ความรู้สึกและผลกระทบต่อสถาบันทหารเวียตนาม |
|
ทหารเวียตนามส่วนใหญ่ในสมัย
โง ดินห์ เดียม เป็นพุทธศาสนิกชน
การกระทำของ โง ดินห์ เดียม นายทหารเวียตนามที่นับถือพระพุทธศาสนากับนายทหารที่นับถือคริสต์ศาสนา
ต่างอยู่ในภาวะที่ไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน
และอยู่ในฐานะที่ไม่สะดวกใจในการรับคำสั่งหรือการบัญชาการใดๆ
ในเมื่อต้องอยู่ในสังกัดกรม
กองเดียวกัน
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์อุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนา
พระภิกษุและพุทธศาสนิกชนเผาร่างตนเองนั้น
ทำให้นายทหารที่เป็นพุทธศาสนิกชน
ซึ่งเป็นนายทหารส่วนใหญ่ของกองทัพไม่พอใจ
และเสียใจต่อการกระทำของรัฐบาลเป็นอย่างยิ่ง
ทหารเวียตนามทั้งกรมรบพิเศษ
ผูกผ้าสีเหลืองที่คอ
เพื่อเป็นสัญญลักษณ์แห่งการสนับสนุนพระพุทธศาสนา
โดยแถลงว่า
"พวกเขาไว้ทุกข์ให้พระภิกษุที่เผาตนเอง
เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
อันเป็นอุดมการณ์ของพุทธศาสนิกชน
แต่งเครื่องแบบออกมาเดิน
ขบวนร่วมกับพุทธศาสนิกชน
และประกาศว่าพวกเขาพร้อมที่จะรบและพร้อมที่จะตายเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา
และแจกจ่ายแถลงการณ์
ข่าวการอุทิศชีวิตของพระ ทิจ
กวาง ดึ๊ก ไปยังสาธารณชน
พร้อมเปิดเผยการกระทำอันไม่ถูกต้องของรัฐบาล
แต่ถูกตำรวจคริสเตียนของ โง
ดินห์ ถึก สั่งเก็บเอกสารทั้งหมด
(เหมือนประเทศไทยปี พ.ศ.๒๕๔๒
พ.ต.อ.ตรีทศ รณฤทธิ์วิชัย
รองผบก.ส.๒. ได้ออกคำสั่งที่ ๑\๒๕๔๒
สั่งยึดเอกสารของชมรมชาวพุทธสามเหล่าทัพ
ซึ่งจัดทำโดยนายทหารฝ่ายเสนาธิการสามเหล่าทัพ
จากที่ทำการไปรษณีย์
โดยอ้างว่าทำลายความมั่นคง
ซึ่งการกระทำของตำรวจนั้นเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา
๓๘ มาตรา ๓๙
และมีความผิดกฎหมายอาญามาตรา ๘๖
ฐานตัวการร่วมกันทำลายล้างพระพุทธศาสนา
เพราะเอกสารดังกล่าวเป็นการเปิดเผยขบวนการปลอมแปลงพระไตรปิฎก
ของคริสเตียนโรมันคาทอลิค
และองค์กรต่างๆ) ที่เมืองมีโธ ซึ่งอยู่ทางเหนือไซ่ง่อน ๘๐ กม. ทหารที่นับถือพุทธศาสนา ได้ปะทะกับทหาร ซึ่งเป็นคริสเตียนโรมันคาทอลิคของ โง ดินห์ เดียม มีทหารเสียชีวิต ๖๐๐ นาย บาดเจ็บ ๑๒๐๐ นาย เป็นนายทหารสัญญาบัตร ๗๐ นาย จากคำปราศรัยของประธานาธิบดี จอนด์ เอฟ เคเนดี้ ทางโทรทัศน์ใน วันที่ ๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๐๖ อาจทำให้สามารถวิเคราะห์ได้ว่า เป็นการเห็นด้วย ในการปราบปรามพุทธศาสนิกชนโดยรัฐบาล โง ดินห์ เดียม ใช่หรือไม่ ?? ดังนี้ "สหรัฐจะใช้อิทธิพลที่มีอยู่ ในอันที่จะชักจูงให้รัฐบาลเวียตนามปรับปรุงตนเอง ให้เป็นที่ยอมรับและสนับสนุนของประชาชนส่วนใหญ่ แต่ทว่าการที่สหรัฐจะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จนั้นจะต้องใช้เวลา และเรา (อเมริกัน) ต้องอดทนต่อสถานการณ์ เรา (อเมริกัน) จะไม่ตัดความช่วยเหลือใดๆ ที่มีต่อรัฐบาลเวียตนาม ซึ่งการตัดความช่วยเหลือท่าน (ประชาชนอเมริกัน) อาจจะต้องประสบกับสถานการณ์ล้มเหลวก็ได้" และไม่ปรากฎการกระทำใดๆ หลังจากนั้นอย่างเป็นรูปธรรมจากสหรัฐอเมริกา ในอันที่จะระงับการใช้กำลังปราบปราม เข่นฆ่าชาวพุทธอย่าง ป่าเถื่อน ซึ่งไม่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์ของโลก (และนี่คือก้าวแรกของความพ่ายแพ้ของสหรัฐอเมริกา ในสงครามเวียตนาม ในการยึดฐานมวลชนทางด้านจิตวิทยา ที่สหรัฐพลาดในการวิเคราะห์พื้นฐานความสำนึกในชาติ และศาสนา ของชาวเวียตนาม) |