กู้วิกฤตชาติ ด้วย ว.ป.อ. ภาคประชาชน

โดย พ่อผาย สร้อยสระกลาง

ปราชญ์ชาวบ้าน แห่งบ้านสระคูณ

ต.โคกล่าม อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์

ผู้เป็นต้นแบบการทำการเกษตรแบบผสมผสาน


       การเมืองเป็นของคนที่สัตย์ซื่อ การเมืองก็เป็นคนตลบตะแลงเป็นคนที่ปอกลอง กินบ้านกินเมือง ดังนั้น ชุมชนต้องเชื่อมั่นตนเองเอาธรรมมาใช้ "หาอยู่หากิน" เคารพบิดามารดา เคารพแผ่นดิน"
      ปัจจุบันบ้านเมืองเราตกอยู่ในสภาวะสงครามไร้เลือดเนื้อ สงครามเศรษฐกิจ สงครามไร้อาวุธ เขาให้ประเทศไทยกู้เงินมาเพื่อแก้ปัญหา เราก็ขายอสังหาริมทรัพย์ให้เขา เพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ บ่! มีทางสำเร็จนับวันจะดิ่งลงเหว
      ผมเคยเปรียบเทียบให้รัฐมนตรีหลายท่านฟังว่า ต้นไม้หนึ่งต้นทำไมถึงงาม งามเพราะอะไรลูกก็ใหญ่เปลือกก็หนา ใบก็ดก ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันกัน น้ำดี อากาศดี รักษาดี ผมให้ศูนย์ผิดหมด ให้ผู้ว่าตอบก็เหมือน นี่แหละ! ประเทศชาติถึงล่มจม
      ต้นไม้จะงามได้จะต้องอาศัย "รากฝอย" เพราะรากฝอย คือ เกษตรกรทำนาเลี้ยงคนทั้งประเทศ
      รากแก้ว คือ ศาสนา ลำต้น คือ รัฐบาล กิ่งก้านสาขา คือกระทรวง ทบวง กรม หน่วยและใบ คืออุตสาหกรรม
      รากฝอยอยู่ใต้ดินรัฐบาลมองไม่เห็นหรอกรัฐบาลพัฒนาไม่ได้ รัฐบาลไม่ใช่ชาวนา ดังนั้นรัฐบาลต้องสนับสนุนให้ชาวบ้านแก้ปัญหาของเขาเอง "คิดเอง ทำเอง จัดการเอง" แต่ทุกวันนี้รัฐบาลมัวแต่แย่งโต๊ะแย่งเก้าอี้ แย่งอำนาจกันอยู่เราเชื่อเขาไม่ได้หรอก ที่เชื่อได้ก็คือพวกเราเองเราจะต้องสร้างแกนนำในหมู่บ้าน ชุมชน อำเภอจังหวัด เพื่อขยายเครือข่ายแกนนำ ตอนนี้ผมฝึกแกนนำด้วยหลัก ว.ป.อ.คือ
      ว. ฝึกให้เขาเป็นวิทยากร
      ป.ฝึกให้เขามีการเปลี่ยนแปลความคิดแบบเดิม
      อ. ฝึกให้เขามีการพัฒนาพึ่งตนเอง โดยแยกรายละเอียดดังนี้
    1. ทหารเกณฑ์ คือ กล้วย

    2. นายสิบ คือ มะเขือ ถั่ว และผักต่าง ๆ

    3. นายร้อย คือ มังคุด ละมุด ลำไย มะเฟือง มะไฟ มะกรูด มะนาว มะพร้าว ส้มโอ มะแฟง แตงโม ฯลฯ

    4. ทหารบก คือ วัว ควาย

    5. ทหารอากาศ คือ การออมทรัพย์

    6. ทหารเรือ คือ กุ้ง หอย ปู ปลา

    7. รวมเป็นกองบันชาการทหารสูงสุด คือ "ภูมิปัญญา"

      ทำไปแล้ว 7 จังหวัด ได้ 450 คน มี บุรีรัมย์ นครราชสีมา สุรินทร์ อำนาจเจริญ ขอนแก่น ศรีสะเกษ สกลนคร
      ถ้ามีใครมายิ่งจรวดใส่เรา เราก็เอาทัพบกสู้ ถ้าทับบกไม่พอ ก็ใช้กองทัพเรือ คือ กุ้ง หอย
ปู ปลา นี่คือ การแก้ปัญหาของประเทศ อย่างแท้จริง
      ที่ผมว่าการเมืองทุกวันนี้แก้ปัญหาของชาวนา ชาวไร่ไม่ได้ ก็เพราะว่าการเมืองทุกวันนี้ เขาต้องแก้ปัญหาของพวกพ้อง ญาติพี่น้องของเขาแม้แต่ อบต. ทุกวันนี้ก็เป็นการเมือง ไม่ว่าจะมีนายกกี่คนก็เหมือนเดิม
      มีรัฐมนตรีถามผมว่า ถ้าพ่อผาย เป็นนายกจะแก้ปัญหาจราจรอย่างไร
      ถ้าผมเป็นนายก 2 - 3 ปี ผมจะย้ายกระทรวงต่าง ๆ ออกจากกรุงเทพฯ ให้หมดกระทรวงมหาดไทยอยู่จังหวัดนั้น กระทรวงกลาโหมอยู่จังหวัดนี้ มันจะติดได้อย่างไร แต่ที่รัฐบาลทำอยู่ทุกวันนี้ไม่ได้กระจาย ทำแบบกระจุกกระจุกทุกอย่าง มันเลยมีปัญหา
      ดังนั้น รัฐบาลจะต้องกระจายอำนาจ ให้ครอบครัว ให้ชุมชนเขาพึ่งตนเอง อันนี้ผมขอฝากด้วย
      เราจะต้องรู้หน้าที่ของเรา คือ "อ่านตัวให้ออก บอกตัวให้ได้ ใช้ตัวให้เป็น" คือ ประโยคสุดท้ายที่ผู้เฒ่า วัย 70 ปี พ่อผาย สร้อยสระกลาง ปราชญ์ชาวบ้าน แห่งบ้านสระคูณ กับการกู้วิกฤตชาติ ด้วย ว.ป.อ. ภาคประชาชน อย่างถึงรากถึงแก่นของการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง
1