นอกจากเป็นชื่อเรียกของสถานที่ท่องเที่ยว ที่คุ้นเคยกันดีในกิ่งอำเภอเขาค้อ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์แล้ว ยังเป็นชื่อเรียกรวมบริเวณเทือกเขาน้อยใหญ่ของเทือกเขาเพชรบูรณ์ จนอาจกล่าวได้ว่าเป็นทะเลภูเขา เช่น เขาค้อ เขาย่า เขาใหญ่ เขาห้วยทราย เป็นต้น มีต้นไม้ที่มีลักษณะแปลกคือ "ต้นค้อ" ซึ่งเป็นต้นไม้ในตระกูลปาล์ม ต้นและใบคล้ายต้นตาล แต่ออกผลเป็นทะลายคล้ายหมาก มีอยู่ทั่วไปในบริเวณเขาค้า 

          ในอดีตก่อนปี พ.ศ. 2524 พื้นที่เขาค้อ เคยเป็นฐานที่มั่นอันสำคัญยิ่งของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์เป็นเวลานานกว่า 10 ปี กำลังทหารของฝ่ายรัฐบาลที่ถูกส่งเข้าปราบปรามกวาดล้าง เกิดการต่อสู้ยืดเยื้อยาวนาน ทำให้สูญเสียกำลังคน อาวุธ ตลอดจนทรัพยากร ของชาติมากมายทั้งสองฝ่าย จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2524 ฝ่ายไทยดำเนินยุทธวิธีการเมืองนำการทหาร และดำเนินการทางทหารอย่างเข้มเข็งและต่อเนื่อง จนสามารถยึดพื้นที่เขาค้อทั้งหมดได้ คงเหลือไว้แต่ประวัติศาสตร์การสู้รบอันห้าวหาญ และวีรกรรมของวีรบุรุษทั้งหลายเท่านั้น

           อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ ร่องรอยของการต่อสู้มากมาย ยังคงมีให้เห็นเกลื่อนกลาดไม่ว่าจะเป็นสุสานทหารกล้า และผู้เสียสละอนุสาวรีย์ที่ระลึกถึงผู้จากไป ฐานที่มั่นที่สู้รบกันอย่างหนักหน่วง สถานที่พักอาศัยของสองฝ่าย ร่องรอยการทำลาย เผาระเบิด ซึ่งมาบัดนี้ทางการได้ดัดแปลงสถานที่ต่างๆ รวมทั้งตกแต่งให้เกิดความสวยงาม น่าท่องเที่ยว น่าเลื่อมใสเพื่อเตอนใจให้ระลึกถึงผู้กล้าของสองฝ่าย นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดเพชรบูรณ์ทีเดียว

           ความน่าสนใจของเขาค้อในวันนี้ อยู่ที่แหล่งท่องเที่ยวมากมาย เริ่มต้นจาก ไร่บี.เอ็น ที่เริ่มบุกเบิกมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 มีเนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ ปลูกพืชผักผลไม้ดอกไม้เมืองหนาวหลายชนิดทั้งของไทย และต่างประเทศ จำพวกผักได้แก่ ผักกาดแก้ว มะระหวาน มะเขือสีม่วง ไม้ดอกได้แก่ ดาหลา แกลดิโอลัส เบริด ส่วนผลไม้มีอาทิ สตรอเบอรี่ มัลเบอรี่ ลูกพลับสด แมคคาเดเมียนัท ฯลฯ ถัดจากไร่บี.เอ็น ก็คือ พระตำหนักเขาค้อ ตั้งอยู่บนจุดที่สูงที่สุดของเขาค้อ สร้างขึ้นเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้ง เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรโครงการในพระราชดำริ และทรงตรวจเยี่ยมราษฎรที่อำเภอเขาค้อ ภายในบริเวณพระตำหนักมีการตกแต่งอย่างสวยงาม เพลินตาเพลินใจด้วยดอกไม้และพืชเมืองหนาวนานาชนิด อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งซึ่งไม่ควรพลาดชม สร้างด้วยหินอ่อนรูปทรงสามเหลี่ยม ตั้งอยู่บนยอดเขาค้อสร้างขึ้นเพื่อเทิดทูนวีรกรรมของพลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่เสียสละเลือดเนื้อ และชีวิตเพื่อป้องกันผืนแผ่นดินไทย ให้รอดพ้นจากภัยของผู้หลงผิดคิดร้ายต่อชาติ ในเขตพื้นที่รอยต่อสามจังหวัดคือ พิษณุโลก-เพชรบูรณ์-เลย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 ถืง พ.ศ. 2525

