หากจะอ้างถึงประวัติของจังหวัดขอนแก่นซึ่งเริ่มก่อตั้งเป็นเมืองมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1  อายุเพียงแค่สองร้อยกว่าปีก็คงจะกล่าวไม่ได้ว่าเป็นเมืองเก่า  แต่ที่จริงแล้วดินแดนบนที่ราบสูงแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมากไม่ว่าจะเป็นทางธรรมชาติ  หรือทางอารยธรรม  ดังที่มีการค้นพบซากสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์อายุนับล้านปี  พบชุมชนเมืองโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์หลายแห่ง  ตลอดจนปราสาทขอมสมัยพุทธศตวรรษที่ 18  ด้วยมีอารยธรรมที่สั่งสมมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์  สิ่งที่พบที่นี่ไม่ว่าจะเป็น  วัฒนธรรม  ประเพณี  โบราณสถานต่าง ๆ จึงล้วนเป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนให้ทราบความเป็นมาของคนไทยและชาติไทย  

            ขอนแก่นไม่เพียงจะเป็นศูนย์กลางของภาคอีสานโดยเหตุผลทางภูมิศาสตร์เท่านั้น  แต่ยังเป็นศูนย์กลางทางการศึกษาและเทคโนโลยี ด้วย  เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยขอนแก่น  ระบบสาธารณูปโภค  และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มีพร้อมเพรียง  ภายในอำเภอเมืองมีรถโดยสารประจำทางวิ่งบริการหลายสาย  มีที่พักบริการหลายระดับตั้งแต่ห้องพักราคาย่อมเยาไปจนถึงโรงแรมระดับห้าดาว  สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมศักยภาพทางการท่องเที่ยวด้วย

            ขอนแก่นมีพื้นที่  10,855,991  ตารางกิโลเมตร  มีอาณาเขตติดต่อถึง 9 จังหวัด  ทิศเหนือติดต่ออุดรธานี  หนองบัวลำภูและเลย  ทิศใต้ติดต่อนครราชสีมาและบุรีรัมย์  ทิศตะวันออกติดต่อกาฬสินธุ์  และมหาสารคามทิศตะวันตกติดต่อเพชรบูรณ์และชัยภูมิ

การคมนาคมขนส่งภายในเมือง

   มีบริการรถโดยสารให้เลือกหลายประเภท  ได้แก่

   - รถสามล้อค่าโดยสารเริ่มต้นที่ราคา  30  บาท

   - สามล้อปั่นราคาเริ่มต้นคือ  10 บาท  ส่วนใหญ่จะวิ่งบริการภายในตัวเมืองและเขตเทศบาล

   - รถโดยสารประจำทางขนาดเล็กวิ่งบริการในเขตเมืองขอนแก่นหลายสาย  ทั้งรถไม่ปรับอากาศ  และรถปรับอากาศ  นอกจากนั้นยังมีรถโดยสารวิ่งระหว่างอำเภอเมืองขอนแก่นไปยังอำเภอต่าง ๆ ตลอดวัน

สถานที่ท่องเที่ยว

 ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์หลักเมือง    ประดิษฐานอยู่ที่ศาลาสุขใจ  ถนนเทพารักษ์หน้าเทศบาลขอนแก่น  สร้างเมื่อปี  2499  โดยนำหลักศิลาจารึกมาจากโบราณสถานในท้องที่อำเภอชุมแพ  มาประกอบพิธีตามแนวทางพระพุทธศาสนา  ทำเป็นหลักเมือง  ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวขอนแก่น

บึงแก่นนคร    เป็นทะเลสาบเล็ก ๆ เนื้อที่  603  ไร่ อยู่กลางตัวเมือง  เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของคนในเมือง  มีถนนเลียบริมน้ำโดยรอบ  ทิวทัศน์สวยงาม  มีภัตตาคารกลางน้ำ

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น    เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  สิ่งของที่จัดแสดงเป็นโบราณวัตถุที่ขุดค้นได้จากหน่วยศิลปากรที่ 7  นำมาตั้งแสดงไว้ให้ชม  เช่นโบราณวัตถุที่บ้านเชียงใบเสมาจำหลักลายจากเมืองฟ้าแดดสูงยางจังหวัดกาฬสินธุ์  เป็นต้น  เปิดให้ชมทุกวัน  เว้นจันทร์  อังคาร  ค่าผ่านประตูคนละ 5 บาท

