สวย-ดังจนน่าหมั่นไส้ เปลี่ยนน้ำชา 3 ที เลยมีเรื่อง

ฮือฮากันพอสมควรสำหรับการมาเยือนเมืองไทยของดาราสาวคนดังจากเกาหลี จอน จี-ฮุน กับพระเอกหนุ่มจัง ฮุคที่มาโปรโมตภาพยนตร์ Windstruck ซึ่งมีชื่อไทยแสนเก๋ไก๋ว่า ยัยตัวร้ายกับนายเซ่อซ่า ผลงานชิ้นล่าสุดของพวกเขาทั้งคู่
แต่กระแสฮือฮาที่ตามมาหลังจากเธอกลับประเทศไปแล้ว คือ พฤติกรรมที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่รับแขก แถมสื่อมวลชนที่มีโอกาสได้สัมภาษณ์เธอก็ต่างส่ายหน้ากับการตอบคำถามที่ไม่ค่อยเต็มใจตอบจนไม่อาจจับประเด็นใดๆไปเขียนข่าวได้อย่างมีเนื้อมีหนัง
อารมณ์หงุดหงิดนำพาไปสู่การแสดงความคิดเห็นเชิงลบต่อทั้งทีมงานฝ่ายเกาหลีที่แสนเรื่องมากและทีมงานฝ่ายไทยที่จัดตารางการสัมภาษณ์ได้ไร้ระเบียบสิ้นดี ผ่านทั้งการคุยกันในวงสนทนาและการเผยแพร่ผ่านสื่อในมือตัวเอง โดยเฉพาะอย่างหลังซึ่งการแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อต่างๆ ได้มีปรากฏการณ์ที่กลุ่มแฟนพันธุ์แท้ของเธอออกโรงมาปกป้องเธอในเชิงขอความเห็นใจเป็นอย่างเบาและตอกกลับสื่อบ้างเป็นอย่างหนัก

วิวาทะแบบเบาะๆ

กระทู้หนึ่งในเวทไซท์ชื่อดังซึ่งเพิ่งมีส่วนเกี่ยวพันกับคดีความการโพสรูปลับของนางเอกสาวทรงโต กลายเป็นสังเวียนการโต้เถียงอีกครั้ง และประเด็นเล็กเกี่ยวกับที่เธอขอเปลี่ยนเครื่องดื่มถึง 3 ครั้ง เพราะไม่ชอบใจน้ำชาที่ทีมงานเตรียมไว้ให้ ฝ่ายต่อว่าต่างก็หาว่าเธอ ไม่สวย หน้าไม่ถึงขั้น ยังทำตัวเว่อ นึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ
บ้างก็ว่า เธอไม่ได้ดังจริง เพราะถามจากเพื่อนส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นมีใครรู้จัก บ้างก็รุนแรงถึงขึ้นจิกหัวเรียก ไอ้ อี กันไป “สวยตายละ E หมวยเนี่ย ตาตี่ ปากใหญ่ ตัวขาวอย่างเดียว ไม่สวยแล้วยังเรื่องมาก น่ารังเกียจอย่างแรง”
ฝ่ายปกป้อง ก็ตอบโต้ทันควันอ้างว่า “เพราะเธอเป็นคนดัง ทำให้แม้แต่กิริยาเล็กๆ น้อยๆ เช่นขอเปลี่ยนน้ำชา (ซึ่งใครๆ ก็มีสิทธิ์ทำ) ถูกเอามาเป็นประเด็นให้หมั่นไส้ เห็นแล้วก็สงสาร เพราะเป็นคนดังเรื่องแค่นี้ก็ต้องเอาไปขยาย เหมือนความผิด (หรืออาจจะไม่ผิด) เท่าเม็ดงา แต่ขยายเสียงเท่าช้าง ว่าเป็น E เรื่องมาก! E หน้าหงิก ! จนอาจถึง E เลว! “
บางความคิดเห็นก็บอกว่า “เธอไม่ใช่คนสวย แต่น่ารักดูแล้วมีเสน่ห์ และอีกอย่าง ไม่ใช่ว่าเธอจะดังขนาดที่ทุกคนในประเทศไทยจะต้องรู้จักเพียงแต่ว่าคนที่ชอบดูหนังเกาหลีเกือบทุกคนจะรู้จักและก็ชอบเธอ”
และก็มีบางความเห็นที่ออกโรงตอกกลับด่ากราดนักข่าวว่าไม่รู้จักทำการบ้านมาก่อน “หมั่นไส้สื่ออยู่แล้วโดนซะบ้างก็ดี” หรือ “นักข่าวน่าจะโดนมากกว่านี้ มันไม่ได้นึกอะไร บ้าแต่จะถ่ายรูปอย่างเดียว” ถึงขั้นตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของหนังสือพิมพ์หัวสีบางเล่ม

มุมร้ายคนน่ารัก

จากแหล่งข่าวที่มีความใกล้ชิดกับผู้อยู่เบื้องหลังการมาของจอน จี-ฮุนครั้งนี้ ได้ฟังและได้มาเล่าต่อถึงระบบการทำงานที่ไม่ค่อยยืดหยุ่นหรือโอ่นอ่อนให้ของทีมงานฝ่ายเกาหลี ทั้งผู้จัดการส่วนตัวของจอน จี-ฮุนและจัง ฮุคจะพิจารณาทุกขั้นตอนแม้กระทั่งรายละเอียดย่อยในตารางงานการมาเยื่อนเมืองไทย ซึ่งทางทีมงานเจ้าของหนังต้องส่งก่อนร่วมๆ 2 สัปดาห์
ทว่าการวางแผนล่วงหน้า 2 สัปดาห์นั้นฝ่ายไทยมีเหตุให้ต้องเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด รวมทั้งการยืนยันนัดหมายกับสื่อที่จะมาสัมภาษณ์ก็มีความล่าช้า และยังมีสื่อเพิ่มเติมอีกมากมายที่แสดงความสนใจจะขอร่วมสัมภาษณ์ด้วย จึงจำเป็นต้องมีการสอดแทรกสอดไส้เพิ่มเติมเข้ามา
แม้จะไม่ใช่ปัญหาที่ดูว่ารุนแรงแต่กลายเป็นว่ามันได้บรรยากาศประเภทพูดไม่ออกบอกไม่ถูกระหว่างกัน กับการที่ทีมงานฝ่ายเกาหลีจะพลิกตารางที่เขาพิจารณาแล้วและเมื่อเช็คกับความเป็นจริงกลับไม่ค่อยตรงกันนัก เพราะสไตล์การทำงานแบบไทยจะเน้นไปที่ความยืดหยุ่นและดูสถานการณ์เฉพาะหน้าเป็นหลัก
กลายเป็นว่ามันเป็นเรื่องของความต่างในปรัชญาการทำงาน!!! นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าอีกว่าก่อนมาถึงเมืองไทยจอน จี-ฮุนและจัง ฮุคได้ไปเยือนไต้หวัน และต้องเผชิญกับสื่อมวลชนที่ไม่ให้เกียรติอย่างรุนแรง โดยเฉพาะการตั้งคำถามที่คุ้ยแคะเรื่องส่วนตัว ถึงกับมีคำถามหนึ่งถามจอน จี-ฮุนว่า “ชีวิตเซ็กซ์ของคุณเป็นอย่างไร” ซึ่งกลายเป็นคำถามประเภทวงแตกและทีมงานเกาหลีสั่งหยุดและเกือบยกเลิกโปรแกรมในไต้หวันทั้งหมดเป็นการตอบโต้
ปัญหาเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยที่ไม่ดีพอขณะที่ทีมงาน Windstruck เยือนไต้หวันก็สร้างความยุ่นเหยิงเพิ่มเติมอีก เมื่อมีแฟนหนังลงทุนซื้อตั๋วชั้นธุรกิจเพื่อจะเข้าไปขอลายเซ็นต์เธอในเล้าช์ของสายการบิน คาดว่าพอสมหวังแล้วก็ออกมาเคลมเงินคืนครึ่งหนึ่งแต่ที่สุด เธอก็ปฏิเสธการเซ็นชื่อให้กับแฟนเหล่านั้น เพราะคิดว่ามันลุกล้ำถึงขั้นคุกคามความเป็นส่วนตัวมากเกินไป!!!

