นิยายวิทยาศาสตร์
วรรณกรรมมหัศจรรย์
 

                                                             สุชาติ สวัสดิ์ศรี ได้เขียนบทความเรื่อง ความเข้าใจที่มีต่อนิยายวิทยาศาสตร์ ตีพิมพ์ในหนังสือ การเขียนเรื่องทางวิทยาศาสตร์สำหรับประชาชน จัดพิมพ์โดยชมรมนักเขียนและผู้จัดทำหนังสือวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย
ในปี พ.ศ. 2526 ซึ่งถือได้ว่าเป็นช่วงยุคทองของนิยายวิทยาศาสตร์ในเมืองไทย โดยการเกริ่นนำว่าก่อนธีรยุทธ บุญมีจะตัดสินใจเข้าป่า เขาเคยเขียนคำนำในหนังสือรวมนิยายวิทยาศาสตร์แปลชุด Robot & Computer ของชุมนุมวิชาการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปี พ.ศ. 2515 ซึ่งเป็นสมัยที่เขาเป็นนิสิตอยู่ที่นั่น มีใจความตอนหนึ่งว่า

"…นิยายวิทยาศาสตร์ไม่ใช่เรื่องของความเพ้อฝันหรือจินตนาการที่กว้างและห่างไกลจากความเป็นจริง มีหลายสิ่งหลายอย่างในวิทยาศาสตร์ที่อาจเป็นไปได้และก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดเป็นความจริงขึ้นแล้ว… นิยายวิทยาศาสตร์มีจุดประสงค์เช่นเดียวกับนิยายทั่วไปคือ มีความสนุกสนานและความเพลิดเพลินแก่ผู้อ่าน
แต่ก็มีข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดอยู่ ประการแรกคือ นักเขียนจะต้องพยายามสอดแทรกบรรยากาศวิทยาศาสตร์เข้าไปให้มากที่สุด…"

............ กว่า 40 ปีแล้วที่นิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง THE CAVES OF STEEL ผลงานเขียนของ ไอแซก อาซิมอฟ ได้ออกสู่สายตานักอ่านทั่วโลก ถึงแม้จะเป็นนิยายที่ได้รับความนิยมน้อยกว่า  I,ROBOT  แต่ความโดดเด่นของพล็อตเรื่องและรายละเอียดของจินตนาการทางวิทยาศาสตร์ที่   อาซิมอฟใส่ไว้ในหนังสือเล่มนี้ ได้สร้างความประทับใจอย่างลึกซึ้งกระทั่งเป็นแรงเรียกร้องให้       อาซิมอฟเขียนภาคต่ออกมาในชื่อ THE NAKED SUN ซึ่งทิ้งระยะเวลาห่างจากภาคแรกหลายปี แต่ดูเหมือนว่าเรื่องราวที่อาซิมอฟใส่เอาไว้ยังหาจุดจบไม่ได้ จึงมีภาคต่อมาอีกคือ THE ROBOTS OF DAWN ซึ่งเป็นภาคที่ให้รายละเอียดมากที่สุดจนกระทั่งผู้อ่านคิดว่าน่าจะจบลงอย่างสมบูรณ์แล้ว แต่อีกไม่กี่ปีหลังจากนั้นอาซิมอฟก็เขียนงานภาคสุดท้ายในชุดนี้ออกมาคือ ROBOT AND EMPIRE นิยายวิทยาศาสตร์ชุดนี้ของอาซิมอฟ ได้ส่งผลกระทบต่อวงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีค่อนข้างมาก
        ประการแรก เป็นการนำเสนอปรัชญาทางการเมืองของการอพยพมนุษย์บางส่วนออกไปอยู่ตามดวงดาวต่างๆในอวกาศ ซึ่งจะส่งผลให้มีรูปแบบทางสังคม ซับซ้อนมากขึ้นกว่าการดำรงชีพอยู่บนโลก
       ประการที่สองคือการจินตนาการถึงการนำหุ่นยนต์มาใช้งานและใช้ในกิจกรรมต่างๆของมนุษย์ซึ่งอาซิมอฟมีมุมมองที่ลึกซึ้ง ต่อหุ่นยนต์มากกว่าคอมพิวเตอร์ และสร้างจินตนาการว่า ในสังคมอนาคต หุ่นยนต์จะกลายมาเป็นทั้งเพื่อน  ผู้รับใช้  แม้กระทั่งทาสแรงงานหรือคู่ชีวิตของมนุษย์

     ในปัจจุบันนี้ถึงแม้ว่า  พัฒนาการทางคอมพิวเตอร์จะเป็นไปอย่างรวดเร็ว  ในขณะที่พัฒนาการทางหุ่นยนต์เป็นไปได้ช้ามาก  แต่ในวันหนึ่งข้างหน้า ศาสตร์ 2 แขนงนี้จะเข้ามารวมกันเป็นเนื้อเดียวกัน และเมื่อนั้นจะเห็นกันเองว่าจินตนาการของอาซิมอฟเป็นความจริง
 เตรียมปรับตัวเข้ากับสังคมหุ่นยนต์ได้แล้วตั้งแต่วันนี้
 
                                                                                                                                               รักและปรารถนาดี
                                                                                                                                               ณัฐ   ศาสตร์ส่องวิทย์
  1