ขนาด สูง ๒.๒๖ เมตร

                                  วัสดุ ตั้งแต่พระเศียรลงมาถึงพระอังสาสร้างด้วยโลหะสำริด     

                                  ช่วงล่างสร้างด้วยไม้แก่จันทน์      

        พระพุทธรูปไม้แก่นจันทน์องค์นี้เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านเมืองราชบุรีมีตำนาน  เล่าความเป็นมาว่า  ผู้ที่สร้างพระเดินทางเข้าไปในป่าเมืองกาญจนบุรีแล้วไปพบเสือเข้าได้ขึ้นไปอยู่บนต้นจันพร้อมทั้งบนบานศาลกล่าวว่า หากรอดชีวิตมาได้จะสร้างพระพุทธรูปด้วยไม้แก่จันทน์ก็ปรากฏว่า รอดพ้นมาจริงๆ  จึงสร้างพระแก่นจันทน์นี้ขึ้นประดิษฐานไว้ที่บ้านแก่งหลวง กาญจนบุรี  อยู่มาครั้งหนึ่งเกิดน้ำท่วม  น้ำได้พัดพาเอาพระพุทธรูปตกลงในแม่น้ำแม่กลองและไหลตามน้ำมาจนถึงบริเวณวัดช่องลม ราชบุรี  ชาวบ้านเห็นเข้าก็ช่วยกันอาราธนาขึ้นประดิษฐานไว้ที่วัดสืบมาเป็นเวลากว่าสองร้อยปีแล้ว

        ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ซึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินในระยะต้นรัชกาล  มักจะมาที่ราชบุรีอยู่เนืองๆ และได้มาเป็นประธานในงานแห่พระแก่นจันทน์ทางน้ำ ซึ่งจัดขึ้นในวันเพ็ญเดือน ๑๒ โดยจะอัญเชิญหลวงพ่อแก่นจันทน์ลงเรือแห่จากวัดล่องตามลำน้ำแม่กลองไปถึงบ้านคุ้งกระถิน แล้วกลับขึ้นทางเหนือไปถึงบ้านโคกหม้อ ในงานนี้นอกจากแห่พระแล้วยังมีเทศน์มหาชาติและมีการแข่งเรือด้วย แต่งานดังกล่าวได้เลิกราไปในภายหลัง จนกระทั่งเมื่อปี ๒๕๐๐ จึงมีการรื้อฟื้นงานแห่หลวงพ่อแก่นจันทน์ขึ้นอีกแต่เปลี่ยนมาเป็นการแห่ทางบกจากขัดช่องลมไปยังกรมทหารช่าง ราชบุรี  ซึ่งอยู่ในตัวเมืองราชบุรีและเปลี่ยนช่วงเวลามาเป็นในเทศกาลสงกรานต์  โดยจะประดิษฐานหลวงพ่อไว้ให้ประชาชนได้สรงน้ำ ณ ที่กรมทหารช่างเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย