ยุทธวิธีแบ่งแยก แล้วสลาย (Separate & Terminate) |
|
ประเทศไทยนั้นมีความรักสามัคคีแน่นเหนียวด้วย
ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม
อันมีรากฐานมาจากพุทธศาสนา
ซึ่งมีหลักพระสัทธรรมคำสั่งสอนเป็นหนึ่งเดียวกัน
เมื่อขบวนการล้มพุทธได้ประสบความสำเร็จในการสร้างกระแสให้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญใหม่ในปี
๒๕๔๐
ซึ่งได้กำหนดบทบัญญัติให้ประโยชน์แก่ต่างชาติต่างศาสนา
รวมทั้งไม่กำหนดให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติตามพระบรมราชโองการแห่งพระมหากษัตริย์ไทย
อันสืบต่อเนื่องมาเป็นโบราณราชประเพณีนับเป็นพันปีได้สำเร็จ ภารกิจของ "ขบวนการล้มพุทธ"
ในการทำลายพระพุทธศาสนานั้นจะต้องสร้างกระแส
โดยอาศัยข้อที่ ๑.สร้างความเชื่อใหม่
สลายศรัทธาเดิม (M=Mental) ของ
สมการกลืนชาติ (Change Human Mankind Project)
ให้ชาวพุทธแตกแยกทางความคิด
แบ่งเป็นพรรคเป็นพวก
โดยใช้สื่อสารมวลชนเป็นเครื่องมือ
แล้วเสริมกระแสทำลายผู้นำองค์กรปกครองคณะสงฆ์ต่อไป
การก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคมนี้พระธรรมปิฎก
(ป.อ.ปยุตฺโต)
ได้ใช้วิธีสร้างกระแสโดยออกหนังสือ
"กรณีธรรมกาย"
ใช้ข้อความที่ขัดแย้งต่อพระสัทธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าชนิดตรงกันข้าม
เพื่อยึดพื้นที่ทางสมองของพุทธศาสนิกชนไทย
อันมีความโดยสรุปว่า "ผู้ที่สั่งสอนว่า
นิพพานเป็นอัตตาเป็นผู้ที่มิใช่พุทธบริษัท
เป็นสิ่งที่อยู่นอกพระไตรปิฎก
ไม่ได้เป็นคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า" ฉะนั้น เพื่อความถูกต้องแท้จริง จึงไม่มีอะไรดีไปกว่าการยกเอา พระพุทธพจน์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันปรากฏในพระไตรปิฎกบาลี ซึ่งใช้เป็นหลักในการยึดถือปฏิบัติของพระภิกษุฝ่ายเถรวาท มาเป็นสิ่งยืนยันแม้ว่าจะไม่สามารถแก้ไข หรือต่อต้านกับอิทธิพล กระแส ของขบวนการล้มพุทธได้ แต่อย่างน้อยก็สามารถนำความจริงที่มีอยู่จริงของพระพุทธพจน์มาแสดง ให้ปรากฏแก่ลูกหลานไทยรุ่นหลังได้รับรู้ ถึงความถูกต้องอย่างแท้จริงมีอยู่จริง โดยเฉพาะในกรณี "นิพพานเป็นอัตตานั้น เป็นพุทธพจน์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยตรง" และผู้ที่กล่าวว่า "นิพพานเป็นอนัตตา" คือผู้บิดเบือน จาบจ้วง พระสัทธรรม อย่างไร ด้วยข้อมูลทางวิชาการพระพุทธศาสนาในพระไตรปิฎกเถรวาท เพื่อให้ท่านผู้ใฝ่ใจศึกษา จะได้นำไปค้นคว้าต่อไป ทั้งภาษาไทยและบาลี ดังนี้ |