปเมื่อสติอยู่ตัวพอสมควรแล้ว ก็จะมีความสุข (อันไม่ใช่ ความสุขแบบโลกๆ) อยู่กับการที่มีสติรู้ตัวทั่วพร้อมอยู่เนืองๆ เป็นความสุขอันสงบ ประณีตกว่าความสุขแบบโลกๆ เป็นความสุขที่ประกอบไปด้วยปัญญาสู่การพ้นทุกข์

       เจริญในธรรม       

| ใหม่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕- วันมาฆบูชา |
| deedi_deedi@email.com |
1