การเข้าถึงและการมีส่วนร่วมในเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

มีผลต่อการปรับสถานภาพของผู้หญิง

จาก วารสาร Media Asia Volume 26 Number 3 1999 page.153

โดย Lillian Mercado Carreon

จากบทความกล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา เอเชียก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในหลายๆด้าน  ใน100 ปีที่ผ่านมา สื่อสิ่งพิมพ์ถูกนำมาคลอบคลุมช่องทางการสื่อสารได้ทั้งหมด  เทคโนโลยีอันหลากหลายจะสามารถสร้างความรุดหน้าและการเติบโตในระบบเศรษฐกิจเอเชียในปี 1980 เป็นต้นมา  โทรทัศน์ถูกนำเข้ามาซึ่งเป็นความนิยมของประชาชนระบบกลางเกือบทั้งหมด แต่ในปัจจุบันกระบวนการในศตวรรษที่ 21 การรุดหน้าในเทคโนโลยีการสื่อสารใหม่ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนภายในทวีปเอเชียทั้งด้านขนบธรรมเนียม วัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ค่านิยม และการแลกเปลี่ยนอันเป็นเกิดขึ้นจาก พวกเราผลิต ใส่ ดำเนินการรวบรวมและ การสื่อสารข้อมูล

            ความต้องการความรู้อย่างมากนี้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโลก โดยการพัฒนาของเทคโนโลยีอันหลากหลาย ภาวะการแข่งขันที่สูง ในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ และระบบเศรษฐกิจที่นำมาสิ่งผลแห่งการพัฒนา  และระบบเศรษฐกิจนี้เอง ระบบอุตสาหกรรมการสื่อสาร และข้อมูล จึงเป็นนวัตกรรมใหม่  การเติบโตของเทคโนโลยีสารสนเทศ นี้เองทำให้เกิดการสื่อสารของระบบจักรวาล และ การไหลเวียนของข้อมูลที่เป็นไปได้ ในก้าวไปอย่างเป็นลำดับและเป็นไปตามแนวทางอย่างไม่น่าจะเกิดขึ้นได้  การเข้าถึงเทคโนโลยีนำความเป็นส่วนตัว การสื่อสารอันหลากหลาย ความเป็นชาติ และภูมิภาค อันมีความสามารถปฏิสัมพันธ์และสื่อสาร บนขอบเขตของโลก และในระดับที่รวดเร็ว ราคาถูก และมากด้วยประสิทธิภาพ มากกว่ารุ่นก่อนๆ ถ้าการจ้างงานในระบอบประชาธิปไตย เทคโนโลยีนี้เป็นเครื่องมืออันทรงพลัง สำหรับการรุดหน้าของระบบเศรษฐกิจในบนความเสมอภาค และการพัฒนาสังคม รวมทั้งการเท่าเทียมทางเพศ

            อย่างไรก็ตาม ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลและการสื่อสารโลก จะสร้างสิ่งตรงข้ามความเป็นจริงสำหรับผู้หญิง สองประการด้วยกัน ด้านหนึ่ง ผู้หญิงมีโอกาสทำงานใหม่ๆ เป็นผลมาจากเทคโนโลยีสารสนเทศใหม่ แต่ในทางกลับกัน ผู้หญิงมีประสบการณ์ที่รายงานถึงการเพิ่งการจ้างงาน ซึ่งเป็นผลมาจากระบบเทคโนโลยีสารสนเทศใหม่นี้ด้วย ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศใหม่นี้มีการเติบโตอย่างเป็นไปได้อย่างมาก สำหรับการปฏิสัมพันธ์และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมสากล แต่ในเวลาเดียวกัน ก็ขาดเชิงลึกออกไป  ฉะนั้นใครที่มีการเข้าถึงและใครมีการเรียนรู้ที่จะใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารใหม่นี้ มันจะเป็นเครือข่ายและหนทางอันหลากหลาย ที่พวกเขานั้นไม่สามารถเป็นไปได้ล่วงหน้า  ทรัพยากรเทคโนโลยีสารสนเทศ มีส่วนคลอบคลุม จากกระแสหลักข้อมูล และพื้นที่การสื่อสาร ในกระแสโลก

ผลกระทบต่อผู้หญิง

            ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้เกิดการสลับสื่อมวลชนเอเชียในทศวรรษล่าสุด กฏเกณฑ์ทางเพศในการทำงานของสื่อมวลชน สิ่งที่เหลืออยู่สถานที่ทำงานเป็นพื้นฐานเหมือนกัน  ในปี 1997  มี 10 ประเทศที่ทำการสำรวจโดยสถาบัน Isis international เมืองมะนิลา ได้มีการวางการทำงานร่วมกัน ระหว่างผู้หญิงที่ทำงานสื่อมวลชนอาชีพ  , สื่อและทุนเกี่ยวกับการสื่อสาร , และองค์กรไม่สังกัดรัฐบาล เกี่ยวข้องด้วยสื่อ ได้แสดงถึงจำนวนผู้หญิงที่เข้ามาทำงานในสื่อที่เพิ่มขั้น  ผู้หญิงไม่รับภาวะเทียบเท่าผู้ชายในการมีส่วนร่วมและการตัดสินใจในข่าว ซึ่งมีตัวอย่างจะขอยกมาดังนี้