สวนป่าสาวะถี    อยู่ที่ตำบลสาวะถี  อำเภอเมือง  เป็นสวนป่าที่มีหนองน้ำและสระน้ำขนาดย่อม  ล้อมรอบด้วยแนวหินภูเขาซ้อนกันเป็นชั้นเป็นเชิงสวยงามแปลกตา  เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจทางธรรมชาติ  อยู่ห่างจากตัวจังหวัดขอนแก่น  โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 12  ขอนแก่น-ชุมแพ  แล้วแยกขวาตรงหลักกิโลเมตรที่ 28-29  บ้านทุ่ม  แล้วเข้าไปอีก 8  กิโลเมตร

ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรม  และศูนย์หัตถกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ    ตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ ห่างจากตัวเมืองขอนแก่นประมาณ 14 กิโลเมตรตามเส้นทางสายขอนแก่น-อุดรธานี  (ด้านซ้ายมือ)  ภายในตัวอาคารเป็นแหล่งแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หัตถกรรมพื้นบ้านจากจังหวัดต่าง ๆ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  เช่น  ผ้าขิต  ผ้ามัดหมี่  ผ้าไหมและผ้าฝ้าย  เสื้อผ้าสำเร็จรูป  ผ้าแพรวา  เครื่องจักสาน  และเครื่องทองเหลือง  โดยทางศูนย์จัดจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวในราคาย่อมเยา

กู่แก้ว    อยู่ในบริเวณเดียวกับสำนักสงฆ์กู่แก้วสามัคคีที่บ้านหัวสระ  ตำบลดอนช้าง  อำเภอเมือง  ห่างจากตัวจังหวัด  25 กม.  เป็นศาสนสถานเขมรขนาดเล็ก  ประกอบด้วยปรางค์ประธานบรรณาลัยอยู่ภายในกำแพงแก้วทั้งหมด ก่อสร้างด้วยศิลาแลงและหินทรายมีสระน้ำที่ขอบสระกรุด้วยศิลาแลงเป็นขั้นบันได อยู่นอกกำแพงแก้วทางมุมทิศตะวันออกเฉียงเหนือ      ในระหว่างการบูรณะ  ได้พบศิลาจารึกกล่าวถึงการสร้างศาสนาสถานขึ้นตามพระประสงค์ ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งราชอาณาจักรเขมรโบราณ  เพื่อเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา  และสถานที่บำบัดรักษา  โรคภัยไข้เจ็บแก่ประชาชน  กู่แก้วจึงหมายถึง  อโรคยาศาลา  ที่กล่าวไว้ในศิลาจารึกหลักอื่นของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7  และกำหนดอายุได้ว่าสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 18  เนื่องในพุทธศาสนาแบบมหายาน

พระธาตุขามแก่น    ตั้งอยู่ในวัดเจติยภูมิ  ตำบลบ้านขาม  อำเภอน้ำพอง  การเดินทางใช้ทางหลวงหมายเลข 209  (ขอนแก่น-กาฬสินธุ์)  ระยะทาง 12 กม.  เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกประมาณ 15 กม.  พระธาตุองค์นี้มีตำนานเล่าว่าได้สร้างคร่อมตอมะขามที่ตายแล้วแต่กลับเจริญงอกงามขึ้นใหม่  ภายในพระธาตุบรรจุคำพรรณนาพระคุณของพระพุทธเจ้า  9  บาท    พระธาตุขามแก่นเป็นปูชนียสถานสำคัญยิ่งของขอนแก่น  ทุกปีในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6  จะมีงานฉลองและนมัสการพระธาตุเป็นประจำ

เขื่อนอุบลรัตน์    การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 (ขอนแก่น-อุดรธานี)  เป็นระยะทาง  26  กิโลเมตร  แล้วแยกซ้ายเข้าเขื่อนอีก  24 กิโลเมตร  เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ที่ใหญ่ที่สุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือในปัจจุบัน  เขื่อนนี้สร้างกั้นแม่น้ำพอง  ชาวเมืองจึงเรียกกันว่าเขื่อนพองหนีบ  เริ่มสร้างเมื่อ  พ.ศ. 2507  เสร็จเมื่อ  พ.ศ. 2509   เขื่อนอุบลรัตน์   เป็นเขื่อนแบบหินทิ้งยาว 800 เมตร สูง 32 เมตร  เก็บกักน้ำไว้เหนือเขื่อนถึง 2,550  ล้านลูกบาศก์เมตร  มีพื้นที่อ่างเก็บน้ำกว้างถึง  410  ตารางกิโลเมตร เป็นทะเลสาบเหนือเขื่อนอันงดงามน่าเที่ยวเขื่อนอุบลรัตน์นอกจากจะเป็นสถานที่น่าเที่ยวน่าชมยิ่งแล้วยังเป็นที่ ผลิตไฟฟ้าส่งไปยังจังหวัดต่าง ๆ 8  จังหวัดอีกด้วย

