![]() |
||||
ประวัติและความหมายของตราประจำจังหวัด | ||||
![]() |
||||
สภาพโดยทั่วไปของจังหวัดเพชรบูรณ์ | ||||
จังหวัดเพชรบูรณ์ตั้งอยู่ภาคเหนือตอนล่างของประเทศไทย อยู่ตรงบริเวณระหว่างภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือประมาณเส้นรุ้งที่ 16 องศาเหนือ กับเส้นแวง 101 องศาตะวันออก ส่วนกว้างของจังหวัดเพชรบูรณ์วัดจากด้านตะวันออกถึงตะวันตก ยาว 55 กิโลเมตร ส่วนยาวทีสุดวัดจาก ด้านเหนือสุดถึงใต้สุดของจังหวัดยาว 296 กิโลเมตร สูงจากระดับ น้ำทะเลประมาณ 114 เมตร อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 346 กิโลเมตร ตามทางหลวงสายหมายเลข 21 มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียงดังนี้ | ||||
![]() |
||||
![]() |
||||
![]() |
||||
![]() |
||||
ขนาดพื้นที่ | ||||
จังหวัดเพชรบูรณ์ มีเนื้อที่ประมาณ 12,668,416 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 7.9 ล้านไร ่ เป็นพื้นที่ทำการเกษตรประมาณ 4,570,234 ไร่ ใช้ประโยชน์อื่นๆ ประมาณ 995,651ไร่ และเป็นพื้นที่ป่าประมาณ 2,351,875 ไร่ | ||||
ลักษณะภูมิประเทศ | ||||
มีภูมิประเทศเป็นที่ลุ่มแบบท้องกะทะ ประกอบด้วยเนินเขา ป่าและที่ราบเป็นตอนๆ สลับกันไป พื้นที่มีลักษณะลาดชันจากเหนือลงไปใต้ ตอนเหนือมีทิวเขาสูงตอนกลางของจังหวัดเป็นพื้นราบ และมีเทือกเขาเพชรบูรณ์ขนาบกันไปทั้งสองข้างทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ถ้าอยู่ในจังหวัดจะมองเห็นภูเขาล้อมรอบทั้งสี่ด้าน มีแม่น้ำป่าสักซึ่งเป็นแม่น้ำสำคัญที่สุดของจังหวัดไหลผ่านตอนกลางของจังหวัด จากทิศเหนือไปทิศใต้ ยาวประมาณ 350 กิโลเมตร ต้นน้ำเกิดจากภูเขาผาลา จังหวัดเลย และห้วยลำธารหลายสายเกิดจากภูเขาเพชรบูรณ์ แม่น้ำป่าสักไหลผ่านอำเภอหล่มสัก อำเภอเมือง และไหลผ่านอำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี อำเภอแก่งคอยและอำเภอเมืองสระบุรี อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งซ้ายที่ป้อมเพชรอำเภอพระนครศรีอยุธยา ในฤดูฝนถ้าฝนตกชุกน้ำจะไหลท่วมท้นฝั่งแม่น้ำ ทำให้เกิดอุทกภัยตามบริเวณชายฝั่งแม่น้ำทั้งสองข้าง ส่วนฤดูแล้งน้ำจะตื้นเขินขาดตอนเป็นช่วงๆ ไม่มีน้ำเพียงพอสำหรับใช้ทำเกษตร นอกจากจะใช้แหล่งน้ำธรรมชาติ ลำคลอง ลำห้วย หนอง บึง ขนาดเล็ก ซึ่งอยู่กระจัดกระจายทั่วไป | ||||
ลักษณะภูมิอากาศ | ||||
เนื่องจากจังหวัดเพชรบูรณ์มีภูเขาล้อมรอบ ทำให้อากาศร้อนจัดในฤดูร้อนและหนาวจัดในถ ฤดูหนาว โดยเฉพาะในท้องที่อำเภอน้ำหนาวและอำเภอหล่มเก่าตอนบน อากาศหนาวมากที่สุดของจังหวัด | ||||
แหล่งน้ำ | ||||
แม่น้ำป่าสัก เป็นแหล่งน้ำสำคัญและถือเป็นสายเลือดใหญ่ที่สำคัญที่สุดของจังหวัดเพชรบูรณ์ไหลผ่านอำเภอหล่มเก่า หล่มสัก อำเภอเมืองฯ อำเภอหนองไผ่ อำเภอบึงสามพัน อำเภอวิเชียรบุรี อำเภอศรีเทพ ตลอดแนวจังหวัดจากทางเหนือลงใต้ ฤดูฝนมีฝนตกชุก น้ำจะท่วมล้นสองฝั่ง ในบางปีเกิดอุทกภัยตามบริเวณริมฝั่งแม่น้ำ ทั้งสองข้างทำให้เกิดความเสียหายแก่พื้นที่ทั้งสองฝั่งแม่น้ำ ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ได้อาศัยน้ำจากแม่น้ำนี้ทำการเกษตร และใช้สำหรับบริโภคถ 2. ฝายศรีจันทร์ เป็นแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าอิบุญ อำเภอหล่มสัก สามารถกักถ เก็บน้ำไว้ให้ประชาชนทำการเกษตรได้ตลอดปี 3. อ่างเก็บน้ำห้วยป่าแดง เป็นอ่างเก็บน้ำที่กรมชลประทานสร้างกั้นลำห้วยป่าแดง เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตร การประปา และขยายพันธุ์ปลา ตั้งอยู่ตำบลป่าเลา อำเภอเมือง ฯ และสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ได้ตลอดปี นอกจากนี้แหล่งน้ำที่กล่าวมาแล้วนี้ เกษตรกรยังได้ใช้น้ำจาก ห้วย หนอง คลอง บึง ซึ่งมีอยู่ทั่วไปในพื้นที่ | ||||
ประเพณี
อุ้มพระดำน้ำ
|
||||
![]() ![]() |
||||
การอัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชาลงสรงน้ำ ตรงกับวันเทศกาลสารทไทย หรือตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี ภายหลังถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์แล้ว เจ้าเมืองเพชรบูรณ์พร้อมด้วยข้าราชการ ตลอดจนประชาชนในเมืองเพชรบูรณ์ จึงร่วมกันอัญเชิญพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์นี้ ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเพชรบูรณ์ ปรางค์สมาธิ ศิลปะสมัยลพบุรี หล่อองค์เนื้อทองสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 13 นิ้ว สูง 18 นิ้ว ไม่มีฐาน ไปทำพิธีสรงน้ำ ชาวบ้านเรียกว่า "ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ" หรือ "อุ้มพระสรงน้ำ" บ้าง และทำพิธีสรงน้ำที่วัดมะขามแฟบ ตรงที่พบพระองค์นี้ครั้งแรก ปากปีใดน้ำน้อยก็อัญเชิญไปสรงน้ำที่โบสถ์ชนะมาร ทางเหนือเมืองเพชรบูรณ์ | ||||
สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์
|
||||
อ่างเก็บน้ำห้วยป่าแดง | ||||
![]() |
||||
น้ำตกตาดหมอก | ||||
น้ำตกตาดหมอก ตั้งอยู่ที่ตำบลนาป่า อำเภอเมือง เป็นน้ำตก มีอาณาเขต 6 ตารางกิโลเมตร มีความสูง 750 เมตร ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นน้ำตกที่มีความสูงที่ในประเทศ แบ่งชั้นต่างๆได้ 12 ชั้น สภาพป่าโดยรอบ เป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่นานาชนิด |
|
|||
เสาหลักเมืองเพชรบูรณ์ | ||||
เสาหลักเมืองเพชรบูรณ์ ประดิษฐานอยู่ที่ศาลเทพารักษ์หลักเมือง ถนนหลักเมืองใจกลางเมืองเพชรบูรณ์ เป็นเสาหินที่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานว่าวัดนี้คงสร้างมาแต่สมัยกรุงสุโขทัย | ||||
![]() |
||||