 

ในประเทศจีน ผู้หญิงไม่ได้รับการถูกนำเสนอเป็นตัวแทนในขั้นการตัดสินใจขององค์กรสื่อ เพียงแค่ 8.5 เปอร์เซ็นต์ที่เป็นผู้หญิงในระบบบริหารและระดับกองบรรณาธิการขององค์กรข่าวและเป็นอันดับสามใน 87,000 คนในนักข่าวหรือนักเขียน ในสื่อของจีนที่เป็นผู้หญิง

 

ในประเทศไทย จำนวนผู้หญิงในระดับมืออาชีพที่ทำงานในอุตสาหกรรมสื่อมีจำนวนต่ำ เพียง 0.1 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับ ผู้ชายที่เป็น 2.2 เปอร์เซ็นต์ จาก นักสื่อสารมวลชนจำนวนกว่า 4,332 คน มีเพียง 17 เปอร์เซ็นต์ที่เป็นผู้หญิง ที่ก่อตั้งในส่วนของแผนกที่เกี่ยวแรงงานทางเพศ นั้นหมายถึงว่าผู้หญิงจะทำงานในส่วนของข่าวสังคม และคอลัมภ์กอสสิบ ในขณะที่ผู้ชายจะดูแลส่วนของการเมืองการปกครองและข่าวเศรษฐกิจ  ผู้หญิงจะถูกรวมกลุ่มในเจ้าหน้าที่ตำแหน่งทั่วไป  อย่างเช่น นักบัญชีชั้นสูง และผู้ประสานงาน ผู้หญิงที่เป็นนักบริหารชั้นสูงในสื่อ โดยส่วนใหญ่เธอจะเป็นเจ้าของกิจการเสียเอง  ซึ่งนับตั้งแต่การอคติทางเพศ ถูกกล่าวถึงในแผนกต่างๆของลูกจ้าง ผู้หญิงจะถูกให้ทำงานในงานที่มีความสำคัญน้อย จะได้รับโอกาสในการสนับสนุนน้อง เป็นผลมาจากจำนวนผู้บริหารสตรีที่ปรากฏมีจำนวนน้อยกว่าผู้ชาย  ผู้หญิงที่อยู่ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงไม่ได้เป็นค่านิยม พวกเราจะไม่ความอยากในส่วนทำงานมากกว่าผู้ชายและมักจะมีเงื่อนไขพิเศาหรือเป็นนักการเงินที่ล้มเหลวต่อความสำเร็จ

 

            ในประเทศเกาหลีใต้ จากการสำรวจหนังสือพิมพ์รายวัน 21 แห่ง เอเจนซี่ใหม่ และเครือข่ายสื่อมวลชนพบว่าจำนวนนักข่าวผู้หญิงในนักหนังสือพิมพ์รายวันหลักมีจำนวนลดลงจาก 8.2 เปอร์เซ็นต์ ในปี 1990 และมีจำนวนเฉลี่ยเพียง 5.5 เปอร์เซ็นต์ในปี 1995 อย่างไรก็ตามสัดส่วน ของนักข่าวผู้หญิงจะมียอดสูงในเฉพาะหนังสือพิมพ์รายวันพิเศษ อย่างเช่น ภาษาอังกฤษ  42 เปอร์เซ็นต์ หนังสือพิมพ์เศรษฐกิจ 9 เปอร์เซ็นต์ เหตุผลสำหรับการอธิบายความแตกต่างของอัตราการจ่ายค่าตอบแทน  นักข่าวหญิงควรจะได้รับความเท่าเทียมกันกับนักข่าวผู้ชายที่ถูกซื้อตัวอย่างถูกจากสื่อ

            ผู้จบการศึกษาในส่วนของสื่อสารมวลชนจากมหาวิทยาลัยมีความต้องการยอ่งมาที่จะทำงานในองค์กรสื่อหลัก ตั้งแต่ นักหนังสือพิมพ์ได้รับงานที่ค่าตอบแทนดี  มันเป็นเรื่องที่ยากอย่างมากสำหรับผู้หญิงจะมาทำเป็นนักข่าวในหนังสือพิมพ์รายวันหลัก และเครือข่ายโทรทัศน์  เพราะว่าความชัดเจนและการซ่อนเร้นจะแยกมาตรการการต่อต้านผู้หญิงในขั้นการตัดสินใจในองค์กรสื่อสารมวลชน ผู้หญิงที่มีกำแพงการวิจารณ์นั้นก็คือพวกเขาไม่รับความเป็นธรรมในกระบวนการการทำงานและการสนับสนุนในองค์กรสื่อที่ถือว่าผู้ชายดูแลทั้งหมดที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด

 

            การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้หญิงในสื่อคือเหตุสำคัญที่จะปรับสถานภาพสื่อผู้หญิงและเพิ่มความสามารถที่จะช่วยปรับปรุงสถานะของผู้หญิงทั้งหมดในสังคม นี้เป็นเป้าหมายที่เป็นรูปแบบสำหรับการดำเนินงาน  การจัดวาระของโลกโดยองค์การต่างประเทศ อย่างเช่น UN ,Civil Society และ ตัวแทนของสื่อตั้งแต่การประชุมโลกครั้งที่ 4 เพื่อผู้หญิงในปี 1995 ณ กรุงปักกิ่ง หนึ่งประเด็นที่วิพากย์ในรูปแบบก็คือสื่อและความสัมพันธ์ของมันเอง มีการกำหนดวัตถุประสงค์สองประการด้วยกัน

  • อย่างแรก คือการเพิ่มการมีส่วนและและการเข้าถึงของผู้หญิงเพื่อดำเนินการและตัดสินใจในกำหนดสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารใหม่

  • อย่างที่สอง การสนับสนุนที่เท่าเทียมและไม่มีรูปแบบของผู้หญิงในสื่อ

ใน 5 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่การประชุมโลกครั้งที่สี่ เกี่ยวกับผู้หญิง และพวกเราได้มีการเปลี่ยนแปลงเชิงพวกที่เกิดขึ้น ในภาคของผู้หญิงทั้งหมายด้านการศึกษาหลักและการฝึกอบรม และการทำงานของสื่อ  จำนวนของผู้หญิงทำงานที่กระเถิบตัวเองในสื่อมวลชนเป็นท้าทายที่สำคัญ การทดสอบสื่อในระยะยาว และงานประจำ และมาตรฐานสำหรับนักข่าว เพราะว่ามันจะสร้างความกดดันในสื่อของพวกเขาเอง นี้เป็นหลักฐานในทุกๆแห่ง ว่าเมื่อผู้หญิงประกอบกำลัง กัน พวกเขาสามารถและสร้างความแตกต่าง ในบางกรณีที่มีผู้หญิงจะทำให้เกิดผลกระทบเปลี่ยนแปลงทางบวกการรายงานข่าวและภาพรวมของผู้หญิง ดังตัวอย่างดังนี้

 

ในประเทศญี่ปุ่นการใช้ ข่มขืนจะถูกหลีกเลี่ยงในเรื่องราวที่เกี่ยวกับการข่มขืน คำที่ถูกใช้จะเป็นส่วนของความรุนแรง อย่างกรณีที่เหยื่อเป็นผู้หญิงโต และส่วนของชาวญี่ปุ่นสำหรับการทำร้าย เมื่อเหยื่อเป็นเด็กผู้หญิง นี่เป็นแบบที่สนับสนับการป้องกันเหยื่อจากความด่างพร้อยทางสังคม แต่อย่างมันก็เป็นเหตุธรรมดาที่สื่อจะกล่าวถึงชื่อของเหยื่อ แต่เหตุการต่อต้านของผู้หญิง บางหนังสือพิมพ์มีการเริ่มใช้ชื่อข่มขื่น ว่า ข่มขื่นและเก็บชื่อของเหยื่อไว้ นี่ก็คือกลยุทธ์การปรับ เพราะว่ามันเป็นชื่อที่แสดงถึงการข่มข่มซึ่งมีการยอมรับปริมาณเท่ากันการต่อต้านอาชญากรรมผู้หญิง การฝ่าฝืนสิทธิสตรี ในอีกคำหนึ่งใช้กับภาษาญี่ปุ่นในสังคมญี่ปุ่นยอมรับว่าการข่มขืนเป็นปัญหาและการช่วยการกำจัดปฏิเสธข้อหาในสังคมญี่ปุ่น

 

ในประเทศฟิลิปปินส์ นักข่าวผู้หญิงมีตำแหน่งเก้าอี้เหนือผู้ชาย และถูกพิสูจน์ว่าพวกเขาเป็นนักหนังสือพิมพ์ที่มีความสามารถ และพวกเขาเข้าในเรื่องของความละเอียดอ่านทางเพศ และประเด็นที่ดำเนินไปของผู้หญิงโดยประเพณีอันหลายหลายที่ชี้ว่ามันเหมาะจะเป็นและไม่เหมาะจะเป็น นี้เป็นมาตรฐานที่มีการสร้างขึ้นในส่วนคลอบครองทั้งของผู้หญิงในสื่อกระแสสำคัญ

1