อำเภอชนบท    ตั้งอยู่ห่างจากขอนแก่นลงมาทางใต้  ประมาณ  54 กิโลเมตร  ตามทางหลวงหมายเลข 2  (ขอนแก่น-อุดรธานี)  เป็นระยะทาง  44 กิโลเมตร  แล้วแยกขวาเข้าไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตร  อำเภอชนบทมีชื่อเสียงในการทอผ้าไหมมัดหมี่  มีโรงงานทอผ้าและร้านวิทยาลัยการอาชีพขอนแก่น  จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับผ้าไหม  และ  "ศูนย์ศิลปหัตถกรรมอำเภอชนบท"  เป็นสถานที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ไหม และสินค้าพื้นเมือง  ซึ่งได้รับงบประมาณการก่อสร้างจาก  ททท.

เมืองชัยวาน    อยู่ที่อำเภอมัญจาคีรี  เป็นเมืองโบราณในสมัยทวาราวดี  เป็นเมืองขนาดเล็กตัวเมืองเป็นรูปไข่  มีกำแพงดิน 1 ชั้น คูเมือง 2 ชั้น  ภายในกำแพงเมืองมีหลักเสมาศิลาสมัยทวาราวดีปักอยู่โดยทั่วไป  ส่วนมากจมดินอยู่โผล่พ้นพื้นดินมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น  และยังไม่มีการลักลอบขุดทำลาย  นับว่าได้หลักฐานการปักเสมาในสมัยทวาราวดีเป็นอย่างดียิ่งการเดินทางจากขอนแก่นไปอำเภอมัญจาคีรีระยะทาง 56 กิโลเมตร  จากนั้นใช้เส้นทางสายมัญจาคีรี-ช่องสามหมอ  ถึงหลักกิโลเมตรที่ 16  แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีก ประมาณ  2 กิโลเมตร

กู่เปือยน้อย    อยู่ในบริเวณวัดธาตุกู่ทอง  อำเภอเปือยน้อย  จัดได้ว่าเป็นศาสนสถานเขมรโบราณที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด  อยู่ห่างจากจังหวัดขอนแก่น  79 กิโลเมตร  ตามเส้นทางสายขอนแก่น-บ้านไผ่  (ทางหลวงหมายเลข 2 ) ประมาณ 44 กิโลเมตร  เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 23  (ทางไปอำเภอบรบือ)  อีก 11 กิโลเมตร  แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปยังอำเภอเปือยน้อยอีกเป็นระยะทาง 24 กิโลเมตร    ตัวศาสนสถานประกอบด้วย  ปรางค์อิฐสามหลังบนฐานศิลาแลง  บรรณาลัยก่อจากศิลาแลงอยู่ทางมุมทิศตะวันออกเฉียงใต้  ทั้งหมดอยู่ภายใต้กำแพงแก้วรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีทางเข้าสองด้าน  ทางด้านหน้า (ทิศตะวันออก)  และทางด้านหลัง  ซึ่งประตูทางเข้า  หรือโคปุระ เป็นซุ้มประตูขนาดใหญ่  มีเสาประดับกรอบประตูหินทรายสลักลวดลายสวยงามมาก

ซากกระดูกไดโนเสาร์    มีการจัดแสดงอยู่ในอาคารที่ทำการอุทยานฯ  ส่วนหนึ่ง และมีการขุดแต่งหลุมที่ขุดพบในบริเวณภูประตูตีหมา  เป็นไดโนเสาร์กินพืชในสกุล  "คามาราซอรัส"  มีลำตัวใหญ่มาก  มีอายุประมาณ  150  ล้านปี  บริเวณใกล้เคียงเป็นแหล่งสำรวจแร่ยูเรเนียมของกรมทรัพยากรธรณี

สุสานหอย 175 ล้านปี    เป็นฟอสซิลของหอยน้ำจืดที่อัดตัวกันเป็นก้อนหินขนาดใหญ่หลายก้อน  อยู่บนยอดเขา บริเวณภูประตูตีหมา