มุมน่ารักยัยตัวร้าย

ประสบการณ์เลวร้ายที่ไต้หวันอาจทำให้เธอต้องระวังตัวเป็นพิเศษเมื่อมาถึงเมืองไทย อะไรที่เป็นเรื่องเกินหน้าที่เธอจึงปฏิเสธเกือบทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ด้วยเวลากับทางทีมการ Windstruck จากเกาหลีและทีมงานไทยได้ประสานงานกันตลอด ก็เริ่มมีการปรับความเข้าใจกันและก็ดูเหมือนว่าในช่วงปลายการเยือนเมืองไทย ทั้งจัง ฮุคและจอน จี-ฮุนก็มีท่าทีแจ่มใสขึ้น
เล่ากันว่าในคืนที่เสร็จจากการไปเปิดตัวหนังที่โรงภาพยนตร์เมเจอร์ รัชโยธิน ก็ได้มีการออกไปรับประทานอาหารเย็นร่วมกับระหว่างทีมงานเกาหลีและทีมงานไทย โดยเลือกร้านอาหารง่ายๆแถวพระราม 3 มีการสั่งอาหารไทยทั้งคาวทั้งหวานมาให้ลองกัน
ที่ฮือฮาคือทุเรียนที่ฝ่ายผู้จัดการเกาหลีอยากลองทาน ถึงขั้นหิ้วกับไปทางที่ห้องพักพร้อมกับเพื่อนเกาหลี รวมทั้งจอน จี-ฮุนและจัง ฮุค แต่เพียงแค่แกะห่อ กลิ่นของทุเรียนก็ฟุ้งกระจายไปทั่ว ทีมงานเกือบทั้งหมดถึงกลับแตกฮือ มีเพียงโปรดิวเซอร์บิล คอง,จัง ฮุคและจอน จี-ฮุนหยิบชิมกันคนละคำซุบซิบกันว่ามาคราวนี้จัง ฮุคจะเจริญอาหารเป็นพิเศษ และให้ความเห็นว่าอาหารไทยอร่อยมาก ๆ โดยเฉพาะข้าวตังหน้าตั้งที่จัง ฮุคติดใจถึงกับรับประทานไปคนเดียวสองถาดเล็ก !!!
กิจกรรมอีกอย่างที่ทีมงานเกาหลีค่อนข้างจะแฮปปี้มากๆคือการนวดแผนโบราณที่ทางทีมงานไทยอำนวยความสะดวกให้ถึงห้อง สิ่งที่แสดงให้เห็นว่านักแสดงทั้งคู่เหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางคือจัง ฮุคปฏิเสธที่จะนวดเพราะต้องการนอนพัก ผ่อน
ส่วน จอน จี-ฮุนขอให้เอาคนที่เตรียมให้จัง ฮุคมานวดให้เธอแทน กลายเป็นว่าเธอขอเบิล 2 เลย!!!
จากการสนทนาเพิ่มเติมกับแหล่งข่าว ได้ความว่า ทั้งจอน จี-ฮุนและจัง ฮุครู้สึกแปลกใจมากที่มีแฟนหนังชาวไทยติดตามผลงานของทั้งคู่มากมายขนาดนี้ รวมทั้งฝากขอบคุณสำหรับการต้อนรับอันอบอุ่น และอัธยาศัยที่มีไมตรีจิตดียิ่งและหวังว่าจะได้กลับมาอีกครั้ง
กระซิบกันมาว่า ถ้าคราวหน้าจอน จี-ฮุนมาเมืองไทยเธออยากจะไปแวะที่ภูเก็ต

Copyright ฉ Bangkok Commercial Campus 2004 All rights reserved. Design by Chutima Unsap
1