          นอกจากอนุสรณ์สถานแห่งนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์อาวุธซึ่งเดิมเป็นฐานปืนใหญ่ยิงสนับสนุนการสู้รบ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของอาวุธสงครามที่เสียหายระหว่างการสู้รบ เช่น เครื่องบินขับไล่ เอฟ 5 รถสายพานลำเลียงพล ปืนใหญ่ ฯลฯล และมีห้องบรรยายสรุปให้ผู้เข้าชมศึกษาความเป็นมาอีกด้วย น้ำตกศรีดิษฐ์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำบนเขาค้อก็น่าไปเที่ยวเล่น ที่นี่เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีน้ำไหลตลอดปี มีลานกว้างสำหรับเล่นน้ำได้สะดวก รถสามารถเข้าถึงบริเวณน้ำตกได้ ใต้นำตกลงมาเล็กน้อยจะเห็นครกกระเดื่องตำข้าว โดยใช้พลังงานน้ำที่ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์สร้างขึ้น และเสียงน้ำตกนี้เองที่ช่วยกลบเสียงตำข้าวได้อย่างกลมกลืน 

          สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวอีกที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ยังไม่ค่อยรู้จักกันดี นั่นคือ หอสมุดกลางนานาชาติเขาค้อ เป็นหอสมุดขนาดใหญ่ ลักษณะเป็นรูปเพชรคว่ำ สร้างด้วยกระจกสะท้อนแสง ภายในแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนของห้องสมุดและส่วนของพิพิธภัณฑ์ ส่วนหลังนี้มีข้าวของเครื่องใข้สมัยโบราณอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี จัดแสดงให้ชม ในขณะที่ด้านนอกตกแต่งเป็นสวนหย่อม ประดับไม้ดอกเมืองหนาวนานาชนิดงดงามมาก ด้านข้างหอสมุดมี เจดีย์พระบรมสารีริกธาตุเขาค้อ ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุซึ่งอัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา เจดีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสทรงครองราชย์ครบ 50 ปี และเนื่องจากเพชรบูรณ์เป็นจังหวัดที่มีอากาศเย็นสบายตลอดปี เขาค้อจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเดินทางมาเยือน ได้ทุดเมื่อโดยอากาศจะยิ่งหนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเดินทางขึ้นสู่ยอดเขา 

         สำหรับนักท่องเที่ยว หากต้องการค้างแรมบนเขาค้อก็มีที่พักบริการ ได้แก่ บ้านพักทหารม้า ติดต่อกองพลทหารม้าที่ 28 โทร. (056)711000, 721934-6 ต่อ 145 และเขาค้อลอดจ์ โทร. 01-5250965 นอกจากนี้ ยังมีรีสอร์ทและโรงแรมต่างๆ ตั้งอยู่บริเวณเส้นทางขึ้นเขาค้อ อาทิ โรงแรมอิมพีเรียบ ภูแก้ว รีสอร์ท ซึ่งสวยงามเพียบพร้อมทั้งสถานที่ตั้งและความสะดวกสบาย ติดต่อ สำรองที่พักที่สำนักงานกรุงเทพฯ ในเครื่องโรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค โทร. 261-9000-9

          การเดินทางมาเที่ยวเขาค้อก็สะดวกมาก ระยะทางห่างจากกรุงเทพฯ 346 กิโลเมตร ขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 21 และจากตัวเมืองไปเขาค้อ สามารถเดินทางได้ 2 เส้นทาง คือ

1. จากตัวเมืองเพชรบูรณ์ ใช้เส้นทางหมายเลข 21 ระยะทาง 39 กิโลเมตร ถึงสี่แยกหล่มสักเลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 12 ประมาณ 30 กิโลเมตร จนถึงกิโลเมตรที่ หนึ่งร้อย เลี้ยวซ้ายเข้าเขาค้อตามทางหลวงหมายเลข 2196 อีก 30 กว่ากิโลเมตร
2. จากตัวเมืองเพชรบูรณ์มาตามทางหลวงหมายเลข 21 ถึงสามแยกนางั่ง ประมาณ 13 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายตามทางหลวงหมายเลข 2258 อีก 30 กิโลเมตร
   สำหรับรถยนต์ที่ใช้เดินทางควรเป็นรถตู้หรือรถยนต์ขนาดเล็ก จะสะดวกมากกว่ารถบัสเพราะทางบนเขาค้อนั้นค่อนข้างสูงและชัน