รอยเท้าไดโนเสาร์    พบบริเวณหินลาดปาชาดบนเทือกเขาภูเวียง  ต.ในเมือง  อ.ภูเวียง  ส่วนใหญ่เป็นรอยเท้าไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดเล็ก  มีรอยเท้าไดโนเสาร์ขนาดใหญ่อยู่ 1 รอย

พระพุทธไสยาสน์    เป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์สลักบนหน้าผา  ศิลปะสมัยทวาราวดี  ตั้งอยู่บริเวณยอดเขาภูเวียงบริเวณบ้านไชยสอ  หมู่ 1  ต.ไชยสอ  อ.ชุมแพ  การเดินทาง  ใช้ทางหลวงหมายเลข  12  (ขอนแก่น-ชุมแพ) ถึงหลักกิโลเมตรที่ 75  บ้านไชยสอ  เลี้ยวขวาไปตามทางเกวียนถึงเชิงเขาประมาณ 2.5 กิโลเมตร  แล้วเดินเท้าขึ้นเขาอีกประมาณ  2.5 กิโลเมตร  ใช้เวลาประมาณ  2 ชั่วโมง

ถ้ำฝ่ามือแดง    มีภาพเขียนสมัยก่อนประวัติศาสตร์  เป็นรูปฝ่ามือสีแดง  อยู่ที่ผนังถ้ำ  การเดินทางจาก  อ.ภูเวียงไปถึงบ้านภูเวียง  ต.เมืองเก่าแล้วเดินทางต่อไปยังบ้านหินร่อง  แล้วติดต่อผู้ใหญ่บ้านเพื่อขอผู้นำชม

น้ำตกตาดฟ้า    น้ำตกตาดฟ้าอยู่บนเขาภูเวียง  ตำบลภูเวียง  อำเภอภูเวียง  เป็นน้ำตกสูงประมาณ  15 เมตร  ลักษณะเด่นและสำคัญ  คือ  เป็นน้ำตกธรรมชาติที่สวยงาม  ส่วนการเข้าถึงนั้นโดยทางรถยนต์ห่างจากอำเภอภูเวียง  18  กิโลเมตร  และต่อทางขึ้นเขาไปอีก  6 กิโลเมตร

เมืองโบราณที่ชุมแพ    ตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า "โนนเมือง"  เขตบ้านนาโพธิ์  ต.ชุมแพ  อ.ชุมแพ  ห่างจากจังหวัดประมาณ  85 กม.  ตามเส้นทางสายขอนแก่น-ชุมแพ  (ทางหลวงหมายเลข 12)  ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร  แยกซ้ายเข้าไปอีก  5 กิโลเมตร  สันนิษฐานว่าเป็นที่อยู่ของมนุษย์ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์เป็นต้นมาจนเข้าสู่  สมัยประวัติศาสตร์หลักฐานสำคัญจากการสำรวจและขุดค้นโดยหน่วยศิลปากรที่ 7 ขอนแก่น  ได้แก่โครงกระดูกมนุษย์และเครื่องมือ  เครื่องใช้สำริด  ในยุคสมัยก่อนประวัติศาสตร์  ราว 3 พันปี  มาจนถึงสมัยทวาราวดีและสมัยลพบุรี

วนอุทยานถ้ำผาพวง    อยู่ในเขตอำเภอชุมแพ  ห่างจากตัวเมืองตามเส้นทางสายขอนแก่น-ชุมแพ  123 กิโลเมตร  มีทางแยกเข้าสู่อุทยานถ้ำผาพวงอีก  4 กิโลเมตร  ถ้ำนี้เป็นถ้ำใหญ่ที่งดงามน่าเที่ยว  เมื่อไปจอดรถที่เชิงเขา  ต้องเดินอ้อมเชิงเขาไปอีกด้านหนึ่ง  เพราะปากทางเข้าสู่ถ้ำผาพวงนั้นอยู่ทางด้านเหนือ  บริเวณปากถ้ำจะเห็นทิวทัศน์อันงดงามของป่าเขาใหญ่

ผานกเค้า    เป็นขุนเขาสูงใหญ่ในระหว่างเขตต่อแดน  อำเภอชุมแพกับอำเภอภูกระดึงจังหวัดเลย  ริมทางหลวงหมายเลข 201  ห่างจากตัวเมืองขอนแก่น 125 กม.  ผานกเค้า  เป็นภูเขารูปร่างแปลก  ตระหง่านอยู่ริมลำน้ำพองมองไกลออกไปจะเห็นภูกระดึงอยู่ไกลลิบ

เทศกาล - งานประเพณี

เทศกาลดอกคูนเสียงแคน    สถานที่จัดงานบริเวณสวนรัชดานุสรณ์  บึงแก่นนครสถานพักผ่อนหย่อนใจ  และที่ชุมนุมสังสรรค์ของชาวขอนแก่น  งานเริ่มวันที่ 13-19  เมษายน ของทุกปี  กิจกรรมเริ่มด้วยการทำบุญตักบาตรร่วมกันสรงน้ำพระและการแสดงของขบวนเกวียนบุปผชาติ  ซึ่งปกติใช้เป็นเกวียนเพื่อขนส่งสินค้าทางการเกษตร  ในงานนี้จะตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสี  เพื่อประกวดความสวยงามและแนวคิดสร้างสรรค์

งานเทศกาลไหมและประเพณีผูกเสี่ยว    จัดขึ้นในราวปลายเดือนพฤศจิกายน  ถึงต้นเดือนธันวาคมเป็นเวลา 10 วัน 10 เดือน  เป็นประจำทุกปี บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดและสวนรัชดานุสรณ์ งานเทศกาลไหมและประเพณีผูกเสี่ยวนี้สืบเนื่องมาจากประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอาชีพรองที่ขึ้นหน้าขึ้นตาได้แก่การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม  ทอผ้าต่าง ๆ ซึ่งทางราชการได้ให้ความสนับสนุนจนจังหวัดขอนแก่นเป็นแหล่งผลิตผ้าไหมที่มีชื่อเสียง ประกอบกับมีประเพณีการผูกเสี่ยว  ซึ่งเป็นขนบธรรมเนียมดั้งเดิมของภาคอีสาน ที่มุ่งให้คนรุ่นเดียวกันรักใคร่เป็นพี่น้องช่วยเหลือกัน เรียกว่าเป็น  "คู่เสี่ยว"  ขึ้นโดยมุ่งส่งเสริมอาชีพการทอผ้าไหมและรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมไว้  ในงานจะมีขบวนแห่คู่เสี่ยวและพานบายศรีของอำเภอต่าง ๆ มีพิธีผูกเสี่ยวการประกวดผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน  งานพาข้าวแลง (การรับประทานอาหารค่ำแบบพื้นเมืองอีสาน)  เป็นต้น

สถานที่พัก

อำเภอเมือง

    โรงแรมแก่นอินน์    56  ถนนกลางเมือง  โทร. 245420-31  โทรสาร 239457  มีห้องพัก 160 ห้อง  ราคา 800-1,800 บาท

    โรงแรมแก่นนคร    690  ถนนศรีจันทร์  โทร. 224268-71  มีห้องพัก 150 ห้อง  ราคา 280-600 บาท

    โรงแรมขอนแก่นรื่นรมย์    223  ถนนรื่นรมย์  โทร. 223522-3, 225446-7  โทรสาร 220567  มีห้องพัก 72 ห้อง  ราคา 350 บาท 

    โรงแรมขอนแก่นโฮเต็ล    43/2  ถนนพิมพสุต  โทร. 237177, 244881-5  โทรสาร 242458  มีห้องพัก 134 ห้อง  ราคา 480-800 บาท

    โรงแรมโฆษะ    250-252  ถนนศรีจันทร์  โทร. 225014-8  โทรสาร 225013  มีห้องพัก 187 ห้อง  ราคา 700-900 บาท

    โรงแรมเจริญธานีปริ๊นเซส    260  ถนนศรีจันทร์  ตำบลในเมือง  โทร. 220400-14  โทรสาร 220438  มีห้องพัก 320 ห้อง  ราคา 800 บาท

    ธานีบังกาโล    222  ถนนรื่นรมย์  โทร. 224833, 221428  มีห้องพัก 86 ห้อง  ราคา 250-500 บาท

    โรงแรมชัยพัช    106/1-2  ถนนหน้าเมือง  โทร. 333055-64  โทรสาร 236860  มีห้องพัก 128 ห้อง  ราคา 900-1,400 บาท

    โรงแรมโซฟิเทล     9/9  ถนนประชาสำราญ  โทร. 322155-9  โทรสาร. 322150  มีห้องพัก 300 ห้อง  ราคา 3,000-7,000 บาท

    โรงแรมพีพี    98  ถนนดรุณสำราญ  โทร.226500-10  โทรสาร 321756  มีห้องพัก 150 ห้อง  ราคา 300-1,000 บาท

    โรงแรมรสสุคนธ์    1/11  ถนนกลางเมือง  โทร. 238576-8  โทรสาร 238579  มีห้องพัก 79 ห้อง  ราคา 700 บาท

    โรงแรมโรมา    50/2  ถนนกลางเมือง  โทร. 236276, 237206, 237771  มีห้องพัก 197 ห้อง  ราคา 150-500 บาท

    โรงแรมอัมรินทร์พลาซ่า    181  ถนนรอบเมือง  โทร. 321660-61  โทรสาร 223956  มีห้องพัก 60 ห้อง  ราคา 450-600 บาท

อำเภอบ้านไผ่

    โรงแรมภูเจริญ    381  ถนนสุขาภิบาล 1  โทร. 272033  มีห้องพัก 44 ห้อง  ราคา 130-300 บาท

อำเภอชุมแพ

    โรงแรมชีวินพาเลซ    333  ถนนมะลิวัลย์  โทร. 311577-8  มีห้องพัก 62 ห้อง  ราคา 220-600 บาท

    โรงแรมสุขสันต์    104-107  ถนนมะลิวัลย์  โทร. 311125, 311143  มีห้องพัก 42 ห้อง  ราคา 300-380 บาท

อำเภออุบลรัตน์

    บ้านพักการไฟฟ้าฝ่ายผลิต    ที่ทำการเขื่อนอุบลรัตน์  โทร. 446231  มีแฟลต 3 หลัง  บ้านพัก 5 หลัง  ราคา 200-2,200 บาท

    สุวัฒน์รีสอร์ท    109  หมู่ 7  ตำบลเขื่อนอุบลรัตน์  โทร. 446007  มีห้องพัก 40 ห้อง  ราคา 400-800 บาท

อำเภอเขาสวนกวาง

    กมลพันธุ์รีสอร์ท    กิโลเมตรที่ 49  อ.เขาสวนกวาง  โทร. 328186, (01) 601-0433, (01) 601-6307  โทรสาร 327734  มีบ้านพัก 22 หลัง  ราคา 500-1,200 บาท

การเดินทาง 

  รถยนต์    ขอนแก่นอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ  ไปตามทางรถยนต์  449  กิโลเมตร  จากกรุงเทพฯ  ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1  (ถนนพหลโยธิน)  ถึงจังหวัดสระบุรี  ตรงหลักกิโลเมตรที่ 107  แยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ)  ผ่านจังหวัดนครราชสีมาถึงจังหวัดขอนแก่น

   อีกเส้นทางหนึ่ง  สระบุรี-ลำนารายณ์-อำเภอเทพสถิต-ชัยภูมิ-อำเภอมัญจาคีรี-อำเภอพระยืน-ขอนแก่น

   รถโดยสารประจำทาง    ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง  รถออกจากสถานีขนส่งสายตะวันออกเฉียงเหนือ  (หมอชิต2  หลังถนนกำแพงเพชร กม.11)  มีรถโดยสารธรรมดา  รถปรับอากาศ  และรถนอนพิเศษชนิด 24 ที่นั่ง วิ่งบริการทุกวัน  สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 936-0657  สถานีขนส่งขอนแก่น (รถธรรมดา) (043) 237472, 237300 สถานีรถปรับอากาศ  (043) 239910

   รถไฟ    มีขบวนรถไฟออกจากสถานีกรุงเทพฯ  (หัวลำโพง)  ผ่านจังหวัดขอนแก่น  ไปจังหวัดอุดรธานี  และหนองคายทุกวัน  รถที่ให้บริการมีทั้งรถเร็ว  รถด่วน  และรถด่วนดีเซลรางปรับอากาศ  สอบถามรายละเอียดได้ที่  โทร. 223-7010, 223-7020  สถานีรถไฟขอนแก่น  โทร. (043) 221112

   เครื่องบิน    บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)  เปิดบริการเที่ยวบินกรุงเทพฯ-ขอนแก่น  ทุกวัน  ใช้เวลาเดินทาง 50 นาที  ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่  บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)  โทร. 280-0060-90  และสำนักงานขอนแก่น  โทร. (043) 236523, 238835